รูปหน้าปก ใช้ชีวิตแบบ Luxury Redefined ในย่านสาทร กับคอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้า BTS 0 เมตร ‘ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)’ จาก Grand Unity

[Review] ใช้ชีวิตแบบ Luxury Redefined ในย่านสาทร กับคอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้า BTS 0 เมตร ‘ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)’ จาก Grand Unity

ถนนสาทรเหนือ (ติดกับซอยสาทร 12) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ

Grand U (แกรนด์ ยู)

HIGHLIGHTS

  • ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) คอนโด High Rise ระดับ Super Luxury ใจกลางย่านสาทร ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า
  • เป็นโครงการที่เดินทางสะดวก เพราะอยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีศึกษาวิทยาแบบ 0 เมตร (สถานีใหม่อยู่ระหว่างสถานีช่องนนทรี และ สถานีสุรศักดิ์) และอยู่ติดถนนสาทรเหนือ ที่มีซอยสาทร 12 เป็นทางลัดไปยังถนนสีลมได้สบาย ๆ
  • อาคารที่พักอาศัยแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองในขั้นตอน WELL Multifamily Precertified™ Gold Level ตามมาตรฐาน WELL Building Standard ใช้วัสดุระดับพรีเมียม นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ปลอดภัยจากสารอันตรายต่างๆ ช่วยส่งเสริมสุขภาพของผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น
  • ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นที่ 11 ล้านบาท


PROJECT REVIEW

สำหรับบางคน 'ความหรูหรา' ของการอยู่อาศัยอาจไม่ใช่แค่การใช้วัสดุภายนอกราคาแพง แต่อาจหมายถึงการให้ราคาสำหรับสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่าง 'สุขภาพ'  ของชีวิต


ดังนั้น...สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว การเลือกที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการเป็น First Place สถานที่พักผ่อนอันสำคัญนั้น จึงควรเป็นสถานที่ที่ช่วยยกระดับทั้งด้าน ‘สิ่งแวดล้อมที่หรูหรา’ และ ‘สุขภาพ’ ให้ชีวิตมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการเลือกใช้ชีวิตอยู่ในย่านธุรกิจ (CBD) ที่เรามักยกให้เป็น Second Place เพื่อช่วยให้ชีวิตการทำงานดำเนินไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด!


ใช้ชีวิตอย่างมีระดับไปกับนิยามใหม่ของคำว่าหรูหรา ที่ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)


วันนี้ ESTO ของเราจะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ ‘ANIL Sathorn (อนิล สาทร 12)’ คอนโดที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้ชีวิตและการทำงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์และรูปแบบโครงการที่น่าสนใจจากผู้พัฒนาชื่อดัง Grand Unity ที่ยกเอาจุดเด่น มาตรฐานการออกแบบเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้อยู่อาศัย มาเป็นคอนเซ็ปต์หลักของโครงการ พร้อมเลือกทำเลบริเวณ ‘ปากซอยสาทร 12’ (ทำเลเก่าของอาคาร Double A) ซึ่งอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่าง 'สถานีศึกษาวิทยา' สถานีรถไฟฟ้า BTS ในอนาคตแบบ 0 เมตร ในราคาเริ่มต้นที่ 11 ล้านบาท


รายละเอียดโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

ชื่อโครงการ : ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

เจ้าของโครงการ : Grand Unity Development Co., Ltd.

ที่ตั้งโครงการ : ถนนสาทรเหนือ (ปากซอยสาทร 12) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ

พื้นที่โครงการ : 1-2-41.30 ไร่

ลักษณะโครงการ : อาคาร High Rise สูง 42 ชั้น จำนวน 1 อาคาร

จำนวนห้อง : 222 ยูนิต

รูปแบบห้อง :

  • 1 BEDROOM ขนาด 45.00 – 46.00 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOMS ขนาด 62 – 92.5 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOMS PLUS ขนาด 111 – 114.5 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOMS DUPLEX ขนาด 104.00 ตารางเมตร
  • 3 BEDROOMS ขนาด 109.50 ตารางเมตร
  • PENTHOUSE ขนาด 509.50 ตารางเมตร

จำนวนที่จอดรถ : ระบบจอดรถอัตโนมัติ (110%)

EIA : ผ่าน

เริ่มก่อสร้าง : May 2019

คาดว่าจะแล้วเสร็จ : April 2022

ราคาเริ่มต้น : 11 ล้านบาท

คลิกเพื่อรับส่วนลด : https://bit.ly/2Kk7qwI


รู้จักกับโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

เปลี่ยนวิถีชีวิตแบบเดิม ๆ ให้ใกล้ชิดกับสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมยกระดับชีวิตให้มีคุณภาพไปกับคอนโดคอนเซ็ปต์ดีอย่าง ‘ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)’ จาก Grand Unity ผู้พัฒนาด้านอสังหาฯ ที่รู้จักกันดีจากโครงการ เดอ ลาพีส จรัญ 81 เซียล่า ศรีปทุม และ แมสซารีน รัชโยธิน ในปีที่ผ่านมา

ซึ่งในปี 2019 นี้ Grand Unity ได้กลับมาพร้อมคอนโดใหม่ ระดับ Super Luxury ที่ไม่ได้มีดีแค่ความหรูหราของวัสดุ หรือทำเลที่ตั้งโครงการเท่านั้น แต่สิ่งที่พรีเมียมกว่าและเป็นจุดขายของโครงการนี้ คือ การเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกของไทยที่ผ่านการรับรอง WELL Precertified ™ for Multifamily Residential Project ระดับ Gold ตามมาตรฐาน WELL Building Standard จาก International WELL Building Institute (IWBI) ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย ให้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมภายในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Luxury Redefined’ ที่ให้คุณค่าต่อแก่นแท้ของการใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริงด้วยการดีไซน์รายละเอียดภายในโครงการให้ตอบสนองความต้องการสำหรับคนรักสุขภาพแบบครบวงจร


