AP เดินหน้าเปิด 34 โครงการใหม่ พร้อมเคลื่อนแผนธุรกิจปี 61 ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก เน้นนวัตกรรมมากขึ้น
7 February 2561
AP เตรียมเดินหน้าขับเคลื่อนแผนธุรกิจด้วย 5 กลยุทธ์หลัก พร้อมเปิดโครงการใหม่ในปี 2561 ทั้งหมด 34 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 33,500 ล้านบาท
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ของประเทศไทย แสดงวิสัยทัศน์ “เชื่อมั่นตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง” โดยเอพีพร้อมเดินหน้ารับเทรนด์ตลาด ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท ด้วยการรุกตลาดเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 49,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ผ่าน 5 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ
1) สานต่อความสำเร็จกับกลุ่ม มิตซูบิชิ เอสเตท
2) เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury
3) รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม
4) ขยายพอร์ตตลาดต่างประเทศ
5) พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี หลังปีที่ผ่านมา (2560) กวาดยอดขายรวมได้กว่า 42,900 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2560 คือ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% หากเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับทิศการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการนำพาเอพีก้าวขึ้นสู่การเป็น 1 ใน 3 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือ การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรม ที่ส่งเสริม และยกระดับ รูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์สู่วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 34 โครงการมูลค่า 49,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท ผ่านแผนการดำเนินงานใน 5 มิติสู่ความสำเร็จ
1) สานต่อความสำเร็จกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท
เดินหน้าสานต่อความร่วมมือเป็นปีที่ 5 กับทางมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โดยปีนี้มีแผนที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับกลางบนอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ไปแล้วจำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท
ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม บริษัทฯ
จะพร้อมเปิดขายคอนโดร่วมทุนโครงการแรก คือ LIFE สุขุมวิท 62 โดย
ณ ปัจจุบัน เอพี-มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มีคอนโดมิเนียมที่พัฒนาร่วมกันทั้งสิ้น
15 โครงการ มูลค่าโครงการสูงถึง 73,000 ล้านบาท
2) เปิดตัวสินค้าระดับ Super Luxury
ด้วยแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค ไฮไลต์ของปีนี้คือ การนำแบรนด์ระดับ
Super Luxury
ของเอพีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
อย่างแบรนด์คอนโด THE ADDRESS และคฤหาสน์หรูแบรนด์ THE
PALAZZO กลับมาพัฒนาอีกครั้ง
เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าระดับบน
ที่มองหาที่อยู่อาศัยพรีเมี่ยมในทำเลศักยภาพ
ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
3) รุกตลาดสินค้าแนวราบ สร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการเฉพาะกลุ่ม
ในปีนี้ทีม AP Design Lab
ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านการดีไซน์
และฟังก์ชั่นการใช้งานภายในตัวบ้าน
เพื่อตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
ซึ่งปัจจุบันเอพีได้พัฒนาแบบบ้านมากกว่า 70 แบบ
กระจายอยู่ตามโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ในทำเลต่างๆ
และในปี 2561 นี้เอพีพร้อมเปิดตัวแบบบ้านใหม่อีกจำนวนมาก
ผ่านแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ จำนวน 30 โครงการ
มูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยเป็น ทาวน์โฮม 17
โครงการ มูลค่า 15,300 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 13 โครงการ มูลค่า
14,700 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ
บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพี
ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE
ULTIMATE CHOICE FOR URBAN FAMILY)
4) ขยายพอร์ตตลาดต่างประเทศ
ผ่านการมอบหมายให้บริษัทในเครือเอพี บางกอก ซิตี้สมาร์ท จำกัด (BC)
ซึ่งดำเนินธุรกิจตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์คลอบคลุมบริการรับฝากขาย
ฝากเช่า
เข้ามาบริหารจัดการดูแลการขายคอนโดมิเนียมเอพีในตลาดต่างประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากปีที่ผ่านมา BC
มีผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดด ถือเป็นโบรเกอร์อันดับต้นๆ
มียอดขายมูลค่าอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 10,000 ล้านบาท
5) พัฒนานวัตกรรมดิจิตอลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านการผสานเทคโนโลยีเข้ากับกระบวนการออกแบบพื้นที่ใช้สอย ซึ่งปีที่ผ่านมาเอพีได้ร่วมกับพันธมิตรในการนำเสนอ นวัตกรรมต่างๆ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย เช่น ล็อกเกอร์อัจฉริยะ AP Smart Pod ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งลูกบ้านในคอนโดมิเนียมสามารถรับของได้ตลอด 24 ช.ม.ด้วยตนเอง รวมถึงการนำเทคโนโลยี IoT มาเชื่อมต่อในทุกพื้นที่อยู่อาศัย เป็นต้น
โดยในปี 2561 นี้ เอพีมีแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมและยกระดับรูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์ไปสู่วิถีใหม่ๆ ครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และปลอดภัยเข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอ ย่างแท้จริงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
“ด้วยความพร้อมด้านทีมงานคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ และพันธมิตรคุณภาพภายใต้ passion เดียวกันที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยคุณภาพ ผมเชื่อว่า เอพี ไทยแลนด์จะสามารถสร้างความแตกต่างและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และยังคงเป็น 1 ใน 3 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยจะนำเสนอ นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคต ผ่านการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เท่าทันต่อโลกในอนาคต เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมไทยให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ" คุณอนุพงษ์กล่าวสรุป
สรุปสำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปี 2561 นี้บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนทั้งสิ้น 34 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 49,000 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 33,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2561 ไว้ที่ 28,100 ล้านบาท
ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่า 5 14,900 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 โครงการ และทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,900 ล้านบาท และ 2 คอนโดมิเนียมใหม่ คือ
Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น จำนวน 1,049 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท โดดเด่นด้วย 1 ก้าวจากสถานีบางหว้า สถานีเชื่อมต่อขนาดใหญ่ระหว่าง BTS และ MRT ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท พร้อมเปิดขายในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้
และ LIFE สุขุมวิท 62 คอนโดมิเนียมร่วมทุน สูง 24 ชั้น จำนวน 438 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เพียง 200 เมตรจาก BTS บางจาก ซึ่งเตรียมเปิดขายผ่านระบบออนไลน์ บุคกิ้งในวันที่ 27 มีนาคมนี้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา (2560) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากสามารถสร้างยอดขายรวมของสินค้าทั้งกลุ่มคอนโด และแนวราบได้มากถึง 42,900 ล้านบาท นับเป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ เกินจากเป้าหมายยอดขายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2560 คือ 26,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นถึง 92% หากเทียบกับยอดขายปี 2559 ที่ทำได้ 22,365 ล้านบาท
โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีนี้นั้น
นอกจากจะมาจากการเปิดตัวสินค้าแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม
22 โครงการใหม่ ซึ่งมีอัตราการเติบโตทางยอดขายอย่างต่อเนื่องแล้ว
ยังมาจากการประสบความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์
LIFE จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว LIFE วิทยุ และ LIFE
อโศก-พระราม 9 ซึ่งทั้ง 3 โครงการสามารถปิดการขายได้ประมาณ
90% ตลอดจนสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Ongoing Projects)
อีกกว่า 90 โครงการ
ที่มีส่วนสำคัญช่วยผลักดันสู่ความสำเร็จครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเ
กินเป้าหมายที่ตั้งไว้