รูปหน้าปก ชีวาทัย ราชปรารภ คอนโด High-Rise ย่านราชปรารภ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ราชเทวี

[Review] ชีวาทัย ราชปรารภ คอนโด High-Rise ย่านราชปรารภ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ราชเทวี

ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

REVIEW INFO

Chewathai Ratchaprarop (ชีวาทัย ราชปรารภ)

สวัสดีค่ะวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปชมโครงการ ชีวาทัย ราชปรารภกันค่ะ คอนโด High-Rise สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยจาก บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) โครงการตั้งอยู่บน 11-22 ถนนราชปรารภ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โครงสร้างของ ชีวาทัย ราชปรารภ แล้วเสร็จในปี 2010 คอนโดนี้ มีอาคารเดียว จำนวน 26 ชั้น และ รวมทั้งหมด 329 ยูนิต วันนี้ที่เราไปชมโครงการเหลือแต่ห้องขนาด 147 ตารางเมตร แบบ Penthouse Duplex เท่านั้นค่ะ ไปดูรายละเอียดที่เรานำมาให้ชมกันในรีวิวฉบับนี้ได้เลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ  ชีวาทัย ราชปรารภ Chewathai Ratchaprarop

ชื่อโครงการ ชีวาทัย Chewathai 

ที่ตั้งโครงการ ชีวาทัย ราชปรารภ Chewathai Ratchaprarop

ราคาเริ่มต้น 3,500,000 บาท

Penthouse Duplex

Penthouse Duplex ขนาด 147 ตารางเมตร แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ

แปลนห้องPenthouse Duplex ขนาด 147 ตารางเมตร แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 1 ห้องทำงานให้ดูคร่าวๆก่อนค่ะ

เปิดเข้ามาเจอโต๊ะอาหารสำหรับ 6  ทีนั่งและมองเลยไปหน่อยจะเป็นส่วนนั่งเล่นดูทีวีและหน้าต่างด้านในสุดค่ะ

ในส่วนของที่นั่งเล่นดูทีวีมีโซฟาเบดสำหรับ 6 ที่นั่ง มีโต๊ะกลางสีดำ ระยะทางเดินระหว่างโต๊ะและโต๊ะวางทีวีประมาณ 1-2 เมตร เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 btu ติดฝ้า ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร

หน้าต่างกระจกเปิดออกรับลมได้และยิ่งชั้นบนจะรับทิศทางลมได้ดีเชียวค่ะ

โต๊ะวางทีวีบิลท์อินติดผนังด้านหนึ่งซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่และยังติดตั้งชั้นวางของลอยตัวได้ด้วย ติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมใช้งานด้านล่างเป็นตู้เก็บของสีขาวเคลือบผิวไฮกรอส ด้านในสุดเป็นตู้เก็บซีดีหรือหนังสือเคลือบผิวไฮกรอสสีดำ

ส่วนห้องที่ติดกับประตูทางเข้าออกห้องจะทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเล็กก็ได้ค่ะ

ห้องครัวติดกับประตูทางเข้าเช่นกันแต่ตรงข้ามกับห้องทำงาน เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนแบบทึบกั้นส่วนห้องชัดเจนค่ะ

เข้ามาดูในห้องครัวกันค่ะมีเคาท์เคอร์ครัวเป็นรูปตัว L วางเต็มผนัง 2 ด้าน ตู้เก็บของบิลท์ทั้งด้านบนและด้านล่างสีขาวเคลือบผิวไฮกรอสทำความสะอาดง่าย

ตู้เก้บของด้านบนแบบเปิดออกเป็นตู้แบบ Soft-close ด้วยทำให้การเปิดปิดไม่เกิดเสียงดังรบกวน

อ่างล้างจานแบบแสตนเลสไม่มีที่พักจานเป็นแบบหลุ่มเดี่ยว

เตาไฟฟ้า 4 หัวใช้งานง่ายและสะดวกมากค่ะ แถมยังมีพื้นที่รอบๆสำหรับวางอาหารให้ประกอบอาหารง่ายๆด้วย

เครื่องดูดควันของ Teka ใช้งานง่ายแค่ดึงเลื่อนออกมาระบายควันออกนอกอาคาร

ตู้เย็นจะอยู่ด้านนอก ตรงข้ามหรือหน้าห้องครัวพอดี ขนาดใหญ่สามารถแช่ของได้เยอะเลยค่ะ