7 เรื่องคุณภาพที่ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) คัดสรรมาให้


สำหรับมาตรฐานการอยู่อาศัยที่ทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) นำมาใช้ประกอบการดีไซน์ และออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อยกระดับสุขภาพนั้น จะมีด้วยกัน 7 ข้อ ได้แก่

  • คุณภาพอากาศที่บริสุทธิ์ (Air)
  • คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้ (Water)
  • สุขภาวะด้านโภชนาการ (Nourishment)
  • การออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสม (Light)
  • สุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย (Fitness)
  • ความรู้สึกสบาย (Comfort)
  • ความสุขทางใจ (Mind)

ซึ่งทั้งหมดนี้ จะสอดแทรกอยู่ทั้งในตัวอาคาร, พื้นที่ส่วนกลาง, วัสดุ, ห้องพักอาศัย ตลอดจนกิจกรรมที่ทำภายในโครงการ เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาวะที่ดีที่สุดตามมาตรฐาน WELL Building Standard


Floor Plan โครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

หลังจากรู้จักกับคอนเซ็ปต์ของโครงการกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเรื่องของ ‘สุขภาพ’ ที่ทาง ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ใส่ใจดีไซน์มาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ทั้งจากภายในและภายนอกอาคาร ว่าจะมีอะไรกันบ้าง?

เริ่มจาก Master Plan ของทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ที่แสดงที่ตั้งของอาคารบนพื้นที่ขนาด 1-2-41.30 ไร่ โดยประตูทางเข้าจะอยู่ ในซอยสาทร 12 โดยฝั่งที่ติดกับถนนเส้นหลัก ทางโครงการจะออกแบบเป็น Green Sanctuary สวนหย่อมดีไซน์โค้งมน ไว้รองรับการเดินเล่น, ออกกำลัง รวมถึงช่วยบดบังสายตาจากภายนอกได้ด้วย

  • พื้นที่ของโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) จะอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีศึกษาวิทยา

เมื่อเข้ามาสู่ตัวอาคาร ด้านหน้าประตูทางเข้าจะมีจุด Drop off สำหรับรับ-ส่งผู้โดยสาร โดยติดกันนั้นจะเป็นส่วนของ LOBBY และถัดจากล็อบบี้เข้าไปก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องน้ำ, Mail room โถงลิฟต์ ที่ทางโครงการจัดมาให้ทั้งหมด 4 ตัวแบบล็อกชั้น (อีก 1 ตัวเป็น Service Lift) และทางขึ้นห้องนิติบุคคลบริเวณชั้นลอย

นอกจากนี้ยังมีส่วนของลานจอดรถ ซึ่งพิเศษกว่าที่ไหน ๆ ด้วยการออกแบบมาให้เป็น Auto Parking ที่โครงการจัดมาให้ถึง 110% โดยจะแยกจุดขึ้น-ลงของ Auto Parking ออกเป็น 2 ช่อง และมีจุด Drop off ไว้ให้ขึ้นลงก่อนนำรถเข้าสู่ตัวลิฟต์ จากนั้นจะมี Duo Robot Automatic Parking คอยรับรถเข้าสู่ตัวลิฟต์ เพื่อความสะดวก และปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย

  • ภายในโครงการจะทำเป็นถนนแบบ One Way เมื่อวนซ้ายเข้ามาจะเจอกับสวนและจุด Drop off ก่อน ส่วนลานจอดรถจะอยู่บริเวณฝั่งตรงข้าม แยกเป็นส่วนให้จอดรถจักรยานยนต์, พื้นที่จอดจักรยาน รวมถึงพื้นที่ซ่อมบำรุงไว้ด้านข้าง และ Auto Parking แบบ 2 ช่องจอด

ถัดจากลานจอดรถขึ้นมา จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในชั้นที่ 12 ซึ่งจะประกอบด้วย

  • AL FRESCO @ 12 ลานอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรม
  • ANIL Lounge เลาจน์ส่วนตัวสำหรับนั่งพักผ่อนแบบ Indoor
  • Library ห้องสมุดพร้อมห้อง Private Study Room สำหรับให้บุตรหลานใช้นั่งอ่านหนังสือ หรือติวพิเศษกับอาจารย์แบบตัวต่อตัว
  • Kids Room ห้องสำหรับนันทนาการลูกน้อย
  • Social Dining จัดปาร์ตี้ให้สนุกสุดเหวี่ยงกับบรรยากาศดี ๆ พร้อมจัดเตรียมอาหารอย่างเป็นระเบียบภายในห้อง Curinary Area ที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งทางโครงการก็ได้จัดเตรียมน้ำดื่มที่มีคุณภาพตามมาตรฐานไว้ให้กับผู้พักอาศัยด้วย
  • ชั้นจอดรถจะเริ่มที่ชั้น 2-11 ส่วนชั้นที่ 12 นั้นจะเป็นพื้นที่ Facilities สำหรับครอบครัว ที่ออกแบบพื้นที่มาให้กลมกลืน และเชื่อมต่อเข้ากันดีกับธรรมชาติ
  • ส่วนตัวอาคารพักอาศัยที่อยู่ถัดขึ้นไป จะออกแบบมาในคอนเซ็ปต์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “รีมกระดาษ” อย่าง facade ของอาคารก็ออกแบบให้เหมือนกระดาษที่วางซ้อนทับกัน เพื่อใช้บังแดด บังลม รวมถึงสื่อถึงประวัติของพื้นที่ ที่แต่เดิมเป็นของอาคาร Double A นั่นเอง

