รูปหน้าปก พบ ‘ทำเลใหม่’ ที่รองรับทุกความต้องการของคนเมือง กับคอนโดเอาใจคนรักสัตว์ที่ Metris Pattanakarn-Ekkamai

[Review] พบ ‘ทำเลใหม่’ ที่รองรับทุกความต้องการของคนเมือง กับคอนโดเอาใจคนรักสัตว์ที่ Metris Pattanakarn-Ekkamai

ซอยพัฒนาการ 12 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

Major Development (เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์)

HIGHLIGHTS


โอกาสทองของผู้มองหาทำเลใหม่
รองรับทุกความต้องการของคนเมือง


  • เตรียมสาย Neutral รองรับการติดตั้งระบบ Home Automation เอาไว้ให้เรียบร้อย
  • คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสัตว์ในทุก ๆ ด้าน
  • ทำเลใหม่ สะดวกด้านการเดินทางทุกรูปแบบ และยังอยู่ท่ามกลางไลฟ์สไตล์สุดคึกคัก สามารถเข้าถึงเอกมัย-ทองหล่อได้ภายใน 5 นาที
  • พื้นที่ Facilities 2 ชั้น ช่วยตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในทุกความต้องการ พร้อมส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยง
  • อุ่นใจ ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 15 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น




Project Review


“Metris” เกิดจากการผสมผสานกันของคำว่า ‘Retro’ และ ‘Modernist’ ที่นิยามถึงกลุ่มคนผู้หลงใหลในการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Mid-Century (MCM) โดยหัวใจสำคัญของการออกแบบและตกแต่งสไตล์นี้จะอยู่ที่ “การลดทอนให้เรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติ และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างชาญฉลาด”


เมทริส คอนโดมิเนียม ได้รับแรงบันดาลใจที่ทรงอิทธิพลของ MCM มาต่อยอดปรัชญาระดับ Master สู่การ Remaster เลือกสรรเทคนิคและวัสดุที่ทันสมัยในทุกองค์ประกอบ เพื่อคงคุณค่า เหนือกาลเวลา ตอบโจทย์การเป็นที่อยู่อาศัยที่สะท้อนตัวตนได้อย่างลึกซึ้งและสมบูรณ์แบบ


รูปลักษณ์และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของโครงการ ใช้เส้นสายแนวตั้งที่เรียบง่ายและแข็งแรง สะท้อนสไตล์เรียบเท่ รูปทรงเลขาคณิต สร้างความสมดุลจากความต่างอย่างลงตัว ในส่วนของสีอาคารเลือกใช้สีเหลืองมัสตาร์ดซึ่งเป็นโทนสีอบอุ่นจากยุค MCM มาเป็นสีหลักเพื่อสร้างเอกลักษณ์การอยู่อาศัยที่แท้จริง


รายละเอียดโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai

ชื่อโครงการ : Metris Pattanakarn-Ekkamai (เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย)

เจ้าของโครงการ : บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้งโครงการ : ซอยพัฒนาการ 12 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

พื้นที่โครงการ : 2-1-65 ไร่

ลักษณะโครงการ : High Rise สูง 29 ชั้น 1 อาคาร

จำนวนห้อง : 341 ยูนิต

รูปแบบห้อง :

  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 29.80-31.40 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 53.40-54.30 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 57.10-61.90 ตร.ม.

ที่จอดรถ : 47% (รวมจอดซ้อนคัน)

ราคาเริ่มต้น : 2.5 ล้านบาท

Floor Plan และพื้นที่ส่วนกลาง โครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai


โครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใหม่ (New CBD) บนถนนพัฒนาการฝั่งขาเข้าเมือง ทำเลโดดเด่นติดถนนพัฒนาการซอย 12 สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย เพียง 5 นาทีก็สามารถเข้าถึงโซนเอกมัยได้แล้ว นอกจากนี้ก็ยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียง 100 เมตร และใกล้กับ Airport Rail Link รามคำแหง เพียง 900 เมตร


เมื่อเลี้ยวเข้ามาภายในโครงการ จะพบกับห้องมัลติฟังก์ชันรูมที่ยื่นออกมาเป็น Box อยู่ทางด้านหน้าของตัวอาคาร ใกล้กันมีลานบาร์บีคิว และจุด Drop Off วนรถไว้รับ-ส่งลูกบ้าน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้าไปยังส่วน Lobby ได้ทันที ส่วนการเดินรถในโครงการเป็นแบบทางเดียว มีทางเข้าช่องจอดอยู่ที่ด้านข้างของอาคาร


พื้นที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 6 สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 47% จากจำนวนยูนิตโดยรวมทั้งหมด (รวมจอดซ้อนคัน)


