รูปหน้าปก [รีวิว] Ashton Asoke-Rama9 ที่สุดของคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ในฝัน

[Review] [รีวิว] Ashton Asoke-Rama9 ที่สุดของคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ในฝัน

ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

Introduction

รีวิว Ashton Asoke - Rama9 (แอชตัน อโศก - พระราม9)ภาพแรกของ Ashton Asoke - Rama 9 ถูกนำเสนอครั้งแรกผ่านภาพถ่ายแนว Conceptual โดยช่างภาพแฟชั่นชื่อดังชาวอเมริกัน Rodney Smith เป็นภาพของชายสองคนที่มองออกไปคนละทาง โดยที่ทั้งสองยืนอยู่บนคานเดียวกัน คล้ายจะเป็นการสื่อถึงวิสัยทัศน์ที่แตกต่างแต่ขาดกันไม่ได้ ซึ่งนั่นก็คงหมายถึงอาคาร ALPHA และ OMEGA นั่นเอง

รีวิว Ashton Asoke - Rama9 (แอชตัน อโศก - พระราม9)อีกหนึ่งปริศนาของ Ashton Asoke - Rama9 (แอชตัน อโศก - พระราม9) คงหนีไม่พ้นชื่ออาคารทั้งสอง Alpha และ Omega ที่มาจากวลี “The Alpha and Omega” หมายถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด โดยวลีนี้มาจากพระคัมภีร์ไบเบิล วิวรณ์ บทที่ 22 ข้อ 13 “I am the Alpha and the Omega, The Beginning and the End, the First and the Last.” ซึ่งสัญลักษณ์ Alpha (Α or α) และ Omega (Ω or ω)


สำหรับ The Alpha & Omega ในบริบทของ Ashton Asoke - Rama9 ตาม Brand Story หากจะแปลอย่างตรงตัวไปเลย อาจจะยากที่จะเข้าใจ เนื่องจากมีนัยยะที่แอบแฝงเอาไว้ในแต่ละประโยค เราจึงต้องถอดความของแต่ละประโยค


First of its kind. Second to none.

เป็นที่หนึ่งของทั้งหมด และไม่เป็นที่สองรองใคร แบรนด์ Ashton นอกจากจะเป็นแบรนด์สูงสุดสำหรับคอนโดมิเนียมจาก Ananda Development แล้ว การออกแบบ และทำเลจะเป็นที่สุดของที่สุดเช่นกัน


Breaking new grounds. And reaching new heights.

เป็นการเปรียบตัวเองเป็นเหมือนต้นไม้ ที่แตกยอดจากดินสู่จุดสูงสุดที่ไม่มีใครทำ นี่อาจจะหมายถึงคอนโดมิเนียมระดับLuxury แห่งแรกบนทำเลแห่งนี้


It’s where it all begins and where one will toil no more.

เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นที่ที่ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป อาจหมายถึงลักษณะของ 2 อาคาร Alpha (Active) และ Omega (Passive) เป็นโครงการที่ตอบสนองผู้ที่กำกลังไขว่คว้าหาความสำเร็จ และผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว


The dawn of new frontier where a legacy is built to last.

รุ่งอรุณแห่งดินแดนใหม่ ที่ซึ่งตำนานจะถูกสร้างขึ้นและสืบทอดไปตราบนานเท่านาน ตรงนี้หมายถึงที่ดินหัวมุมผืนสุดท้ายของแยกพระราม 9 โซนที่จะกลายเป็น CBD ขนาดใหญ่แห่งใหม่ในอนาคตนั่นเอง


Location


รีวิว Ashton Asoke - Rama9 (แอชตัน อโศก - พระราม9)

Ashton Asoke - Rama 9 ตั้งอยู่บนที่ดินหัวมุมสุดท้ายบนแยก อโศก-ดินแดง ตัดถนนพระราม 9 ทำเลที่กำลังถูกพัฒนาให้กลายเป็น CBD ( Central Business District ) ศูนย์กลางของธุรกิจ และอาคารสำนักงานในอนาคต โดยมีโครงการใหญ่ ๆ ที่น่าจับตามองมากมาย