ถัดมาที่ชั้น 12A - 35 จะเป็นพื้นที่พักอาศัยแบบเต็มตัว แบ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms โดยผังของอาคารจะวางตัวแบบ ‘Single Corridor’ ที่เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย พื้นที่โถงมีขนาดกว้าง และแต่ละห้องจะไม่หันหน้าชนกัน แถมยังมีลมโกรกเย็นสบาย เนื่องจากมีพื้นที่เปิดโล่งในตัวอาคารมากขึ้น

พอขึ้นมาบนชั้น 36-39 จะเป็นยูนิตห้องขนาดใหญ่ขึ้น มีทั้งแบบ 2 Bedrooms และ 3 Bedrooms ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะให้ความเป็นส่วนตัวขึ้นไปอีกระดับ เนื่องจากจำนวนยูนิตต่อชั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 ยูนิตเท่านั้น

และกลับมาเป็นพื้นที่ในส่วนของ Facilities อีกครั้งที่ชั้น 41 กับจุดชมวิวพร้อมพื้นที่ส่วนกลางหลัก อย่าง Ozone Sky Pool สระว่ายน้ำรูปทรงตัว L shape ระบบโอโซน ที่แยกออกเป็นสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ชัดเจน พร้อมเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหย่อมสีเขียวอย่าง Sky Garden ด้วยเกาะกลางที่ทำเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง, บันได รวมถึง Lift Lobby สำหรับใช้ขึ้น-ลงอาคาร

หยุดพักให้ร่างกายได้ฟื้นฟูกับวิวสวย ๆ และ Facilities ดี ๆ ที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจในเรื่องสุขภาพกับ Sky Garden และ Ozone Sky Pool บนชั้น 41 ของโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

ชวนกันมาออกกำลังกายท่ามกลางวิวอันสวยงามของใจกลางกรุงเทพมหานครกับ Panoramic gym ที่ออกแบบให้อยู่บนชั้นบนสุดของโครงการ พร้อมแยกจุดออกกำลังกายออกเป็นส่วน ๆ ทั้งจุด cardio, Weight Training, Serene Zone, Pilates Zone รวมถึงโซน Steam and Sauna ก็ถูกแยกไว้ต่างหากด้วย


พื้นที่ส่วนกลางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

เต็มที่ไปกับการพักผ่อนและสูดอากาศบริสุทธิ์ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับชีวิตด้วย Green Sanctuary สวนหย่อมดีไซน์โค้งมน ที่รองรับทั้งการออกกำลังกายและไว้เดินเล่น หรือจะเลือกนั่งพักผ่อนที่ม้านั่งที่ทางโครงการจัดวางไว้ให้ ก็ล้วนตอบโจทย์ด้านสุขภาพ และความแข็งแรงของร่างกาย (Fitness) ของผู้อยู่อาศัยได้ทุกเพศ ทุกวัย

สำหรับด้านการตกแต่งอาคารนั้น ทางโครงการก็เลือกดีไซน์ออกมาในรูปแบบ Modern ให้ความรู้สึกทันสมัยและ Luxury ตั้งแต่ประตูทางเข้าอาคาร โดยวัสดุทั้งหมดจะคัดสรรมาอย่างดี เป็นวัสดุระดับคุณภาพที่มีสารเคมีหรือสารพิษที่ก่อมะเร็งต่ำ ตั้งแต่กาว, สี, สารเคลือบผิว, ไม้อัด, วัสดุปูพื้น และฉนวนกันความร้อนที่ผ่านมาตรฐาน CDPH หรือ California Department of Public Health ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อคุณภาพอากาศ (Air) ที่ดีที่สุด

เพิ่มความสุขทางใจ (Mind) ให้ดีเยี่ยมด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้ผสมผสานเข้ากับธรรมชาติ  ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่โถงต้อนรับ Lobby ที่ให้ความรู้สึกถึงความโปร่งโล่งสบายตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน รวมถึงการออกแบบห้องพักอาศัยให้มีระยะจากพื้นจรดฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร

นอกจากนี้ยังคำนึงถึงความรู้สึกสบาย (Comfort) ด้วยการควบคุมเสียงจากภายนอก จากการติดตั้งกระจกอลูมิเนียมกรองเสียง มาตรฐานเยอรมัน จาก SCHUECO 

คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้ (Water) ก็เป็นเรื่องสำคัญ ทางโครงการติดตั้งระบบท่อน้ำที่ปราศจากสารตะกั่ว (Lead-free piping) ที่อาจก่อให้เกิดโรคในระยะยาว รวมถึงมีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำมาตรฐานระดับ 3 M ในทุกห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมจัดเตรียมพื้นที่ทำกิจกรรมไว้ให้อย่างเหมาะสม เพื่อรองรับกับทุกฟังก์ชันการใช้งาน

ใส่ใจสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย (Fitness) มากขึ้นอีกขั้น ด้วยการคำนวณและกำหนดจำนวนอุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งเครื่องคาดิโอ (Cardiorespiratory Exercise Equipment) และเครื่องเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Muscle-strengthening Exercise Equipment) ภายใน Panoramic Gym

สร้างความพิเศษ ให้เราใช้พื้นที่ส่วนกลางได้อย่างปลอดภัยกับการออกแบบ Ozone Sky Pool สระว่ายน้ำระบบโอโซนที่ฆ่าเชื้อโรคภายในน้ำได้เร็วกว่าคลอรีน และยังช่วยสลายพิษจากปฏิกิริยาของคลอรีน ทำให้ไม่เกิดการระคายเคืองหลังจากใช้สระว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของใจกลางสาทรขณะว่ายน้ำได้กว้างกว่า 180 องศา

นอกจากนี้ยังออกแบบพื้นที่เฉพาะสำหรับเด็ก ๆ อย่าง Kids Room และ Library ให้มีโซน Private Study ไว้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้โดยเฉพาะ