มาดูห้องนอนแรกกันค่ะ ห้องจะอยู่ถัดจากห้องนั่งเล่น เปิดเข้ามาจะเจอเตียงขนาด 6 ฟุตหัวเตียงบุด้วยหนังสีขาวอยู่กลางห้องและยังมีส่วนของระเบียงให้เดินออกไปชมวิวได้ด้วยนะคะ

ใต้เตียงมีช่องเก็บของที่เลื่อนออกมาได้ด้วยนะคะ และมีโต๊ะหัวเตียงเล็กๆสำหรับวางโคมไฟหรือโทรศัพท์ก็ได้ค่ะ

ตรงข้ามกันเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะวางทีวีหรือจะติดทีวีแขวนผนังก็ยังได้ค่ะ ปลั๊กติดตั้งพร้อมใช้งาน ด้านบนเป็นเครื่องปรับอากาศ เห็นได้ว่าพื้นที่ใช้สอยเหลือเยอะมากไม่ต้องกังวลว่าจะแคบหรืออึดอัด

วิวจากระเบียงห้องนอนค่ะวิวเมืองของกรุงเทพก็สวยแปลกตาไปอีกแบบนะคะในชั้น 26 แบบนี้

ข้างนอกระเบียงใช้ไม้ระแนงทั้งเพดานและกั้นด้านบนและด้านล่างเลยค่ะ และยังมีก๊อกน้ำสำหรับใครอยากทำเป็นลานซักล้างได้นะคะ

คอมเพลสเซอร์แอร์ทั้ง 3 ตัววางซ้อนกันด้านในสุดทำให้เราไม่ต้องโดนไอร้อน

มองย้อนจากระเบียงเข้าไปจะเห็นตู้เสื้อผ้าบิลท์อินติดผนังและสูงเท่าฝ้าเพดานเลยค่ะ มองถัดไปจากตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ

ห้องน้ำเปิดเข้าไปเจออ่างล้างหน้าด้านซ้ายและมีฝักบัวอาบน้ำมีธรณีสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตรค่ะ

ถัดกันไปเป็นโถสุขภัณฑ์และยังมีอ่างอาบน้ำด้วยนะ ทุกอย่างใช้ของ american standard หมดเลยค่ะ

อ่างอาบน้ำขนาดประมาณ 2 เมตร นอนแช่น้ำกันสบายๆเลยค่ะ

ไปดูกันต่อที่ห้องนอนอีก 2 ห้องถัดไปกันค่ะ ทางเดินไปอีก 2 ห้องก็จะเป้นแบบนี้ค่ะ

ไปต่อกันที่ห้องนอนใหญ่กันค่ะ เปิดเข้าไปเจอเตียงขนาด 6 ฟุตแบบเดียวกับห้องแรกวางอยู่กลางห้องในสุดพร้อมโต๊ะหัวเตียงตัวเล็ก และยังมีระเบียงเช่นเดียวกับห้องแรกด้วยค่ะ แต่เห้นได้ว่าพื้นที่ใช้สอยห้องนี้จะมากกว่าแรก เป็นห้องนอนใหญ่สุดค่ะ

ประตูเปิดออกไประเบียงแบบประตูกระจกบานเลื่อน ชั้นวางทีวีหรือวางหนังสือบิลท์อินลอยตัวติดผนังพร้อมปลั๊กไฟพร้อมใช้งานค่ะ

คอมเพลสเซอร์แอร์ด้านนอกระเบียงค่ะ

มองย้อนกลับเข้าไปเห็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เลยค่ะ ขนาด 4 ตู้ต่อกัน

โต๊ะเครื่องแป้งติดกระจกบานใหญ่และบิลท์ชั้นวางลอยตัว ติดกับห้องน้ำด้วยค่ะ

ห้องน้ำจะมีประตูทางเข้าออก 2 บานค่ะ ใช้ได้ทั้งในห้องนอนใหญ่และสำหรับส่วนกลางได้ด้วย

รูปแบบห้องน้ำจะเหมือนกับห้องแรกเลยค่ะ แต่อาจจะไม่มีอ่างอาบน้ำ

ไปดูห้องนอนห้องสุดท้ายกันค่ะ ห้องนอนเล็กสำหรับลูกๆค่ะ พื้นที่ห้องนี้ก็จะจำกัดดูอึดอัด เดินไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เตียงขนาด 4-5 ฟุตวางอยู่กลางห้อง