รีวิว Ashton Asoke - Rama9 (แอชตัน อโศก - พระราม9)

การเดินทาง

 Ashton Asoke - Rama9 ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานนีพระราม 9 เพียง 120 เมตร  

สำหรับผู้ใช้รถ ทางเข้าโครงการอยู่ฝั่งถนนพระราม 9  ซึ่งสี่แยกอโศก-ดินแดง ตัดถนนพระราม 9 อนุญาตให้กลับรถได้ จึงสามารถเดินทางยังโครงการได้ทุกเส้นทางโดยที่ไม่ต้องวนรถ 


*คุณผู้อ่านสามารถย้อนกลับไปยังหน้า Info เพื่อดูแผนที่อย่างละเอียดบน Google Map 

Super Tower

1. The Super Tower (อยู่ในระหว่างการพัฒนา)

โครงการตึกสูง 125 ชั้น หรือ 615 เมตร พื้นที่ 320,000 ตร.ม. สูงที่สุดในอาเซียน โดยบริษัทแกรนด์ คาเแนล แลนด์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งจะเป็น mixed use building ประกอบไปด้วย

- อาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยม

- โรงแรมระดับ 6 ดาว

- ห้องจัดเลี้ยง และห้องประชุม

- ภัตตาคารลอยฟ้า

- จุดชมวิวที่สูงที่สุดในประเทศไทย


2. G Tower Grand Rama 9 (เปิดให้บริการแล้ว)

อาคารสำนักงานระดับเกรด A ติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี MRT พระราม 9 ออกแบบอาคารเป็นรูปตัว G เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านธุรกิจโดยเฉพาะ

3. มักกะสัน คอมเพล็กซ์

แผนพัฒนาที่ดินมักกะสัน 497 ไร่ มุ่งเน้นให้เป็นสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ โดยใช้พื้นที่ส่วนน้อยเพียง 20 % สำหรับการพัฒนาในเชิงพาณิชย์


4. ห้างสรรพสินค้า

ห้างสรรพสินค้าที่สำคัญในย่านนี้ได้แก่ Fortune Tower, Central Plaza Grand Rama9 และ Show DC


5. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ในปี 2566 เป็นปีที่รถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินมีกำหนดการเปิดให้บริการ โดยในโซนพระราม 9 จะเป็นสถานี รฟม. สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังย่านรามคำแหง ประตูน้ำ และสนามหลวง



6. โครงการอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่น ๆ ที่จะเข้ามาส่งเสริมให้เป็นทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น service apartment ของ Ananda Development รวมถึงที่ดินขนาดใหญ่เยื้องกับตึกยูนิลิเวอร์ที่มีโอกาสจะกลายเป็น Mixed Use และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่อีกด้วย



Insight


Ashton Asoke - Rama9 (แอชตัน อโศก - พระราม 9) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู ระดับ High-End ของ Ananda Development โดยได้โลเคชั่นเป็นที่ดินหัวมุมผืนสุดท้ายของแยกพระราม 9 ตัดกับอโศก-ดินแดง ทำเลที่จะกลายเป็น CBD ( Central Business District ) ที่สำคัญ ซึ่งจะตามมากับ Mega project ขนาดใหญ่ทั้งที่ยังไม่เปิดตัวและที่เปิดตัวไปแล้ว อย่าง The Super Tower และ มักกะสันคอมเพล็กซ์


ความหรูหราของ Ashton Asoke - Rama 9 เริ่มตั้งแต่การออกแบบอาคาร โดยการทำให้ทุกห้องเป็นห้องมุม สามารถรับวิวเมืองแบบพาโนราม่า ระบบการไหลเวียนอากาศ และการได้รับแสงธรรมชาติในอาคารที่เป็นการคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับเมื่ออาศัยอยู่ในอาคารนี้ ระบบที่จอดรถอัตโนมัติ สระว่ายน้ำแบบลอยฟ้าที่ยื่นออกไปในอากาศ รวมถึงวัสดุตกแต่งอาคารที่ทาง Ananda Development พัฒนาขึ้น เรียกได้ว่า Ashton Asoke - Rama 9 ไม่ได้เป็นเพียงคอนโดมิเนียมระดับ High-End แต่ยังเป็นผลงานศิลปะทางสถาปัตยกรรมที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอีกด้วย