ใช้ชีวิตเพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ พร้อมพบปะสังสรรค์กับคนที่เรารักกันได้ที่ ANIL Lounge เลาจน์ส่วนตัวสำหรับนั่งพักผ่อนแบบ Indoor ที่ดีทั้งระบบอากาศ ความสะดวกสบาย รวมถึงทัศนียภาพที่เปิดกว้าง


รูปแบบห้องของโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)

รูปแบบห้องพักของ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) จะมีให้เลือกหลากหลาย เริ่มตั้งแต่ Type 1 BEDROOM ที่มีขนาดตั้งแต่ 45.00 – 46.00 ตารางเมตร มีให้เลือกทั้งหมด 6 ผัง ตามแต่ตำแหน่งที่ตั้ง โดยห้องทั้งหมดจะอยู่ในชั้นที่ 12-35 ของอาคาร

สำหรับห้อง Type 2 BEDROOMS จะมีให้เลือก ดังนี้

  • 2 BEDROOMS ขนาด 62 – 92.5 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOMS PLUS ขนาด 111 – 114.5 ตารางเมตร

โดย 2 Types นี้จะมีทั้งหมด 6 แบบตามแต่ที่ตั้งของตัวห้องภายในอาคาร และมีให้เลือกตั้งแต่ผังรูปจัตุรัส, ห้องหน้ากว้าง ไปจนถึงห้องมุมในชั้นสูง ๆ

  • 2 BEDROOMS DUPLEX ขนาด 104.00 ตารางเมตร

เพิ่มความรู้สึกให้เหมือนอาศัยอยู่บ้านมากขึ้น ด้วยห้อง Type 2 BEDROOMS DUPLEX ที่แยกส่วนของการทำกิจกรรมต่าง ๆ และส่วนพักผ่อน 

แยกพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยห้อง Type 3 BEDROOMS ขนาด 109.50 ตารางเมตร ที่เพิ่มส่วนของ Multi Purpose เข้ามา ให้เราจัดเป็นห้องทำงาน หรือตกแต่งเตรียมเป็นห้องนอนรับแขกเพิ่มอีกห้องหนึ่งก็ได้


ROOM REVIEW

มาสำรวจห้องตัวอย่างของทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ที่จัดมาให้ชมทั้งหมด 2 แบบ 2 สไตล์ด้วยกัน โดยทางโครงการได้ขายแบบ Fully Fitted ในระดับพรีเมียมด้วยวัสดุนำเข้า, เครื่องปรับอากาศ, ชุดครัว และสุขภัณฑ์ รวมถึงการออกแบบที่พักอาศัยตามมาตรฐาน WELL Building Standard เพื่อให้สุขภาพและการใช้ชีวิตภายในห้องนั้น มีประสิทธิภาพดีและ Luxury มากกว่าที่เคย


2 BR 63 SQ.M

สำหรับห้อง Type 2 Bedrooms 63 SQ.M. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จะออกแบบฟังก์ชันระหว่างพื้นที่พักผ่อนและงานระบบต่าง ๆ มาให้อย่างลงตัว โดยฝั่งของพื้นที่พักผ่อน (ครึ่งบนของแปลน) ก็ได้ออกแบบมาให้กว้างเป็นสัดเป็นส่วน พร้อมอยู่ติดกับระเบียงที่สามารถ Take view ได้ทุกจุด รวมถึงแยกพื้นที่เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวด้วยการกั้นโซนห้องนอนแยกออกจากส่วนของงานระบบ (ครึ่งล่างของแปลน) ที่ถูกจัดผังแปลนมาให้ง่ายต่อการใช้งาน และง่ายต่อการเดินระบบภายในอาคาร

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับความโปร่งโล่งของตัวห้องเป็นอันดับแรก เนื่องจากทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ได้ออกแบบ ‘ห้องนั่งเล่น’ และ ‘ห้องนอน’ ขนาดใหญ่ มีระยะจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูงถึง 3 เมตร ส่วนพื้นที่ครัวจะสูง 2.60 เมตร ทำให้ห้องดูกว้างและเป็นไปตามมาตรฐานด้าน ความสุขทางจิตใจ (Mind) ของทาง WELL Building Standard ที่ต้องคำนึงถึงการอยู่อาศัยในทุกจุด

  • ดูแลความปลอดภัยให้เจ้าของห้องด้วยระบบ Digital Door Lock จาก Dormakaba ที่รองรับทั้งลายนิ้วมือ, การ์ด, รหัสผ่าน, กุญแจ, บลูทูธ หรือรีโมทคอนโทรล (อุปกรณ์เสริม) เพื่อเปิดประตู

  • สำหรับพื้นภายในห้องจะเป็น Hybrid Engineered หนา 14 มม. จากแบรนด์ Quick Step ประเทศเบลเยี่ยม ที่ให้สัมผัสเหมือนไม้จริง พร้อมเคลือบผิวกันน้ำ และป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี

  • สำหรับเครื่องปรับอากาศที่โครงการติดตั้งมาให้ จะเป็นแบบซ่อนฝ้าจากแบรนด์ DAIKIN INVERTER เพื่อลดเสียงรบกวนจากเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • นอกจากนี้ยังมีการเลือกใช้ ERV SYSTEM (Energy Recovery Ventilation) จาก MITSUBISHI ELECTRIC ซึ่งเป็นระบบระบายอากาศชนิดพิเศษ ที่ช่วยนำอากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้ามาสู่ภายในห้องพัก ทั้งยังป้องกันฝุ่นในระดับ PM 2.5 พร้อมช่วยตรวจจับคาร์บอนไดออกไซด์ภายในห้อง เพื่อเปลี่ยนถ่ายอากาศให้สุขภาพอากาศดียิ่งขึ้น

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเป็นแบบ Built-in โดยจะเริ่มกันที่ตู้รองเท้าบานเปิดคู่ ที่ออกแบบมาให้สูงจรดเพดาน เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของได้มากยิ่งขึ้น

