ทำไมตลาดคอนโด ตลาดวิลล่า 'ภูเก็ต' ถึงซบเซา บทความนี้มีคำตอบ!
28 January 2563
Knight Frank เผยตลาดวิลล่าและตลาดคอนโดในภูเก็ตซบเซา มีการพัฒนาโครงการน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามตลาดวิลล่าราคา 10 - 19 ล้านมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด
นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการบริหาร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด ได้วิเคราะห์ถึงตลาดวิลล่า และตลาดคอนโดในภูเก็ตที่ผ่านมาว่าค่อนข้างซบเซา มีการพัฒนาโครงการน้อยลง ส่วนสาเหตุนั้น นายณัฏฐาได้อธิบายไว้ว่า
"เนื่องจากนักพัฒนาอสังหาฯ เฝ้าดูสถานการณ์ของตลาด นอกจากนี้ผลลัพธ์ของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้ชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของอสังหาฯระดับหรูที่ต้องการขายทรัพย์สินต้องปรับตัวตามทิศทางตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงโดยการคิดอย่างรอบคอบมากขึ้นและรออัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าที่จะขายได้"
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดจะชะลอตัว แต่ตลาดวิลล่าขนาด 2-3 ห้องนอน ช่วงราคา 10-19 ล้านบาทที่ซื้อเพื่อการลงทุนและมีการรับประกันค่าเช่ามีความเคลื่อนไหวมากที่สุด โดยกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และยุโรป นอกจากนี้ตลาดคอนโดเพื่อการลงทุนในระดับมิดเอ็นด์ที่บริหารโดยเครือโรงแรมที่มีชื่อก็เติบโตขึ้นอย่างมาก
"ในด้านตลาดคอนโดฯเพื่อการลงทุนช่วงต้นที่มีราคาอยู่ที่ 3 - 7 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ 90,000 - 120,000 บาทต่อตารางเมตร มีการเติบโตสูงขึ้นในปีนี้ กลุ่มตลาดนี้ไม่มีกระทบมากนักเนื่องจากมีราคาที่ไม่สูง นอกจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มขึ้นทุกๆปี ทำให้เกิดโครงการคอนโดเทล (Condotel) ใหม่หลายแห่งเริ่มทยอยเปิดตัวในช่วง 2 – 3 ปีนี้ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่มีศักยภาพได้ว่าภูเก็ตยังคงเป็นหนึ่งในสถานที่ พักผ่อนที่ดีที่สุดเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน"
ทั้งนี้นายณัฏฐาได้วิเคราะห์ว่าในปี 2563 นี้ตลาดวิลล่าราคาช่วงต้นถึงกลาง และคอนโดราคาต้นๆ จะเติบโตขึ้นประมาณ 10-15% เทียบปีต่อปี และ 15-20% เทียบปีต่อปีตามลำดับ