Sales Gallery ของโครงการเรียกได้ว่าแปลกตา นอกจากนี้ภายในยังมีบรรยกาศคล้ายกับ Art Gallery อีกด้วย เพราะนอกจากห้องตัวอย่าง และโมเดลของโครงการ ยังมีห้องฉาย 3D Model Mapping Theater ,การจัดแสดงวัสดุตกแต่ง Sales Gallery แห่งนี้ ซึ่งทางอนันดา ได้ร่วมงานกับ Designer และ Artist คิดค้นขึ้น รวมถึงมีผลงานศิลปะจัดแสดงอีกด้วย


ห้อง 3D Model Mapping Theater เป็นห้องสำหรับพรีเซ้นรายละเอียดของโครงการ แอชตัน อโศก - พระราม 9 และโปรเจคอื่น ๆ ที่จะยกระดับทำเลพระราม 9 ให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ CBD (Central Business District)

พื้นและผนังของ Sales Gallery ตกแต่งด้วยแผ่นเหล็ก ทองแดง เหล็กขึ้นสนิม และผนังปูนที่มีส่วนผสมของเหล็ก และปล่อยให้ขึ้นสนิมตามธรรมชาติ

ทางเดินไปยังห้องตัวอย่าง ใช้วัสดุตกแต่งที่ทางอนันดาพัฒนาขึ้น สองข้างเป็นกำแพงสูงจรดหลังคา ให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ และลึกลับ นอกจากนี้ยังมีโซนจัดแสดงวัสดุตกแต่งที่เมื่อเดินผ่านจะให้ความรู้สึกเหมือนมาเดินชม Art Gallery

Ashton Asoke - Rama 9 (แอชตัน อโศก-พระราม9) มีการจัดสรรส่วนกลางตามบุคลิกของอาคาร โดยที่อาคาร Alpha เป็นตัวแทนของบุคลิคแบบ Active และอาคาร Omega เป็นตัวแทนของบุคลิคแบบ Passive แต่อย่างไรก็ตาม ลูกบ้านทั้งสองตึกสามารถเข้าใช้ส่วนกลางทั้งหมดได้อย่างอิสระ



ในชั้น 1 รอบ ๆ โครงการ จะเป็นสวน และพื้นที่สีเขียว สำหรับผู้ใช้รถสามารถเข้าออกได้จากถนนพระราม 9


สำหรับในชั้น 1 และ 2 ของทั้งสองอาคาร จะมีส่วนที่เป็นร้านค้า ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็น DEAN & DELUCA แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ระดับไอคอนจากนิวยอร์ค





Facilty โดยแยกตามอาคาร


Building ALPHA

ชั้นใต้ดิน : พื้นที่จอดรถ Automatic Parking

ชั้น 1 : Lobby, ห้องจดหมาย, สำนักงานนิติ, จุดรับ-ส่งบริการซักรีด, พื้นที่ร้านค้า, สวน, พื้นที่จอดรถ, พื้นที่จอดรถแบบ Automatic Parking, ห้องระบบ 

ชั้น 2 : พื้นที่ร้านค้า, พื้นที่จอดรถ Automatic parking
ชั้น 3 - 8 : พื้นที่จอดรถ Automatic Parking
ชั้น 10 - 38 : ชั้นห้องพักอาศัย
ชั้น 40 - 41 : สระว่ายน้ำ, จากุชชี่, ฟิตเนส, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและห้องน้ำ, ซาวน่า, Boxing, Bike Simulator, Functional Training Studio, Sky Social Club,