พื้นที่สีเขียวทางด้านหลังสุดของอาคารเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับสัตว์เลี้ยงและลู่วิ่งออกกำลังกาย ให้ลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงแสนรักได้ลงมาวิ่งเล่นออกกำลังกายด้วยกัน


สำหรับพื้นที่บนชั้น 7 ของโครงการ ถูกแบ่งเป็นโซนของ Facilities และห้องพักอาศัย มีสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ให้ได้ take view พร้อมพื้นที่พักผ่อนที่บริเวณริมสระ


ภายใน ชั้น 1 ของโครงการจะประกอบไปด้วย โถงต้อนรับ, ห้องอเนกประสงค์, โค-เวิร์กกิง สเปซ, ตู้จดหมาย, ตู้ฝากของอัจฉริยะ, ห้องซักรีด และโถงลิฟท์ ส่วนพื้นที่โดยรอบด้านนอกอาคารจะประกอบไปด้วย พื้นที่ทำบาร์บีคิว, พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง, สวนพักผ่อน, ทางวิ่งออกกำลังกาย, ลานอเนกประสงค์, พื้นที่ล้างรถ และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า


ภาพจำลองบรรยากาศ Outdoor BBQ Garden

เริ่มต้นที่ Outdoor BBQ Garden ลานบาร์บีคิวที่มาพร้อมโต๊ะเก้าอี้และโซนเตรียมอาหาร ให้เราสามารถเลือกใช้งานพื้นที่ได้ตามความต้องการ ทั้งจัดปาร์ตี้ ทำอาหารร่วมกันในบรรยากาศ Outdoor ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่สีเขียว ให้ความรู้สึกเสมือนได้พักผ่อนแคมป์ปิงในวันหยุดสุดสัปดาห์


ภาพจำลองบรรยากาศ Pet Zone และ Jogging Track

ทางด้านของ Pet Zone ลานสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ด้านหลังของโครงการ ก็มาพร้อมกับลู่วิ่ง Jogging Track ความยาว 1 รอบ 80 เมตร ท่ามกลางบรรยากาศสวนหย่อมแสนสดชื่น ให้คุณและเพื่อนแสนรักได้มาวิ่งออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน หรือใครอยากจะมาชิลล์เล่น พักผ่อนชมบรรยากาศสวน พร้อมสูดหายใจรับอากาศสุดเฟรชให้เต็มปอด ก็แวะมาที่นี่ได้เสมอ


ภาพจำลองบรรยากาศ Double Volume Lobby


ภาพจำลองบรรยากาศ Double Volume Lobby

สำรวจพื้นที่ Outdoor แล้ว มาต่อที่โซน Indoor ที่ชั้น 1 กับ Double Volume Lobby กันบ้าง สำหรับพื้นที่ต้อนรับแห่งนี้ ออกแบบไว้อย่างโอ่โถง จัดเต็ม แบบดับเบิลวอลลุม ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมมุมนั่งเล่น และมีบริการ Wi-Fi สำหรับลูกบ้านทั่วทุกจุดของส่วนกลาง จะแวะมานั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศ, นัดพบปะพูดคุย หรือนั่งรอรถมารับที่จุด Drop Off ก็ย่อมได้


ภาพจำลองบรรยากาศ Co-Working Space

ติดกันกับโถง Lobby จะเป็นห้อง Co-Working Space เป็นพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกขั้นจากส่วนล็อบบี้ ให้ลูกบ้านได้เข้ามาใช้นั่งอ่านหนังสือ หรือทำงานกับโน้ตบุ๊กคู่ใจได้ตามอัธยาศัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการหลีกหนีจากบรรยากาศที่อุดอู้ มาหาแรงบันดาลใจด้วยพื้นที่ใหม่ ๆ ไม่แน่ว่าไอเดียที่คุณคาดไม่ถึง อาจเกิดขึ้นที่นี่ก็เป็นได้


ภาพจำลองบรรยากาศ Common Room

นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของ Common Room พื้นที่นั่งเล่นส่วนรวม ที่ให้คุณได้แวะมาทิ้งกาย ผ่อนคลายจากวันที่เหนื่อยล้ากับคนรู้ใจ หรือจะแอบมาหลบมุมอิงโซฟานุ่ม ๆ เปลี่ยนบรรยากาศมาพบปะผู้คนบ้าง ก็เติมความสดชื่นให้กับเราได้ไม่น้อย


มาต่อที่พื้นที่ภายในอาคารบน ชั้น 7 กันบ้าง สำหรับชั้นนี้ พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่รวมกันกับห้องพักอาศัย โดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วยยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 10 ยูนิต ได้แก่

  • 1 Bedroom 1 Bathroom จำนวน 7 ยูนิต
  • 2 Bedroom 1 Bathroom จำนวน 1 ยูนิต
  • 2 Bedroom 2 Bathroom จำนวน 2 ยูนิต