ตู้เสื้อผ้าติดผนังจะเห็นได้ว่าพื้นที่ข้างเตียงก็ไม่มีที่ให้เดินได้ถ้าเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกด้วยค่ะ

Insight

อาคารสูงวนรถรอบอาคาร ชั้น G มีที่จอดรถรอบๆ

ผังของโครงการเป็นรูปตัว S นี่เป็นชั้น 6 มีสระว่ายน้ำและฟิตเนสอยู่ด้านข้าง มียูนิตพักอาศัยตามปกติ

ลิฟท์มีทั้งสิ้น 3 ตัว เป็นลิฟท์โดยสาร 2 ตัวและลิฟท์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 1:162 ซึ่งจัดว่าสูงพอตัวเลยสำหรับโครงการราคาตารางเมตรละ 70,000 – 80,000 บาท



ผังชั้น 7-24 จำนวนยูนิตต่อชั้นมีทั้งสิ้น 17 ยูนิต

วิวจากห้อง Type C1 จะเป็นห้องที่สวยที่สุด เพราะจะเห็นสวนสันติภาพ



พอชั้น 25-26 ก็จะเป็นห้องใหญ่ มีทั้งสิ้น 5 ยูนิตต่อชั้น เป็น Penthouse 2 ห้อง

location

ตัวคอนโด Chewathai ราชปรารภ จะอยู่ติดกับโรงแรม Century Park บนถนนราชปรารภ ใกล้กับแยกสามเหลี่ยมดินแดงที่สามารถเลี้ยวไปถนนดินแดง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่ไกลจากสวนสันติภาพ  นอกจากนี้ยังใกล้กับถนนศรีอยุธยา ถนนจตุรทิศ …  แต่ถ้าตรงมาเรื่อยๆ ตามถนนราชปรารภ  ก็จะถูกบังคับเลี้ยวซ้ายตรง Airport Link ราชปรารภ จะไม่สามารถตรงไปทาง Central World ได้ เพราะเป็น bus lane  มีเฉพาะรถเมล์เท่านั้นที่วิ่งสวนไปทางแยกประตูน้ำได้ค่ะ

ส่วนระบบรถไฟฟ้านั้นที่ใกล้ที่สุดน่าจะเป็น Airport Link ราชปรารภ บนเส้นราชปรารภนั่นเอง  ส่วนรถไฟฟ้า BTS นั้นก็อยู่ไม่ไกล ถ้าออกไปถนนพญาไทก็จะเจอทั้ง BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ BTS พญาไท ค่ะ

ชีวาทัย ราชปรารภ ตั้งอยู่ในทำเลปลายสุดของถนนราชปรารภ ซึ่งเป็นเขตชุมชนเก่าแก่ที่อยู่กันมานานแล้ว ด้านข้างของโครงการเลยนั้นเป็นโรงแรม Century Park และอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นตึกแถว แต่ชุมชนแถวนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าไรเนื่องจากเป็นส่วนของปลายถนน จะสู้บริเวณราชปรารภช่วงต้นแถว Airport Link และประตูน้ำไม่ได้ ซึ่งแถวนั้นจะคึกคักกว่ามาก ความมีชีวิตชีวาของพื้นที่รอบโครงการจึงไม่ใช่จุดเด่นของโครงการนี้

ถนนราชปรารภช่วงหน้าโครงการชีวาทัยนั้นเป็นทางที่สวนไปมาได้ สามารถเลือกที่จะวิ่งไปอนุสาวรีย์ฯ ถนนดินแดง วิภาวดีรังสิต รางน้ำ ศรีอยุธยาหรือจตุรทิศ ซึ่งเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ที่ค่อนข้างสะดวก แต่ไม่สามารถวิ่งตรงๆข้ามฝั่งไปทางราชดำริโผล่หน้า Central World ได้เพราะว่าทางนั้นเป็น One-way 