ติดกันจะเป็น ‘พื้นที่ครัวแบบเปิด’ ซึ่งจะได้เคาน์เตอร์ครัวแบบเข้ามุมรูปตัว L ที่แยกเป็นโซนเตรียมอาหารกับโซนประกอบอาหารชัดเจน นอกจากนี้ยัง Built-in ชุดครัวมาให้เรียบร้อย ทั้งตู้บนและเคาน์เตอร์ด้านล่าง โดยหน้าบานของชุดครัวจะเป็น HPL Hi GLOSS ให้ความรู้สึกหรูหรา ส่วนท็อปครัวจะเป็นหินควอซต์ ที่เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย

สำหรับชุดครัวที่ทาง ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) จัดมาให้นั้น จะมีชุดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก BOSCH เป็นเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันที่สามารถปรับระดับได้เอง และมี COMPACT STEAM OVEN เตาอบระบบไอน้ำ Built-in มาให้ เพื่อคงคุณภาพ และรักษาคุณค่าของสารอาหารตามมาตรฐานด้านสุขภาวะด้านโภชนาการ (Nourishment) มาให้ด้วย

ขยับมาที่ส่วนการเตรียมอาหารและการเก็บล้างกันบ้าง โดยทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ได้จัดเซ็ตอ่างล้างจานจาก FOSTER และก๊อกน้ำ KOHLER ที่ออกแบบมาให้มีสองอ่าง พร้อมคำนวณระยะก๊อกน้ำ เพื่อส่งเสริมการเตรียมอาหารให้สะอาดและถูกสุขอนามัย นอกจากนี้ใต้อ่างยังมีการติดตั้ง UNDER SINK WATER PURIFIER จาก 3M เพื่อช่วยควบคุมคุณภาพของน้ำในการประกอบอาหารและใช้ในการดื่มอีกด้วย 

สำหรับห้องแบบ 2 Bedrooms จะมีเครื่องล้างจานมาให้ด้วย

นอกจากนี้ทางโครงการยังติดตั้งตู้เย็นแบบ Built-in Refrigerator จาก BOSCH มาให้ โดยจะเป็นตู้เย็นที่มี temperature display แสดงอุณหภูมิชัดเจน และมีชั้นวางที่แบ่งการเก็บอาหารสดอย่างมีคุณภาพ

ถัดจากโซน Cooking Area จะเป็นพื้นที่ว่างที่เชื่อมต่อไปยังโซน Living Room ทำให้พื้นที่ภายในห้องมี Space ต่อเนื่องถึงกัน สามารถจัดเป็นโซนทำกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้สบาย

ยกตัวอย่างเช่น การจัดเป็นมุมโต๊ะรับประทานอาหาร ที่เราอาจขยับขยายได้เองตามรูปแบบงานปาร์ตี้ ซึ่งสะดวกมาก ๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับโซนทำอาหารและโซนทำกิจกรรม อย่าง ห้องนั่งเล่นพอดี

ถัดมาเป็นโซน ‘Living Room’ พื้นที่นันทนาการเพื่อการพักผ่อน ที่เราสามารถจัดเป็นห้องโฮมเทียร์เตอร์เล็ก ๆ พร้อมรับชมวิวเมืองย่านสาทรไปพร้อม ๆ กันได้ โดยขนาดของพื้นที่โซนนี้ก็กว้างพอให้วางโซฟาตัวยาว, Coffee Table และติดตั้งทีวี Built-in ขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ

สำหรับ Living Room ก็จะเน้นการ Take View ในมุมกว้าง โดยการกั้นด้วยกระจก Laminated Glass กันความร้อนได้ดี ส่วนกรอบประตูบานเลื่อนจะทำจากวัสดุอลูมิเนียมสีดำ พร้อมราวกันตกที่สามารถเปิดรับลมในช่วงเช้าหรือช่วงหัวค่ำได้ จาก SCHUECO

ถ้าพูดถึงความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย แน่นอนว่า เราต้องนึกถึง Home Automation ซึ่งที่นี่ก็ได้ทำการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์สำหรับควบคุมการปิด-เปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และ ระบบ ERV มาให้โดยเฉพาะ

ถัดจากส่วน Living Room จะเป็นส่วนของห้องน้ำรับแขก และห้องนอน โดยจะกั้นแยกส่วนออกไปชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวและเหมาะแก่การพักผ่อน

ห้องน้ำของทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ได้จัดการแยกโซนเปียกและโซนแห้งมาให้ชัดเจน โดยตัวพื้นจะปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนส์กันลื่นแผ่นใหญ่ ที่เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ส่วนสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำ ทางโครงการจะเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์จาก TOTO เหมือนกันทุกยูนิต

  • เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าดีไซน์เป็น หินควอทซ์ ไร้รอยต่อ ด้านโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบ WALL-HUNG TOILET AND PUSH PLATE ที่ทั้งสวยและใช้งานง่าย
  • มีจุดเสียบปลั๊กไฟให้ด้านข้างอ่าง สำหรับใช้เสียบไดร์หรือที่โกนหนวดไฟฟ้า เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ถัดมาที่โซนเปียก ซึ่งทางโครงการจะกั้นแยกส่วนนี้ด้วย Shower Box ที่มีขนาดกว้างพอดี ให้เราเข้าไปยืนได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมติดตั้งฝักบัวจาก TOTO มาให้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower พร้อมเจาะช่องที่ผนัง สำหรับใช้วางเครื่องอาบน้ำแยกต่างหากด้วย

ติดกับห้องน้ำรับแขกจะเป็นตู้บานเปิดคู่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการก็ได้ให้แบบ WASHER AND DRYER ในเครื่องเดียวมาด้วย ส่วนด้านบนที่เห็นอยู่ในตู้จะเป็นตัว BOILER จาก STIEBEL ELTRON ที่ใช้กับ ระบบน้ำร้อนทุกส่วนภายในห้องพัก