ชั้น 42 - 43 : ชั้นห้องพักอาศัย


Ashton Rama 9

Ashton Rama 9

Ashton Rama 9





Building OMEGA

ชั้นใต้ดิน : พื้นที่จอดรถ Automatic Parking

ชั้น 1 : Lobby, ห้องจดหมาย, สำนักงานนิติ,จุดรับ-ส่งบริการซักรีด, ร้านค้า, สวน, พื้นที่จอดรถ, พื้นที่จอดรถ Automatic Parking, ห้องระบบ

ชั้น 2 :     ร้านค้า , พื้นที่จอดรถ Automatic Parking

ชั้น 3 - 11 :  พื้นที่จอดรถ Automatic Parking

ชั้น 12A - 39 :  ชั้นห้องพักอาศัย

ชั้น 41 - 42 : สระว่ายน้ำ, จากุชชี่, ฟิตเนส, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและห้องน้ำ, ห้องสตีม, ห้องโยคะ, Massage Room, Cinema Room, Co-Kitchen, Co-Working Space

ชั้น 43 - 47 :   ชั้นห้องพักอาศัย

ชั้น 50 :  Roof Deck


Ashton Rama 9

Ashton Rama 9

Ashton Rama 9

Ashton Rama 9





Show Unit (1BR 38 SQ.M.)

ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 38 ตร.ม. ถูกตกแต่งในคอนเซ็ปต์สาวนักบัลเลต์ โดยใช้วัสดุและสไตล์การตกแต่งที่บ่งบอกถึงความสดใส กระตือรือร้น ซึ่งคาแร็กเตอร์เจ้าของห้องตัวอย่างนี้จะอยู่ในช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยเริ่มต้นทำงาน


สำหรับห้องตัวอย่างขนาด 38 ตร.ม. ของโครงการ Ashton Asoke-Rama9 เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน โดยมีความพิเศษอยู่ที่ห้องนั่งเล่นที่เป็น Panoramic living room windows เป็นห้องรับแขกหัวมุมที่สามารถรับวิวได้สองด้านแบบพาโนราม่า พร้อมด้วยกระจกหน้าต่างที่เกือบจะเป็น full height เพื่อให้สามารถรับวิวได้อย่างเต็มที่


ภาพแรกเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา จะเป็นโซนของห้องครัว โดยถัดไปเป็นห้องรับแขก

สำหรับในส่วนของห้องครัว ท็อปของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็น synthetic stone ผิวของตู้ built in เป็นเทอร์โม ลามิเนต (Thermo Laminated) ซึ่งจะเก็บรายละเอียดรอยต่อได้ดี ไม่มีรอยต่อ ทำให้รู้สึกว่าวัสดุเป็นพื้นผิวเดียวกันหมด พื้นมีการแยกระหว่างพื้นส่วนครัวที่เป็น porcelain และส่วนของห้องนั่งเล่นที่เป็นพื้น engineering wood

นอกจากนี้ซิงค์ล้างจานยังเป็นแบบมีฝาปิด มีปลั๊กไฟสำหรับต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอื่น ๆ เครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้าติดตั้งแบบฝังมาให้ สำหรับช่องวางไมโครเวฟจะมีให้ 1 ช่องด้านล่าง ถังขยะจะถูกซ่อนเอาไว้ในตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน และผนังครัวจะเป็นผนังกันคราบ เวลาทำอาหารหากเลอะเทอะ ก็จะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย


สำหรับฝั่งตรงข้าม จะเป็นตู้สำหรับวางเครื่องซักผ้าที่ทางโครงการ built in มาให้ พร้อมปลั๊กไฟและท่อน้ำสำหรับต่อกับเครื่องซักผ้า


เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเป็นโซนของห้องรับแขก โครงการมีการตกแต่งเป็นตัวอย่างโดยใช้ bright copper เป็นวัสดุหลัก เพื่อทำให้ห้องดูสว่างสดใส ส่วนห้องจริงที่โครงการขายจะเป็นแบบ Fully-fitted เป็นห้องเปล่าที่ไม่ได้ตกแต่งมาให้