ในระยะเดินไปได้ประมาณ 200 – 250 เมตร จากหน้าโครงการชีวาทัยก็สามารถเดินไปพักผ่อนเล่นได้ที่สวนสันติภาพขนาด 20 ไร่ ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่าในกรุงเทพมหานครมีคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่โครงการเท่านั้นที่สามารถ “เดิน” ไปสวนสาธารณะได้ในระยะใกล้ขนาดนี้ และสวนสาธารณะที่อยู่ใจกลางเมืองก็มีไม่กี่แห่งเท่านั้น

การเดินทางไปรถไฟฟ้า BTS และ Airport Link จัดอยู่ในระยะที่เดินได้แบบเหนื่อยๆคือ 700 – 800 เมตร กับสถานี BTS อนุสาวรีย์ชัยฯและ Airport Link ราชปรารภ หรือมีทางเลือกคือใช้บริการพี่วิน 20 บาทเพื่อไปยังสถานีที่ต้องการ

 

ด้านหน้าโครงการก็มีบริการวินมอเตอร์ไซค์และรถเมล์สาธารณะด้วยค่ะ

ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวดั้งเดิมของอาคารและนำมาดัดแปลงหรือปล่อยเช่าให้ทำการค้าต่างๆค่ะ

นอกจากร้านนวดแล้วก็มีร้านซักรีดบริการด้วยค่ะ

ร้านกาแฟและร้านอาหารตามสั่งก็มีค่ะสามารถเดินมาทานได้สบายๆ

หรือต้องการร้านสะดวกซื้อก็มี 7-11 ด้วยค่ะ

ร้านอาหารตามสั่งหรือจะร้านส้มตำจิ้มจุ่มก็มีค่ะ

ร้านซักรีดอีกแล้วค่ะ

โชว์ห่วยในซอกซอยก็มีค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเช่าหรืออพาร์ทเมนท์สำหรับคนทำงานและต้องการที่อยู่อาศับราคาถูกก็มีค่ะ

ทางเท้าดูโล่งสะอาดตาเดินง่ายดีค่ะ

เดินมาตรงสี่แยกมุ่งหน้าไปแอร์พอร์ตลิ้งหรือไปประตูน้ำ ตึกใบหยก มีคาเฟ่ขายกาแฟตรงหัวโค้งด้วยค่ะ

การตกแต่งเน้นโทนไม้สีเข้มตัดกับผนังสีขาวและโคมไฟสไตล์โมเดิร์นดูอบอุ่นน่านั่งพักผ่อนมากค่ะ

สั่งเมนูอาหารกับเครื่องดื่มและทางร้านมีส่วนนั่งด้านนอกและด้านในห้องแอร์ค่ะ

การตกแต่งสไตล์ยุค 90 เน้นสีน้ำตาลไม้ทำให้ดูผ่อนคลายได้มากเลยค่ะ

เครื่องดื่มของทางร้านก็ปกติธรรมดาทั่วไปเลยค่ะแต่แก้วที่ทางร้านใช้ก็จะแตกต่างจากปกติทำให้ดูมีสไตล์น่าทานมากขึ้นด้วยค่ะ

Environment

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้หลักๆมีฟิตเนส และสระว่ายน้ำ รวมถึงสวนส่วนกลาง  ทำออกมาเรียบๆ ดีไซน์ไม่ได้หวือหวา เป็นแบบเน้นการใช้งานเป็นหลัก โดยรวมหลังจากคอนโดเข้าอยู่หลายปีแล้วอาจจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม้บางส่วน สัดส่วนของลิฟต์โดยสารได้มา 162 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ด้วยราคานี้ก็ถือว่ารับได้อยู่  ส่วนที่จอดรถที่ 62% แบบไม่รวมจอดซ้อนคันนั้นก็นับว่าสัดส่วนในการใช้งานดีมากทีเดียว

มีระบบรักษาความปลอดภัยก่อนเข้าโครงการด้วยค่ะ

เข้ามาจะเจอ Lobby ด้านหน้าชั้น 1 ด้านขวามือค่ะ

เข้ามาใน Lobby จะมีที่นั่งรับรองและส่วนของนิติบุคคลทางด้านขวามือค่ะ

โซฟาที่นั่งรับรองจัดวางอย่างสวยงามเหมาะกับการพูดคุยหรือนั่งพักผ่อน

ลิฟท์ 2 ตัว ต้องใช้เวลารอนิดหน่อยเพราะมีจำนวนชั้นที่สูงและจำนวนลิฟท์โดยสารไม่เพียงพอ

