บิ๊กศุภาลัยแนะคอนโด 2563 ควร 'ถูก น่าอยู่ ปลอดภัย และบริการดี'

26 January 2563

นายประทีป ตั้งมติธรรม บิ๊กศุภาลัยแนะนำอสังหาฯ ปี 2563 ควรลงทุนอย่างระมัดระวัง ต้องเผชิญปัจจัยลบ ถ้าให้ดีคอนโดควรถูก น่าอยู่ ปลอดภัย และบริการดี

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจได้รายงานการประเมิณสถานการณ์ของ นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่มีต่อตลาดอสังหาฯ ปี 2563 ไว้ว่าในปีหนูยังมีปัจจัยที่ยังเป็นบวกเข้ามาให้เห็นบ้าง ซึ่งปัจจัยบวกที่ว่านี้ประกอบด้วย

งบประมาณจากภาครัฐเริ่มกระจายไปยังภาคประชาชนฐานราก และภาคก่อสร้าง รวมไปถึงภาควัสดุก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนอย่างหนึ่ง

อัตราดอกเบี้ยต่ำ

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีท่าทีเบาลง

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบที่ยังน่ากังวลอยู่ไม่ใช่น้อยที่กระทบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยนายประทีปได้ยกตัวอย่างปัจจัยลบ ไว้ดังนี้

มีทั้งกลุ่มลูกค้า Real Demand และ กลุ่มที่ระมัดระวังในการใช้จ่าย

เมื่อลูกค้าระมัดระวังการใช้จ่าย จึงบีบให้โครงการต้องลดราคาลง

มีโครงการเก่าเหลือขาย

ค่าเงินบาทแข็งค่า

บิ๊กศุภาลัยแนะคอนโด 2563 ควร 'ถูก น่าอยู่ ปลอดภัย และบริการดี'

โครงการใหม่จะมีน้อย ผู้พัฒนาฯ ควรระมัดระวังมากขึ้น

นายประทีปยังให้ความเห็นอีกว่าในปี 2563 นี้จะมีโครงการใหม่เกิดขึ้นน้อยมากและถ้าจะขึ้นโครงการใหม่ก็ต้องระมัดระวัง ศึกษาตลาดให้ดีก่อนตัดสินใจ "ที่ดินดิบใหม่ๆ จะไม่มีขึ้นโครงการ รวมถึงโครงการในต่างจังหวัด ที่ผู้พัฒนาฯ บางคน หนีจากการแข่งขันกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด หากไปซื้อที่ดินใหม่ที่ราคาแพงกว่าคู่แข่งและไม่ได้ศึกษาพื้นที่อย่างดี จะลำบาก เพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง ดังนั้นจึงต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังไม่ทำอะไรเกินตัว"

ปี 2563 ถ้าจะให้ดีต้องถูก น่าอยู่ ปลอดภัย บริการดี

นอกจากนี้นายประทีปยังได้พูดถึงกลยุทธ์ของศุภาลัยในปี 2563 นี้อีกว่าจะเน้นสร้างสินค้าให้ตรงกับความต้องการในตลาด และจะบริหารด้วยความระมัดระวังทั้งโครงการในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต้องมีความรู้ด้านทำเลและเข้าใจตลาด

"ปีนี้ทำโครงการด้วยความระมัดระวังขึ้น ทำสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นตามความต้องการของลูกค้า ราคาไม่แพงคุ้มค่า น่าอยู่ ปลอดภัย และบริการต้องดี"

ก่อนที่นายประทีปจะกล่าวต่อ "ตามเป้าหมายเปิดตัวโครงการเราไม่ได้ลดลงในปีนี้ เพียงแต่ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดียอดขายในแต่ละโครงการก็น้อยลง โดยคนซื้อคอนโด นักเก็งกำไรลดลง แต่คนซื้ออยู่จริงไม่เปลี่ยน ส่วนบ้านจัดสรรก็ยังไม่ลด จึงเน้นเพิ่มสินค้าในหลากหลายทำเล และทำสินค้าใหม่ๆ"