ห้องรับแขกจะได้ panoramic view เป็นห้องรับแขกหัวมุมที่สามารถรับวิวได้สองด้านแบบพาโนราม่าได้ ส่วนกระจกห้องจะเห็นว่าเกือบ ๆ จะเป็น full height เลยทีเดียว


มุมมองเมื่อมองย้อนกลับไปทางห้องครัว สำหรับเครื่องปรับอากาศทางโครงการได้ติดตั้งเอาไว้ให้โดยฝังไว้ในฝ้าตามภาพ ด้านขวามือจะเป็นทางเข้าไปสู่ส่วนของห้องนอน

สำหรับห้องนอน โครงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบฝั่งใต้ฝ้าเช่นกัน  ทางเข้าห้องน้ำ และระเบียงจะอยู่ในห้องนอน

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำ จะเป็นทางออกไปยังระเบียง

ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกแบบบานเปิด ด้านข้างจะเป็นห้องสำหรับซ่อนคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ



ในส่วนของห้องน้ำ เคาน์เตอร์เป็น synthetic stone เหมือนห้องครัว และพื้นเป็น porcelain มีประตูกระจกกั้นโซนแห้งและโซนเปียก ฝักบัวมีทั้งแบบถือ และ rain shower









Show Unit (1BR 46.5 SQ.M.)

Show Unit Ashton 46.5ห้อง Type 46.5 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus (ห้องนอนเดี่ยวแบบขยายขนาด) ภายในห้องตกแต่งโดยรวมด้วยโทนสีสว่าง และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ตัดสลับกับการแต้มสีน้ำเงินและสีโทนฟ้าไปบางจุดเพื่อสร้างความโดดเด่น ทาง Ashton ตกแต่งห้องโดยรวมไว้ให้เป็นห้องของหนุ่มนักผสมกลิ่นน้ำหอมที่อยู่ในวัยทำงาน วัยแห่งการวิ่งไขว่คว้าความฝัน และความสำเร็จ

ความพิเศษของแปลนห้องนี้คือ พื้นที่ทำงานที่เป็นสัดส่วน และห้องน้ำที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้องรับแขก และห้องนอน โดยที่ยังคงลักษณะเด่นของห้องในโครงการนี้ นั่นคือทุกห้องเป็นห้องมุม มี Panoramic living room windows เป็นห้องรับแขกหัวมุมที่สามารถรับวิวได้สองด้านแบบพาโนราม่า พร้อมด้วยกระจกหน้าต่างที่เกือบจะเป็น full height windows เปิดรับวิวได้กว้างกว่า และให้ความรู้สึกโปร่งสบายกว่า


Ashton Condo Room1

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับตู้ built in สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า ถัดไปเป็นโซนครัว และห้องรับแขกตามลำดับ 


Ashton Condo Room2

ในส่วนของโซนครัว จะคล้ายกับห้อง 38 ตร.ม. ทุกอย่าง พื้นจะเป็น porcelain ที่ทำความสะอาดได้ง่าย ในโซนห้องรับแขก และห้องนอนจะเป็นพื้น engineering wood


Ashton Condo Room3

สำหรับเคาน์เตอร์ครัว จะเป็นแบบเดียวกับห้องขนาด 38 ตร.ม. คือท็อปเป็น synthetic stone สีกาแล็กซี่ เกรย์ (Galaxy Grey) ผิวบานพับเป็นเทอร์โม ลามิเนต (Thermolaminated) ซึ่งเป็นวัสดุที่ทำให้รอยต่อดูเรียบเนียนเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน


Ashton Condo Room4

แน่นอนว่าชุดครัว built in จะมาพร้อมกับเครื่องดูดควัน ปลั๊กไฟ เตาไฟฟ้า 2 เตา ช่องวางไมโครเวฟ ซิงค์ล้างจานแบบมีฝาปิด และที่พักเก็บจานที่ดูเป็นสัดส่วน