พื้นที่ชั้น 6 ไม่ถึง 1 ใน 3 ของตัวอาคารนำมาทำเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีสระว่ายน้ำขนาดเล็กไปหน่อย มีข้อควรปฏิบัติบอกกติกาชัดเจนค่ะ

ด้านหน้ายังมีส่วนรับรองหรือที่นั่งพักผ่อนด้วยนะคะ

สระว่ายน้ำมีการสร้างผนังด้านข้างขึ้นมาสูงเพื่อแบ่งส่วนจากคอนโดข้างๆค่ะ ดูภาพรวมขนาดของสระเล็กไปสำหรับจำนวนผู้อาศัยในโครงการ

ฝักบัวล้างตัวก่อนและหลังลงสระแบบ Rain-Shower และฝักบัวสายอ่อน

ด้านข้างสระมีโต๊ะเก้าอี้ริมสระไว้ 1 ชุด และมองเลยไปด้านในเป็นส่วนของห้องพักสำหรับผู้ที่อาศัยอาจจะมีเสียงรบกวนหรือไม่เป็นส่วนตัวได้

อุปกรณ์วางอัดแน่นกันมาก ทำให้เดินลำบากแต่อุปกรณ์มีเพียงพอต่อผู้อาศัย

มุมดัมเบลมีให้เลือกหลายขนาดสามารถเลือกเล่นกันตามความต้องการเลยค่ะ

เครื่องยกเวทก็มีค่ะ

เดินออกมาส่วนด้านนอกของห้องฟิตเนสจะมีส่วนเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้บริการด้วยค่ะ

เดินมาด้านในอาคารมีส่วนของที่จอดรถบนอาคารด้วยค่ะแต่ต้องมีการ์ดห้องสำหรับเข้าออกอาคารด้วยนะคะ

หรือจะจอดด้านล่างชั้น 1 ของอาคารก็ได้ค่ะ

นอกจากรถยนต์ก็มีในส่วนของที่จอดรถจักรยานยนตร์และจักรยานด้วยค่ะ

ด้านหลังมีที่นั่งสำหรับพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ด้วยค่ะ

วิเคราะห์โครงการ

ชีวาทัย ราชปรารภ ตั้งอยู่ในทำเลปลายสุดของถนนราชปรารภ ซึ่งเป็นเขตชุมชนเก่าแก่ที่อยู่กันมานานแล้ว ด้านข้างของโครงการเลยนั้นเป็นโรงแรม Century Park และอีกฝั่งหนึ่งก็เป็นตึกแถว แต่ชุมชนแถวนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าไรเนื่องจากเป็นส่วนของปลายถนน จะสู้บริเวณราชปรารภช่วงต้นแถว Airport Link และประตูน้ำไม่ได้ ซึ่งแถวนั้นจะคึกคักกว่ามาก ความมีชีวิตชีวาของพื้นที่รอบโครงการจึงไม่ใช่จุดเด่นของโครงการนี้

ทำเล : 

ถนนราชปรารภช่วงหน้าโครงการชีวาทัยนั้นเป็นทางที่สวนไปมาได้ สามารถเลือกที่จะวิ่งไปอนุสาวรีย์ฯ ถนนดินแดง วิภาวดีรังสิต รางน้ำ ศรีอยุธยาหรือจตุรทิศ ซึ่งเป็นการเดินทางโดยรถยนต์ที่ค่อนข้างสะดวก แต่ไม่สามารถวิ่งตรงๆข้ามฝั่งไปทางราชดำริโผล่หน้า Central World ได้เพราะว่าทางนั้นเป็น One-way 

ในระยะเดินไปได้ประมาณ 200 – 250 เมตร จากหน้าโครงการชีวาทัยก็สามารถเดินไปพักผ่อนเล่นได้ที่สวนสันติภาพขนาด 20 ไร่ ซึ่งกล้าพูดได้เลยว่าในกรุงเทพมหานครมีคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่โครงการเท่านั้นที่สามารถ “เดิน” ไปสวนสาธารณะได้ในระยะใกล้ขนาดนี้ และสวนสาธารณะที่อยู่ใจกลางเมืองก็มีไม่กี่แห่งเท่านั้น

