ไนท์แฟรงค์ วิเคราะห์สำโรง-แบริ่ง ขยายตัวรับการค้าเสรีอาเซียน
7 June 2560
ตั้งแต่มีโครงการรถไฟฟ้าเข้ามาเยือนพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย ก็ดูเหมือนสภาพเศรษฐกิจหลายอย่างจะมีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงย่านทองหล่อ-เอกมัย สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งด้านอุปโภคและสาธารณูปโภค ทั้งยังอยู่ใกล้ศูนย์กลางเชื่อมต่อระหว่างเขตอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม ด้วยปัจจัยที่กล่าวมานี้ จึงส่งผลให้ย่านแบริ่ง-สำโรงเหมาะแก่การถูกผลักดันให้กลายเป็นทำเลทองแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร
ทำเลแบริ่ง-สำโรง นอกจากจะตอบโจทย์ความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่แล้ว ยังสามารถตอบโจทย์คนทำงานในเมืองและคนทำงานในย่านสมุทรปราการได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายวิ่งมาถึงสถานีสำโรง และในอนาคตสถานีสำโรงยังถูกพัฒนาให้กลายเป็น อินเตอร์เชนจ์ (Interchange) จุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีศักยภาพเหมาะแก่การเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างง่ายดายต่างจากสมัยก่อน ที่เมื่อพูดถึง "แบริ่ง-สำโรง" หลายคนก็จะส่ายหน้าเพราะคิดว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก
ขยับจากเมืองหลวง มาเจอไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ถูกและคุ้มค่ากว่า
ซึ่ง นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ก็ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ทำเล "แบริ่ง-สำโรง" ไว้เช่นกัน
ความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งและมูลค่าที่ดินของแบริ่ง-สำโรง
ปัจจุบัน แบริ่ง-สำโรง มีการเดินทางที่ความสะดวกสบายต่างจากเมื่อก่อน เรียกว่า สามารถไปยังศูนย์กลางเมืองธุรกิจสำคัญ อย่าง สุขุมวิท เพลินจิต ชิดลม ได้ในเวลาไม่กี่นาที่ เนื่องจากมีการขยายเส้นทางของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวมาถึงสถานีสำโรง ใกล้กับแยกปู่เจ้าสมิงพาย ทำให้คนทำงานในเมืองและคนในพื้นที่สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้รวดเร็วขึ้น เพียง 16-30 นาทีก็ถึงแหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่อย่างสยามและทองหล่อ นอกจากนี้ สถานีสำโรง ยังเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) ซึ่งถือเป็นย่านที่อยู่อาศัยสำคัญของคนกรุงเทพ และที่มองข้ามไปไม่ได้เลย คือ มูลค่าที่ดินของแบริ่ง-สำโรง ซึ่งในปัจจุบันยังมีราคาที่จับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป ทำให้ต้นทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในตลาดคอนโดมิเนียมแบริ่ง-สำโรงไม่สูง ราคาขายห้องชุดจึงค่อนข้างถูกกว่าย่านอื่นมาก
จะสังเกตเห็นว่าราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมช่วงสุขุมวิทตอนปลาย ในปัจจุบันจะยังไม่สูงมากอยู่ที่ 70,000 - 90,000 บาทเท่านั้น แต่คาดว่าในอนาคตหากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง เสร็จเรียบร้อยพร้อมเปิดให้ใช้งานเมื่อไร ราคาขายคอนโดมิเนียมแบริ่ง-สำโรงก็มีโอกาสขยับตัวสูงขึ้นได้เช่นกัน เหมาะสำหรับนักลงทุนอสังหาฯ มือใหม่ที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า หรือจะซื้อเพื่ออยู่เองก็น่าสนใจไม่น้อย
ความได้เปรียบด้านสาธารณูปโภคและบริการของแบริ่ง-สำโรง
นอกจากจะเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งแล้ว แบริ่ง-สำโรง ยังเด่นเรื่องสภาพแวดล้อมที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ไปจนถึงตลาดขายของสด อาทิเช่น ศูนย์การอินพีเรียลสำโรง ตลาดสำโรง ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค หรือโครงการ Bangkok Mall ศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนที่ดินกว่า 100 ไร่ โดย The Mall Group ซึ่งตอบทุกการจับจ่ายของคนทุกระดับ ทำให้แบริ่ง-สำโรงมีความหลากหลายทางประชากรและทางการค้า จนได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการค้าเสรีอาเซียน ดึงนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในทำเลแห่งนี้