Ashton Condo Room4

ถัดจากโซนครัว จะเห็นห้องรับแขก ห้องทำงาน และห้องนอน ซึ่งจะปูพื้นด้วย engineering wood


Ashton Condo Room6

Panoramic living room ที่เกือบๆ จะเป็นหน้าต่าง full height ทำให้สามารถรับวิวเมืองได้เต็มที่

Ashton Condo Room7


เมื่อมองกลับหลังมายังทางเข้า จะเห็นว่ามีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 - 4 ที่ได้ และเครื่องปรับอากาศยังเป็นแบบฝังไว้ในฝ้า

Ashton Condo Room8


ในพื้นที่ติดกับห้องรับแขก มีการกั้นห้องเพิ่มเติมให้เป็นห้องทำงาน สำหรับประตูกระจกบานเลื่อนโครงการมีการ built in มาให้ กรอบที่ในภาพเป็นวัสดุเพื่อการตกแต่ง ของจริงจะเป็นกรอบอลูมิเนียมสีเทาเข้ม


Ashton Condo Room9

กระจกในห้องทำงานเป็นกระจกแบบเข้ามุมสามารถมองเห็นระเบียงได้ ส่วนหน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้ง โดยห้องนี้ถูกตกแต่งในคอนเซ็ปต์ของนักผสมสูตรน้ำหอมที่ต้องมีอุปกรณ์ในการทำงานหลายชิ้น และห้องนี้ทำให้เห็นว่าสามารถเพิ่มชั้นวางของสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ โดยที่ห้องยังดูโปร่งโล่งน่านั่งทำงานอยู่


Ashton Condo Room10

ถัดจากห้องทำงาน จะเห็นห้องนอน และซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งความพิเศษของห้องน้ำของยูนิตนี้คือสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอน และห้องรับแขกเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และชอบความสะดวกสบายเมื่อต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก


Ashton Condo Room11

ห้องนอนกว้างพอที่จะวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เข้ามุมได้ เครื่องปรับอากาศโครงการติดตั้งเป็นแบบฝังฝ้ามาให้ ส่วนประตูทางออกไปยังระเบียงจะอยู่ทางขวามือ ประตูเป็นประตูกระจกที่เปิดโดยการผลักออก และระเบียงจะมีห้องสำหรับวางคอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศ เพื่อกันสายตาให้ระเบียงดูสวยงามเป็นระเบียบทั้งตึก


Ashton Condo Room12

สำหรับห้องน้ำ จะมีทางเข้าออก 2 ทาง คือจากห้องรับแขก และจากห้องนอน โดยรวมของที่ได้จะคล้ายกับห้อง 38 ตร.ม. ท็อปเป็น synthetic stone พื้น porcelain มีประตูกระจกกั้นโซนแห้งและโซนเปียก ฝักบัว มีทั้งแบบถือ และแบบ Rain shower


โดยรวมแล้ว ห้องนี้เหมาะสำหรับการอยู่คนเดียวหรือ 2 คน ซึ่งต้องการพื้นที่ทำงานอย่างเป็นสัดส่วน นอกจากอาชีพนักคิดสูตรน้ำหอมอย่างที่โครงการตกแต่งมาให้ดู อาจจะเป็น Software Engineer, Designer หรือ Freelancer ก็ได้เช่นกัน





Show Unit (2BR 68.5 SQ.M.)

21Ashton Condo 68.5

ห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 68.5 ตร.ม. ของโครงการ Ashton Asoke - Rama9 ถูกออกแบบมาในธีมห้องของผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว ในห้องนี้เราจะได้เห็นการเล่าเรื่องราวผ่านรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบ THE COLLECTOR ที่ชื่นชอบในงานศิลปะและ การสะสม ชิ้นงานชิ้นพิเศษที่มาจากทั่วทุกมุมโลก


สำหรับแปลนยูนิต 2 ห้อนอนขนาด 68.5 ตร.ม. จะมีห้องรับแขกขนาดใหญ่ และห้องนอนใหญ่ซึ่งมีห้องน้ำในตัวที่มีอ่างอาบน้ำ ส่วนระเบียงจะอยู่ในห้องนอนเล็ก

