รูปบทความ 5 เคล็ดลับสร้างความสุขจากสังคมที่อยู่อาศัย จาก พลัส พร็อพเพอร์ตี้

5 เคล็ดลับสร้างความสุขจากสังคมที่อยู่อาศัย จาก พลัส พร็อพเพอร์ตี้



ความสุขที่ได้จากที่อยู่อาศัยนอกจากเราจะได้รับจากตัวบ้านหรือตัวห้องพัก ไม่ว่าจะเป็นที่พักผ่อน ที่คุ้มกันแดดฝนให้แก่เราแล้ว ที่อยู่อาศัยที่ดีจะต้องมอบความอบอุ่นใจและความสุขใจให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ความสุขใจในการอยู่อาศัยนั้นหากเป็นเรื่องภายในบ้านหรือภายในครอบครัวของเราเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงได้รับและสร้างขึ้นมาได้ไม่ยาก เพราะหากมีปัญหาเกิดขึ้นภายในบ้านก็สามารถพูดคุยและปรับความเข้าใจกันได้


หากแต่ในบางครั้งปัญหาที่เข้ามาลดทอนความสุขในการอยู่อาศัยไม่ได้เกิดขึ้นจากภายในบ้านของเราแต่เกิดขึ้นจากเพื่อนบ้านหรือเกิดจากสังคมที่อยู่อาศัย ย่อมเป็นเรื่องใหญ่กว่าปัญหาภายในบ้านอย่างแน่นอน วันนี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร มาร่วมแชร์ข้อมูลส่วนหนึ่งจากกิจกรรม PLUS ดี MOMENT ตอน ส่งต่อความสุข ในหัวข้อ “เห็นสุข สร้างสุข มีสุข และส่งต่อความสุข” เพื่อนำไปปรับใช้กัน



จากประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ของพลัสฯ ซึ่งหนึ่งในธุรกิจหลักคืองานบริหารโครงการที่พักอาศัย แน่นอนว่าในโครงการคอนโดหรือแม้แต่โครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์เอง เป็นลักษณะการอยู่อาศัยร่วมกันของคนจำนวนมาก ย่อมต้องเคยประสบกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างลูกบ้านอย่างแน่นอน พลัสฯ จึงได้ทำการสำรวจและพบว่าปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการที่ลูกบ้านในแต่ละโครงการไม่รู้จักคุ้นเคยกัน จึงไม่เข้าใจกันและมองข้ามการความสำคัญของการถ้อยทีถ้อยอาศัย พลัสฯ จึงได้หากิจกรรมมาเชื่อมความสัมพันธ์ ผ่านการจัดโครงการ Beautiful community – ความสุขเริ่มที่บ้าน


ซึ่งเป็นโครงการที่มีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านทุกช่วงวัย ให้ลูกบ้านในโครงการได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น กิจกรรมวิ่งการกุศล เวิร์คชอปการดูแลผู้สูงวัย การปลูกผักสวนครัวออร์แกนิค หรือกิจกรรมตามเทศกาลสำคัญต่างๆ ซึ่งการสร้างกิจกรรมเหล่านี้ขึ้นมาทำให้ลูกบ้านได้ทำความรู้จักกัน และเกิดความสนิทสนมกัน ลดปัญหาความขัดแย้งจากการกระทบกระทั่งของเพื่อนบ้านอย่างได้ผล เพราะทุกคนไม่ใช่คนแปลกหน้าของกันและกันอีกต่อไป แต่ทุกคนในโครงการกลายเป็นเพื่อนกัน เรื่องเล็กๆ นี้จึงนำมาซึ่งการเป็นคอมมูนิตี้ที่น่าอยู่ให้กับโครงการเหล่านั้น



ซึ่งนอกจากวิธีการสร้างกิจกรรมร่วมกันที่กล่าวในข้างต้นแล้ว เคล็ดลับการสร้างความสุขจากสังคมที่อยู่อาศัย ยังมีอีกหลายประการ โดยมีตัวอย่างที่พลัสฯ ได้รวบรวมมาฝาก 5 ข้อ ดังนี้