ถัดมาเป็นส่วนของ Master Bedroom ที่มีพื้นที่ห้องค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมโต๊ะข้างหัวเตียงได้สบาย ๆ

  • นอกจากเรื่องพื้นที่แล้ว ทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ยังคำนึงถึงการออกแบบห้องนอนให้มีคุณภาพด้านการนอนที่ดี ด้วยการออกแบบแสงสว่างให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่การใช้งาน โดยจะมีการป้องกันแสงจ้าที่เกิดจากแสงประดิษฐ์และแสงธรรมชาติ

เพิ่มความสุขให้กับการพักผ่อนมากขึ้นด้วยกระจกบานสูง ที่เปิดโล่งให้เห็นวิวกว้างกว่า 180 องศา แต่ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวและควบคุมแสงสว่างภายในห้องให้ดียิ่งขึ้น ทางโครงการก็ได้จัดผ้าม่านที่ช่วยป้องกันแสงเข้าได้ 100% (Black-out shade) มาให้ด้วย

  • บริเวณปลายเตียงจะมีการติดตั้งช่องปลั๊กไฟสำหรับติดตั้งทีวีมาให้ โดยตัวปลั๊กและสวิตซ์ไฟที่ใช้ในห้องทุกจุดจะเป็นของ Schneider Electric ที่ดีไซน์มาให้ดูเรียบหรูในสไตล์โมเดิร์น กลมกลืนไปกับผนังและพื้นได้เป็นอย่างดี

ถัดมาเป็นส่วนของงานระบบต่าง ๆ อย่าง Private Balcony ที่ทำแยกส่วนออกมาเป็นโซนตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์เรียบร้อย ซึ่งในห้อง 2 Bedrooms จะมีเครื่องปรับอากาศให้ทั้งหมด 3 ตัว นอกจากนี้ก็จะมีก๊อกน้ำไว้สำหรับซักล้างอื่น ๆ ด้วย

เดินกลับเข้ามาในส่วนของ Walk-in Closet กันต่อ โดยทางโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ได้จัดทำตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in บานสไลด์ หน้าบาน HPL Hi GLOSS ไว้ให้ใช้งาน และโซนนี้จะอยู่ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ ทำให้เดินมาใช้งานได้อย่างสะดวก

พิเศษกว่า เพราะทางโครงการได้เพิ่มฟังก์ชันการใช้ชีวิตให้สะดวกขึ้น ด้วยการติดตั้งระบบไฟ ซึ่งเป็นระบบเซ็นเซอร์ เพื่อเปิดไฟนำทางเฉพาะจุดไปยังห้องน้ำในตอนกลางคืน โดยที่เราไม่ต้องเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง ให้รบกวนการนอนเลย

สำหรับฟังก์ชันภายในห้องน้ำของ Master Bedroom จะคล้ายกับห้องน้ำรับแขกด้านนอก นั่นก็คือ แยกโซนเปียกกับโซนแห้ง พร้อมกับจัดสุขภัณฑ์จาก TOTO มาให้ครบชุด

  • สำหรับห้องน้ำจะดีไซน์เพิ่มฟังก์ชันส่วนของพื้นที่วางของมาให้ในหลาย ๆ จุด ทั้งบริเวณขอบอ่างและ Low wall เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับวางของไปในตัว

แต่ส่วนที่แตกต่างจากห้องน้ำรับแขกนั้นจะอยู่ตรงโซนเปียก ที่ได้อ่างอาบน้ำ top หินควอทซ์ จาก I-Spa พร้อมหน้าต่างบานฟิกซ์ผสมบานกระทุ้ง ให้เราสามารถ Take View ในขณะแช่น้ำได้ด้วย

นอกจากตัวอ่างแล้ว ก็จะมี Hand Shower และ Rain Shower จาก TOTO ติดตั้งมาให้พร้อม ส่วนพื้นและผนังห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนส์จาก ERGON Engineered Stone เหมือนกันทุกยูนิต

และส่วนสุดท้ายจะเป็น ‘ห้องนอนเล็ก’ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำรับแขก ภายในห้องกว้างพอให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ชุด

  • จุดเด่นของยูนิต 2 Bedrooms คือ ในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะสามารถมองเห็นวิวผ่านกระจกบานสูงจรดเพดานได้ทุกจุด

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้ในห้องนี้ จะเป็นตู้เสื้อผ้าบานสไลด์ เหมาะที่จะบรรจุเสื้อผ้าสำหรับผู้อยู่อาศัยได้ประมาณ 1-2 คน และบริเวณปลายเตียงก็ได้ติดตั้งระบบปลั๊กไฟสำหรับการใช้งานทีวี Built-in เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอยู่อาศัยให้มีความสุข และเป็นส่วนตัวมากกว่าที่เคย


1 BR 46 SQ.M


มาถึงห้อง Type 1 Bedroom 46 SQ.M. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ กันต่อ โดยห้องนี้จะเน้นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน ออกแบบให้ Living Room มีขนาดกว้างใหญ่และเป็นสัดส่วน พร้อมกั้นส่วนแยกพื้นที่ชัดเจนกับ ’ห้องนอน’ ที่ภายในมีห้องน้ำในตัว เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานช่วงกลางคืนของผู้พักอาศัย ส่วนงานระบบในห้องครัวก็จะเป็นระบบเปิด เหมาะกับการทำงานครัว สไตล์ตะวันตก 

เปิดประตูเข้ามาในส่วนแรกจะเป็นโซน Cooking Area ระบบเปิด ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร มีพื้นที่เชื่อมต่อเนื่องไปกับโซน Living Room และด้านขวามือของห้องก็จะเป็นพื้นที่ห้องนอน ซึ่งแยกออกไปต่างหาก เพื่อความเป็นส่วนตัว