20Ashton Condo 68.5

ภาพแรกเมื่อเดินเข้ามาให้ยูนิตนี้คือพื้นที่อเนกประสงค์ และโถงทางเดิน ซึ่งทางโครงการตกแต่งด้วยภาพถ่ายขาวดำสูงจรดเพดาน 

19Ashton Condo 68.5

จริง ๆ แล้วพื้นที่โซนนี้ก็เปรียบเหมือนหน้าบ้าน เหมาะกับการสร้างความประทับใจ หรือบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าของห้องผ่านงานศิลปะ หรือตู้เก็บของสะสม แน่นอนว่าจะมีตู้เก็บรองเท้า หรือที่เก็บร่มก็เหมาะเช่นกัน

17Ashton Condo 68.5

เมื่อเดินเข้ามาตามโถงทางเดิน ก็จะเจอกับ ตู้สำหรับวางเครื่องซักผ้า และถัดจากนั้นก็จะเป็น Pantry ครัว

16Ashton Condo 68.5

ในส่วนของครัว วัสดุจะเป็นแบบเดียวกับสองห้องแรก แต่จะได้เตาไฟฟ้าขนาด 4 เตา และซิ้งค์ล้างจาน 2 ซิ้งค์ เพิ่มขึ้นมา

15Ashton Condo 68.5

ถัดจากห้องครัว จะเป็นโซนของห้องรับแขก ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ พร้อมกับกระจกแบบ Panoramic windows เป็นห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

14Ashton Condo 68.5

เมื่อมองย้อนกลับไป จะเห็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 - 5 ที่นั่ง ถัดจากโซนครัว และโครงการติดเครื่องปรับอากาศแบบฝั่งใต้ฝ้ามาให้

13Ashton Condo 68.5

ด้วยความที่คาแร็กเตอร์ในการตกแต่งห้อง เป็นห้องของผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว เราจึงมีโอกาสได้เห็นรูปแบบไลฟ์สไตล์แบบ Passive ที่มีการให้รางวัลชีวิต การเก็บสะสมงานศิลปะ แผ่นเสียง และโต๊ะทำงานที่เลือกใช้อุปกรณ์แบบคลาสสิค

12Ashton Condo 68.5

ย้ายจากห้องรับแขกมาสู่ห้องนอนใหญ่ ซึ่งความพิเศษของห้องนอนใหญ่คือ จะมีห้องน้ำในตัว

11Ashton Condo 68.5

ทางเข้าไปยังห้องน้ำจะอยู่ปลายเตียง โดยห้องน้ำอยู่ทางขวามือ หน้าห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

10Ashton Condo 68.5

ตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำพร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้ง ให้ความรู้สึกเหมือน walk-in closet อยู่เหมือนกัน

9Ashton Condo 68.5

สำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ จะมีทั้งโซนของการอาบน้ำแบบฝักบัว และอ่างอาบน้ำติดหน้าต่าง ซึ่งเป็นกระจกแบบเข้ามุม มองเห็นวิวแบบพาโนราม่า

8Ashton Condo 68.5

อ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์เป็นแบบเดียวกับห้อง 38 และ 46.5 ตร.ม. ที่ได้ชมกันมา โดยถัดจากอ่างล้างหน้าจะเป็นประตูกระจกเพื่อกั้นโซนเปียกและโซนแห้ง

7Ashton Condo 68.5

ฝักบัวอาบน้ำนอกจากแบบ rain shower แล้วจะมีฝักบัวแบบถือที่สามารถปรับระดับน้ำได้ตามอารมณ์ยี่ห้อ Grohe

Ashtonและที่พิเศษของห้องน้ำใหญ่คงหนีไม่พ้นอ่างอาบน้ำ ที่รับวิวได้ถึง 180 องศา ด้วยกระจกแบบเข้ามุม
Ashton