สำโรง ยังคงวิถีชีวิตเดิมของคนในชุมชนเก่า ผู้คนวัยทำงาน และผู้ประกอบการร้านค้า เนื่องจากมีวัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับนำไปขายในราคาถูก และหาได้ครบครันในที่เดียว จึงมีผู้นิยมมาซื้อของฝากจากที่นี่เพราะนอกจากสดสะอาดแล้วยังราคาไม่แพงอีกด้วย
ถึงแม้ว่าสำโรงจะเต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมามากมาย แต่ก็ไม่ได้วุ่นวายมากนัก ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายแบบชุมชนใกล้เมืองอยู่ ผู้คนแถบนี้ล้วนทักทายกันและให้การต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร
หรือจะไปเดิน สำโรงเซ็นเตอร์ ที่อยู่ข้างกัน ก็มีของขายหลากหลาย ทั้งของสด ของใช้ ผักผลไม้ตามฤดูกาล ขนม เสื้อผ้าในราคาที่ถูกกว่า
ตลาดเอี่ยมเจริญก็ถือเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยสำคัญของคนในพื้นที่ มีอาหารทะเลและสัตว์ระบบบ่อเลี้ยงขาย โดยร้านอาหารบริเวณใกล้ๆ มักมาหาซื้อวัตถุดิบสดๆ จากที่นี่ไปประกอบอาหารขาย นอกจากนี้ยังมีการแปรรูปเป็นของฝากให้เลือกมากมายและราคาไม่แพง เช่น ปลากรอบ ปลาหมึกตากแห้ง ปลาเส้น เป็นต้น
ความได้เปรียบด้านแหล่งทำงานของแบริ่ง-สำโรง
หากพิจารณาถึงเหตุผลในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมของคนรุ่นใหม่ เหตุผลหลักๆ คงหนีไม่พ้นคอนโดใกล้ที่ทำงานเป็นแน่ เนื่องจากความสะดวกในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ซึ่ง แบริ่ง-สำโรง ถือว่าเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อของพื้นที่เชิงอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม หากขยับไปทางถนนปู่เจ้าสมิงพราย เทพารักษ์และสมุทรปราการ ก็จะเจอนิคมอุสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย ที่บริษัทและโรงงานตั้งอยู่บริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ แบริ่งสำโรง เหมาะแก่การตั้งหลักปักฐานของกลุ่มคนทำงาน
ซึ่งอุปทานคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิทตอนปลาย (ช่วงสี่แยกบางนา-สมุทรปารการ) จะมีปริมาณค่อนข้างมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2557-2558) สอดรับกับอุปสงค์ที่มีอยู่ในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งทำงานของตน
ในปัจจุบันระดับราคาขายคอนโดมิเนียมแบริ่ง-สำโรงเฉลี่ยอยู่ประมาณ 78,157 บาท/ตารางเมตร หรือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงสุด 7% ต่อปี โดยมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสายสีเขียว แลtยังมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกในปี 2561 - 2563 เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการตลอดเส้นทางแล้ว
โดย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ก็เล็งเห็นถึงศักยภาพในพัฒนาของพื้นที่แบริ่ง-สำโรงด้วย จึงมีแนวคิดก่อสร้างโครงการ The Metropolis Samrong Interchange (เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) ขึ้นในเฟสที่สอง หลังจากเฟสแรก (อาคารA และ อาคาร C) ประสบความสำเร็จ ปิดยอดขายได้ 100%
สำหรับเฟสสองนี้จะเป็นในส่วนของอาคาร B คอนโดมิเนียม High Rise สูง 30 ชั้น รวม 552 ยูนิต อยู่ติดสถานีสำโรง อินเตอร์เชนจ์พอดิบพอดี ตัวห้องตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพดีจากทางโครงการ ขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ในราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท ซึ่งจะมีกำหนดการเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 10-11 มิถุนายนที่จะถึงนี้ หากใครสนใจสามารถร่วมลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ที่ http://www.metroprop.co.th สอบถามรายละเอียด (0)2 024 8000