  • ด้านวัสดุและอุปกรณ์ จะให้เหมือนกันกับห้องแบบ 2 Bedrooms ที่เราได้พาไปชมมาแล้วในห้องแรก โดยจะมีส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อย ในด้านรายละเอียดแปลนและอุปกรณ์บางอย่างเท่านั้น

ชุดครัวของห้องนี้จะออกแบบมาเป็นรูป L Shape ที่สามารถประกอบอาหารและเตรียมอาหารไปได้พร้อม ๆ กัน โดยจะเว้นพื้นที่ตรงกลางไว้ให้จัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้อย่างสบายเหลือเฟือ

สำหรับโซน Cooking Area ของห้องนี้ก็จะได้ชุดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก BOSCH เช่นเดียวกันกับห้องแบบ 2 Bedrooms แต่จะต่างกันตรงเครื่องดูดควัน ซึ่งห้องแบบ 2 Bedrooms จะได้ตัว Hood ที่สามารถปรับระดับได้มากว่า ส่วนอ่างล้างจานก็ออกแบบมาให้มี 2 ช่องจาก FOSTER พร้อมก๊อกน้ำจาก KOHLER

ขยับเข้ามายังโซน Living Area ที่เน้น Space ให้กว้าง เพื่อรองรับทุกการทำกิจกรรม โดยเราสามารถวางโซฟา day bed หรือโซฟาตัวยาวกับเก้าอี้อาร์มแชร์ได้สบาย

ส่วนแสงสว่างภายในห้องก็เพียงพอต่อการใช้งาน เพราะทางโครงการได้จัดตำแหน่งห้องให้อยู่ใกล้กับกระจกประตูบานเลื่อน ทำให้ตัวห้องสว่างขึ้นจากแสงธรรมชาติที่ส่องผ่าน พร้อมกับระบบไฟที่ดีไซน์มาเป็นอย่างดี ให้เหมาะกับโซนต่าง ๆ ภายในห้อง

ติดกับห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของ Bedroom Area ที่ออกแบบมาให้กว้างพอ ๆ กับห้องนั่งเล่นด้านนอก โดยห้องนี้จะมีพื้นที่กว้างพอให้เราวางเตียงขนาด 6 ฟุต และยังเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้ให้จัดตกแต่งเป็นมุมทำงานเล็ก ๆ ส่วนบริเวณปลายเตียงก็ได้ติดตั้งระบบปลั๊กไฟไว้ให้ติดทีวี Built-in ได้ทันที

บริเวณข้างเตียงจะมีระเบียงยื่นออกไปสำหรับงานระบบ ซึ่งทางโครงการจะทำเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ให้เรียบร้อย โดยห้องขนาด 1 ห้องนอนจะได้เป็นเครื่องปรับอากาศพร้อมระบบ ERV จำนวน 2 ตัว

ขยับเข้าสู่โซน Walk-in Closet ที่ช่วยให้เราเตรียมพร้อมกับเช้าวันใหม่ได้สะดวกสบาย โดยทางโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึง 2 ใบ ทั้งเเบบบานสไลด์และบานเปิดปิดกรุกระจกเงา เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะ และต้องการพื้นที่สำหรับแต่งตัวเป็นกิจลักษณะ

สำหรับห้องน้ำของห้อง Type นี้จะอยู่ภายในห้องนอน พื้นห้องจะปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนส์ ที่กันลื่นได้ค่อนข้างดี มีการแยกโซนเปียก-โซนแห้งชัดเจน โดยส่วนของโซนแห้งนั้นจะได้สุขภัณฑ์ครบทั้ง อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, สายฉีดชำระ จาก TOTO นอกจากนี้บริเวณด้านใต้สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ยังติดตั้งระบบท่อน้ำที่ปราศจากสารตะกั่ว (Lead-free piping) ให้อีกด้วย

ขยับไปฝั่งโซนเปียกก็จะกั้นด้วย Shower Box พร้อมทำการยกธรณีประตูขึ้น เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลย้อนออกมาด้านนอกด้วย

สำหรับสุขภัณฑ์ห้องน้ำก็จะได้ฝักบัวทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ของ TOTO ในขณะที่ด้านข้างก็ได้ทำการเจาะผนัง สำหรับใช้ทำเป็นชั้นวางของเพิ่มเติมได้ในตัว



LOCATION & LIFESTYLE

เรียกได้ว่า ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) เป็นอีกหนึ่งโครงการระดับ Super Luxury ที่ตั้งอยู่บนถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ อย่าง ‘ย่านสาทร’ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ (CBD) ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานน้อยใหญ่ พร้อมอยู่ในจุดที่เป็น Hub ด้านการเดินทางไปถนนสายต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งสาทรเหนือที่เชื่อมต่อถนนสีลม-บางรัก โดยการขับเข้าสู่ตัวซอยสาทร 12 หรือจะใช้เส้นฝั่งสาทรใต้เชื่อมต่อถนนนราธิวาสฯ-พระรามสามก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ตัวโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ยังเป็นโครงการที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีศึกษาวิทยา ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง โดยมีโครงการจะเริ่มการก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จ ธันวาคม 2563 ซึ่งจะทำให้ ANIL Sathorn 12 กลายเป็นโครงการ Super Luxury ติดรถไฟฟ้า ที่หาได้ยากมากในย่านสาทรไปโดยปริยาย

BTS Station :

  • 0 Meter to BTS SuksaWittayaStation (สถานีศึกษาวิทยา ในอนาคต)
  • 450 Meters to BTS SurasakStation (สถานีสุรศักดิ์)
  • 500 Meters to BTS Chong Nonsi (สถานีช่องนนทรี)
  • 1.7 KM to BTS Sala Daeng (สถานีศาลาแดง)