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็ก ซึ่งจะสามารถเข้าออกระเบียงได้ โดยที่ประตูระเบียงจะเป็นประตูกระจกแบบเปิดออก และบริเวณระเบียงจะมีพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ

Ashton

ห้องนอนเล็กมีขนาดพอเหมาะที่จะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้

Ashton

ตู้เสื้อผ้าของห้องนอนเล็ก ที่โครงการแต่งให้ดูเป็นตัวอย่าง

Ashton

ย้ายจากห้องนอนเล็ก มาต่อกันที่ห้องน้ำส่วนกลาง จะเห็นว่ารูปแบบของอ่างล้างหน้า เปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแทน

Ashtonสำหรับในโซนอาบน้ำ ก็จะมีประตูกระจกกั้นโซนเปียกและแห้งให้ ระบบฝักบัวเป็นบบ rain shower และแบบถือเหมือนของห้องขนาด 38 ตร.ม. และ 46.5 ตร.ม.




Analysis

ทำเล


แยกพระราม 9 ตัดถนนอโศก-ดินแดง จัดว่าเป็นโซนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ด้วยโครงการ Mega Project ต่าง ๆ ที่กำลังมา และสำนักงาน รวมถึงห้างสรรพสินค้าในปัจจุบัน สามารถสรุปได้โดยแทบไม่ต้องคิดเลยว่าพระราม 9 จะกลายเป็น CBD (Central Business District) ที่สำคัญในอนาคต


การเดินทาง


สำหรับผู้ที่ใช้รถ โครงการ Ashton Asoke - Rama 9 ตั้งอยู่ที่หัวมุมสุดท้ายบนสี่แยกพระราม 9 ตัดถนนอโศก-ดินแดง หรือที่เรียกกันติดปากว่า แยกพระราม 9 ฟอร์จูน ทำให้ไม่ว่าจะขับรถมาจากทางไหน ก็สามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนบนถนนจตุรทิศอีกด้วย


ที่สำคัญที่สุด โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9 ยังใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9 เพียงแค่ข้ามถนนมาอีกฝั่ง


การลงทุน


Ashton Asoke - Rama9 คือโครงการคอนโดมิเนียมที่จะกลายเป็น Landmark บนแยกพระราม 9 ทั้งนี้ด้วยการออกแบบที่สุดยอด และความสูงถึง 50 ชั้น เรียกว่าหากพูดถึงแยกพระราม 9 จะต้องนึกถึงแอชตัน อโศก - พระราม 9 แน่นอน ซึ่งตรงนี้เป็นจุดแข็ง เพราะโครงการที่คนจำได้ คนย่อมจับตา และมองหาเป็นอันดับต้น ๆ


นอกจากนี้ด้วยความที่โซนพระราม 9 กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง พัฒนาที่ดินด้วย Maga project หลายตัว ทั้งที่เปิดเผยแล้วอย่าง The Super Tower และมักกะสันคอมเพล็กซ์ รวมถึงที่ดินขนาดใหญ่ที่จับจองโดย developer รายใหญ่ในย่านนี้ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของทำเลที่ยังคงเติบโตไปได้ไกล


ตัวโครงการ


• Ashton Asoke - Rama9 จะกลายเป็นโครงการที่จะกลายเป็น Landmark บนย่านพระราม 9 อย่างแน่นอน ด้วยการออกแบบที่ทำให้ทุกห้องเป็นห้องมุม พื้นที่สวนขนาด 1 ไร่บริเวณด้านหน้า การออกแบบให้มี OPEN ATRIUM ที่เป็นช่องเปิดตรงกลางของอาคาร ซึ่งจะช่วยในเรื่องของ NATURAL VENTILATION และ มีช่องเปิดที่รับแสงธรรมชาติจากภายนอก และ Double Sky Facilities ที่มี สิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์


บนพื้นที่หัวมุมผืนสุดท้ายของแยกพระราม 9 ตัดถนนอโศก-ดินแดง คงยากที่จะมีโครงการไหนในย่านนี้มาเทียบได้อย่างแน่นอน


Ashton Rama 9

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