  1. ปรับแนวคิดให้มองเห็นความสุข แน่นอนว่าการอยู่ร่วมกันในสังคมใหญ่ย่อมเกิดการกระทบกระทั่งกัน แม้แต่ในกรณีการรอลิฟท์ก็สามารถสร้างความขัดแย้งกันได้ เช่นหากเกิดมีคนแตะบัตรเพื่อจะเข้าลิฟท์แต่คนในลิฟท์กดปิดลิฟท์ทันทีโดยไม่รอให้คนอื่นเข้ามา ก็จะทำให้เกิดความไม่พอใจต่อผู้รอลิฟท์ได้ ซึ่งเมื่อผู้ถูกกระทำเกิดความโกรธและการเอาคืน ย่อมสร้างความขุ่นข้องใจและเกิดความวุ่นวายตามมาได้ ดังนั้น การปรับมุมมองที่เข้าใจผู้อื่น เช่น ลองคิดว่าเขาอาจมีธุระด่วนจึงรีบกดลิฟท์โดยไม่รอ ก็จะทำให้ก้าวผ่านความหงุดหงิดเล็กๆน้อยๆไปได้
  2. แก้ปัญหาด้วยการสื่อสาร เมื่อเกิดปัญหากับเพื่อนบ้านหากเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆ เช่น กิ่งไม้ล้ำเขตรั้วเข้ามา สามารถเข้าไปพูดคุยอย่างสุภาพ ซึ่งส่วนใหญ่หลังการพูดคุยกันปัญหาจะได้รับการแก้ไข้จากข้างบ้าน แต่หากพูดคุยแล้วปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ควรให้คนกลาง ซึ่งคือนิติบุคคลเข้ามาเจรจาแทน เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยและหลีกเลี่ยงการปะทะกัน
  3. ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสร้างสังคมที่น่าอยู่ เช่น การมีแอปพลิเคชั่นสำหรับลูกบ้าน เพื่อแชทพูดคุยกับนิติบุคคลในการจัดการปัญหาเรื่องการอยู่อาศัยต่างๆ ตลอดจนติดตามข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมที่จะจัดขึ้นสำหรับกลุ่มลูกบ้านในโครงการ ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมจะทำให้ได้พูดคุยรู้จักกันในกลุ่มลูกบ้าน ได้เพื่อนใหม่ที่อาจจะสามารถชักชวนกันไปทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกในเวลาว่างร่วมกันได้ หรือบางครั้งเกิดการแลกเปลี่ยนเทคนิคการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ เช่นเทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้อง หรือเคล็ดลับการทำอาหารสูตรเฉพาะของแต่ละบ้าน เป็นต้น
  4. นิติบุคคลต้องสร้างความเท่าเทียม และเห็นคุณค่าลูกบ้านทุกคนอย่างเท่ากัน ข้อนี้เองนิติบุคคลมืออาชีพจะต้องปฏิบัติกับลูกบ้านทุกบ้านอย่างเท่าเทียม เพราะการเลือกปฏิบัตินั้นอาจนำมาซึ่งความไม่พอใจสำหรับบางบ้าน เช่นกรณีลูกบ้านบางรายอาจจะมีน้ำใจมีของฝากให้กับรปภ.อย่างส ม่ำเสมอ แต่รปภ.ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างดีให้เท่าเทียมกันกับลูกบ้านทุกราย ไม่สร้างความพิเศษให้กับรายใดรายหนึ่ง
  5. ส่งต่อความสุขให้แก่กัน ส่งต่อมิตรภาพดีๆ รอยยิ้ม และความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ให้กัน ซึ่งข้อนี้ไม่ได้จำกัดแค่การแบ่งปันน้ำใจให้กันเท่านั้น แต่ยังสามารถพัฒนาไปสู่การสร้างกิจกรรมอื่นๆ ตามมาได้ เช่น กิจกรรมแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ให้เกิดขึ้นในคอมมูนิตี้ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนสิ่งของที่เราไม่ได้ใช้ให้ไปอยู่ในมือผู้ที่ต้องการแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ว่างในบ้านได้อย่างดีอีกด้วย


เคล็ดลับดีๆ เหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้กับทั้งผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการและผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักทั่วไป และอีกข้อคิดหนึ่งที่อยากฝากไว้ คือ การลดปัญหาในสังคมที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดนั้นคือการไม่เอาเปรียบเพื่อนบ้าน ไม่เอาเปรียบกันและกัน แค่นี้สังคมที่อยู่ของเราก็จะมีปัญหาน้อยลง สร้างความสุขให้เราและสามารถส่งต่อความสุขให้คนในสังคมได้อย่างยั่งยืน


ที่มา : พลัส พร็อพเพอร์ตี้

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์