การเดินทางไปรถไฟฟ้า BTS และ Airport Link จัดอยู่ในระยะที่เดินได้แบบเหนื่อยๆคือ 700 – 800 เมตร กับสถานี BTS อนุสาวรีย์ชัยฯและ Airport Link ราชปรารภ หรือมีทางเลือกคือใช้บริการพี่วิน 20 บาทเพื่อไปยังสถานีที่ต้องการ

การเดินทาง : 

การเดินทางนั้นจัดว่าค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถสาธารณะ เพราะอยู่ใกล้กับ Hub สำคัญในด้านการเดินทางอย่างอนุสาวรีย์ ตรงไปก็พญาไท ส่วนถ้าจะออกไปดินแดง วิภาวดีรังสิตก็อยู่ไม่ไกล  ถ้าเป็นทางด่วนก็จะมีตรงอนุสาวรีย์ กับดอนเมืองโทลล์เวย์ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ถือว่ายังอยู่ในระยะทางที่ไม่ไกลมาก หรือจะใช้เส้นจตุรทิศออกไปทางด่วนตรงพระราม 9 ก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีรถประจำทางก็ยังมีวิ่งผ่านเส้นนี้หลายสายค่ะ

ที่ดูจะไปใช้งานลำบากอยูู่หน่อยก็เรื่องของระบบรถไฟฟ้า  เพราะถึงจะไม่ห่างจาก BTS อนุสารีย์ชัยสมรภูมิ และ Airport Link ราชปรารภมากนัก  แต่ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีถนนหลักสายอื่นกั้น  ก็ทำให้เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้านั้นก็ไม่สะดวกเท่าคอนโดที่เกาะแนวรถไฟฟ้าเลย พอลงรถไฟฟ้าแล้วจะต้องต่อรถมาอีก  อย่างที่ถ้าจะไป BTS อนุสาวรีย์ชัย  ก็จะต้องพึ่งพี่วินฯ โดยใช้ซอยรางน้ำ เส้นราชปรารภเป็นถนนสายรอง เมื่อมองเทียบกับเส้นพหลโยธินตรงอนุสารีย์ชัย ซึ่งถือเป็น Hub ศูนย์กลางความเจริญหลักในย่านนี้  ลักษณะของถนนนั้นจะเป็นเส้นที่ใช้เป็นทางเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญอื่นๆ เพื่อเข้าเมืองและออกนอกเมืองค่ะ  ซึ่งก็ได้รับผลพลอยได้จากการเจริญเติบโตโดยรอบไปด้วยเช่นกัน  เพียงแต่ตลาดของคอนโดและที่อยู่อาศัยก็จะไม่ได้คึกคักเหมือนเส้นหลักใกล้เคียง

ราคา : วัสดุอุปกรณ์เมื่อเทียบกับราคา 70,000 – 80,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว จัดว่าพอใช้ได้สำหรับบางยูนิตเพราะมี Furniture แบบ Fully Furnished มาให้ค่อนข้างเยอะ ส่วนยูนิตที่เป็นแบบห้องเปล่านั้นมีครัว เตาไฟฟ้าแบบ Hot Plate, เครื่องดูดควันและซิงก์ของ Hafele ตลอดจนห้องน้ำของ American Standard ท๊อปหินแกรนิต กระจกนิรภัยบานเปลือย
ราคาเริ่มต้น แบบ 4 ห้องนอน 147 ตารางเมตร ที่เหลืออยู่ 2 ห้องนั้น ห้องเปล่าที่ชั้น 25 ราคาจะอยู่ที่ 12.9 ล้านบาท ส่วนห้องชั้น 26 ที่เป็นห้องตัวอย่างนั้น มีการตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้แล้วจะอยู่ที่ 13.9 ล้านบาทค่ะ ต่างกันอยู่ 1 ล้านบาทถ้วน เมื่อคิดเป็นราคาต่อตารางเมตรแล้วนั้นอยู่ที่ประมาณ 9X,XXX ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งพื้นที่ในโซนนี้ใกล้ๆกับอนุสาวรีย์ ถ้าจะหาคอนโดราคาต่อตารางเมตรที่ไม่ถึงแสนก็ไม่เหลือแล้วค่ะ ยิ่งโดยเฉพาะที่เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ก็อยู่ที่ตารางเมตรละแสนกว่าๆอัพทั้งนั้นเลยค่ะ