ที่สุดของศักยภาพด้านทำเลต้องยกให้ สาทร 12

บริเวณสาทร-สีลม ถือเป็นจุดศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการเงินแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมของบริษัทข้ามชาติ รายใหญ่ของประเทศ ได้แก่ ธนาคาร Standard Charter, Bank of China, Royal Bank of Scotland (RBS), Pricewaterhouse Coopers เป็นต้น 

ตลอดจนอาคารสำนักงานชั้นนำ ทั้ง Empire Tower, Sathorn Square, AIA Sathorn Tower, CP All หรือแม้กระทั่ง KING POWER MAHANAKHON เองก็เข้ามาเพิ่มความคึกคักให้กับทำเลนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะในแง่ของเศรษฐกิจ หรือจำนวนผู้เข้ามาทำงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ Expat เข้ามา รวมถึงราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การพัฒนาโครงการในย่านที่มีที่ดินเหลือน้อยเช่นนี้ ส่วนใหญ่จึงมีราคาแพง หรือไม่ก็ต้องจำใจขยับออกไปยังโซนพระรามสี่แทนถึงจะคุ้มค่ากับการลงทุน

แต่สำหรับใครที่ต้องการลงทุนซื้อคอนโดในย่านนี้ และยังไม่อยากขยับออกไปอยู่ในย่านพระรามสี่ล่ะก็ ‘ซอยสาทร 12’ ดูจะตอบโจทย์ เป็นทำเลฝั่งสาทรเหนือที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากบริเวณนี้ยังคงมีความเงียบสงบ ให้ความรู้สึกเหมาะกับการเลือกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งงาน แม้แต่ด้านการคมนาคมต่าง ๆ ก็สะดวกสบาย รองรับได้ทั้งการขับรถยนต์ส่วนตัว และการโดยสารรถไฟฟ้า BTS บนทำเลเดียว


Business Hub :

  • 110 Meters to AIA Sathorn Tower
  • 400 Meters to Empire Tower
  • 500 Meters to Sathorn Square
  • 550 Meters to Bangkok City Tower
  • 2.1 KM to Q House Lumpini 

บรรยากาศภายในซอยสาทร 12 กับความเป็น Residential Area ที่หาได้ยากของย่านสาทร-สีลม
เลี่ยงรถติดจากย่านสาทรไปยังถนนสีลมได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ตัวซอยสาทร 12 วิ่งออกไปยังซอยสีลม 9

หรือจะวนรถกลับมายังฝั่งสาทร เพื่อตรงไปยังบริเวณช่องนนทรี ซึ่งถือเป็นจุดแลนด์มาร์กของสาทรก็สามารถทะลุวนออกจากซอยสาทร 12 มายังซอยสาทร 10 ได้เลย เรียกว่าเชื่อมต่อทุกการเดินทางเข้าไว้ด้วยกัน แบบที่เราไม่ต้องคอยกังวลเรื่องสภาพจราจรเท่าไรนัก


สาทร 12 อำนวยความสะดวกให้ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต


อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “สาทรโดดเด่นในเรื่องของความเป็นย่านธุรกิจ”  แต่ในแง่ของการใช้ชีวิตทั่วไปล่ะ...สาทรจะสามารถตอบโจทย์ได้ขนาดไหน?

ในด้านของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในซอยสาทร 12 ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะความเป็นย่านที่อยู่อาศัยดั้งเดิมและความเงียบสงบ จึงทำให้ซอยสาทร 12 มีแหล่งไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายทั้ง Art Gallery, โรงแรม, บ้านเรือน รวมไปถึงร้านอาหารรสชาติดี เหมาะจะมานั่งสังสรรค์กันในช่วงวันหยุดพักผ่อน

หรือจะขยับมาบริเวณซอยสาทร 10 ก็ดูละลานตาไปด้วยร้านอาหารหลายสัญชาติ ทั้งอาหารไทย, อิตาเลียน, นิวซีแลนด์ หรือจะมานั่งชิลล์ชมบรรยากาศในร้านคาเฟ่ ที่ซอยสาทร 10 ก็มีคาเฟ่เล็ก ๆ เก๋ ๆ กระจายตัวอยู่หลายร้าน คอยตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี

ส่วนใครที่มีบุตรหลานกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ก็สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ เพราะอยู่ห่างจากตัวโครงการไป 350 เมตรเท่านั้น

School :

  • 350 Meters to Bangkok Christian College
  • 350 Meters to Saint Louis Suksa School
  • 1.3 KM to St. Joseph Convent School
  • 2.3 KM to Assumption College
  • 2.5 KM to Assumption Convent School
  • 3.0 KM to Shrewsbury International School Bangkok 

ปิดท้ายด้วยการรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์อยู่เสมอ ด้วยการเลือกทำเลใกล้กับสถานพยาบาล โดยโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ก็มีโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ คอยให้บริการอยู่ฝั่งตรงข้ามสาทร 12 เราจึงอุ่นใจได้ตลอดเวลา ยามพักอาศัยอยู่ในย่านนี้

Hospital :

  • 140 Meters to Saint Louis Hospital
  • 1.2 KM to BNH Hospital
  • 1.8 KM to Lerdsin Hospital

ใครที่ไม่อยากพลาดความครบครันและสมบูรณ์แบบของย่านสาทร รวมถึงตัวโครงการ ANIL Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ไปล่ะก็...เตรียมตัวพบกันได้ที่งาน Pre - sales วันที่ 15 – 16 มิ.ย. นี้ ที่ Sales Gallery, อาคาร AIA Sathorn Tower ชั้น 12

ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท*

คลิกเพื่อรับส่วนลด : https://bit.ly/2Kk7qwI

โทรเพื่อสอบถาม : 02-652-4000


แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