แบบห้อง : ด้านการวางแปลนนั้นเรามีโอกาสได้ดูแค่แบบ 4 ห้องนอน 147 ตารางเมตร เพราะห้องแบบอื่นนั้นขายหมดแล้ว  (ความเห็นในเรื่องของแปลนและการให้คะแนนแปลนนั้นจะเลยจะดูแค่บริบทของ 4 ห้องแบบที่มีโอกาสได้รีวิวเป็นหลัก)  ซึ่งจริงๆแบบนี้จะเรียกว่าเป็นแบบ  3 ห้องนอนกับอีก 1 ห้องทำงานก็ได้  แต่ทางโครงการเคลมเอาห้องทำงานเป็นห้องนอนไปด้วยเลย พื้นที่โดยรวมก็กว้างขวางดี เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ ภายในห้องมีครัวแบบปิดให้  แต่อยู่ด้านหน้าห้อง ไม่ได้อยู่ติดระเบียง อากาศอาจจะถ่ายเทไม่สะดวกเท่าไหร่ค่ะ  พื้นที่ตรงกลางที่ไว้ใช้งานร่วมกันก็ค่อนข้างกว้างค่ะ ห้องน้ำนั้นให้อ่างอาบน้ำมาในห้องนอนทั้ง 2 ห้อง เรื่องสเปซภายในห้องมีติแค่นิดหน่อยตรงที่ก่อ Shower Block มาให้ในห้องน้ำชั้น 25 ทำให้พื้นที่ดูค่อนข้างแคบ  นอกนั้นก็แทบจะเหมือนเป็นบ้านขนาดย่อมๆในคอนโดเลย

แบบห้องและแบบของโครงการอาจจะดูไม่ทันสมัยมาก และมีความหนาแน่นค่อนข้างสูง อัตราส่วนลิฟท์โดยสาร 1:160 และจำนวนยูนิตสูงสุดที่ 17 ยูนิตต่อชั้น ทำให้อาจจะดูอึดอัดไปนิดนะครับ ห้องพักแบบ 2 ห้องนอนทั้งสองห้องมีส่วนขาดๆเกินๆอยู่บ้าง อย่างเช่นโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่ง ที่ต้องจัดพิงฝาทำให้คนต้องนั่งที่หัวและท้ายโต๊ะ ห้องนอนเล็กที่ออกแบบเตียงให้ติดผนัง ช่องวางตู้เย็นที่อาจจะลึกไม่พอในบางส่วน ซึ่งส่วนดีก็มีเหมือนกันเช่นห้องแต่งตัวแยกสัดส่วนในห้องนอนใหญ่ และแบบห้องน้ำที่ออกแบบมาเหมาะสำหรับการใช้งาน

สิ่งอำนวยความสะดวก : พื้นที่ส่วนกลางที่ได้หลักๆมีฟิตเนส และสระว่ายน้ำ รวมถึงสวนส่วนกลาง  ทำออกมาเรียบๆ ดีไซน์ไม่ได้หวือหวา เป็นแบบเน้นการใช้งานเป็นหลัก โดยรวมหลังจากคอนโดเข้าอยู่หลายปีแล้วอาจจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม้บางส่วน สัดส่วนของลิฟต์โดยสารได้มา 162 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ด้วยนราคานี้ก็ถือว่ารับได้อยู่  ส่วนที่จอดรถที่ 62% แบบไม่รวมจอดซ้อนคันนั้นก็นับว่าสัดส่วนในการใช้งานดีมากทีเดียว เรื่องสาธารณูปโภคต้องบอกว่าเล็กไปนิดหนึ่ง กันพื้นที่ชั้น 6 ไม่ถึง 1 ใน 3 ของตัวอาคารนำมาทำเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีสระว่ายน้ำขนาดเล็กไปหน่อยและห้องฟิตเนสที่ดูค่อนข้างอึดอัด เครื่องเล่นมีเยอะแต่วางชิดๆกันมากเกินไป อาจจะต้องขยายพื้นที่ออกมาถึงส่วนที่เป็น Lobby ชั้น 6 จะทำให้ดูโปร่งขึ้นสบายขึ้น น่าใช้งานมากขึ้น กับอีกส่วนก็คือสวนเล็กๆด้านหน้าโครงการที่ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