ส่วน Facilities ที่ชั้นนี้จะประกอบไปด้วย ฟิตเนส, ซิตี้เลาจ์, ที่นั่งพักผ่อน, สระว่ายน้ำ, ที่อาบน้ำกลางแจ้ง, สตรีม และซาวน่า


ภาพจำลองบรรยากาศ Fitness


ภาพจำลองบรรยากาศ Fitness

เริ่มต้นสำรวจส่วนกลางของชั้น 7 กันที่ห้อง Fitness พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับบริหารทุกสัดส่วนของร่างกายอย่างครบครัน ไม่ว่าจะออกกำลังเผาผลาญไขมัน หรือเวทสร้างกล้ามเนื้อ ก็เลือกเล่นได้ตามใจชอบ แถมความพิเศษด้วยบรรยากาศ City View ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเวิร์กเอาต์พร้อม ๆ กับรับชมวิวสวย ๆ ไปในตัว


ภาพจำลองบรรยากาศ Sun Deck และ City Lounge

ต่อกันที่ส่วน Outdoor ด้านนอกอาคารฝั่งทิศใต้ พบกับพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อนสุดชิลล์ 2 ส่วน อย่าง Sun Deck สำหรับนอนรับลม ชมวิวเมืองเพลิน ๆ และมี City Lounge โต๊ะเคาน์เตอร์พร้อมเก้าอี้ ที่ให้คุณได้มาเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทานข้าวท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ยามเย็นได้ทุกวัน


ภาพจำลองบรรยากาศ Panoramic View Swimming Pool


ปิดท้ายด้วย Panoramic View Swimming Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ เทกวิวเมืองสวย ๆ ได้แบบพาโนรามา ที่ไม่ว่าคุณจะแวะมาออกกำลังกายยามเย็นหลังเลิกงาน หรือแวะมาแช่น้ำชิลล์ ๆ ชมทัศนียภาพอันงดงามยามพระอาทิตย์ตกดิน ก็ล้วนทำให้วันดี ๆ ของคุณ จบลงอย่างสวยงาม พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสได้ในทุก ๆ วัน


ส่วนทางด้านของชั้น 8 ถึงชั้น 29 จะเป็นพื้นที่ของยูนิตพักอาศัยทั้งหมด โดยแต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 15 ยูนิต ซึ่งถือว่าน้อย และมีความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยยูนิตพักอาศัยจะประกอบไปด้วย

  • 1 Bedroom 1 Bathroom จำนวน 11 ยูนิต
  • 2 Bedroom 1 Bathroom จำนวน 2 ยูนิต
  • 2 Bedroom 2 Bathroom จำนวน 2 ยูนิต




Room Review


1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.60 ตร.ม.


แปลนของห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.60 ตร.ม. จะเป็นลักษณะแบบสี่เหลี่ยมจัตตุรัส โดยจะเน้นพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนมากเป็นพิเศษ เมื่อเข้าไปถึง เราจะมายืนอยู่ที่ส่วนแรกอย่างครัวเปิดก่อน ซ้ายมือจากประตูทางเข้าจะเป็นห้องน้ำ ถัดไปจากส่วนครัวเปิดจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นติดกับระเบียง ซ้ายมือเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวขนาดใหญ่อย่างห้องนอนนั่นเอง

  • ดังนั้น ลักษณะแปลนของห้องนี้ จึงเหมาะกับคนที่ต้องการอยู่อาศัยตั้งแต่ 1-2 คน โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่พักผ่อนเป็นหลัก ที่ไม่เน้นงานครัวหนักมากนัก


เชื่อมต่อเข้าสู่ห้องพักอาศัยแสนอบอุ่นผ่าน Digital Door Lock จากแบรนด์ Hafele ที่ทางโครงการให้มา ภายในห้องตกแต่งแบบ Fully Fitted เพดานสูง 2.6 เมตร ให้ความรู้สึกค่อนข้างโล่งโปร่งสบาย พื้นห้องทั้งหมดเป็นวัสดุลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ขวามือจากทางเข้าเป็นเคาน์เตอร์ครัว ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ถัดไปด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง มีแสงส่องสว่างจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องได้อย่างทั่วถึง ซ้ายมือติดกันกับห้องนั่งเล่นเป็นทางเข้าพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนตามลำดับ


เริ่มต้นสำรวจห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.60 ตร.ม. กันที่ส่วนครัวเปิดของห้อง พื้นที่ทำครัวส่วนนี้ โครงการจะให้เป็นเคาน์เตอร์ทั้งแบบตั้งพื้นและแขวนผนัง ด้านขวาสุดเว้นที่สำหรับวางตู้เย็นเอาไว้ให้ ทางด้านซ้ายติดกับเคาน์เตอร์ครัวแขวนผนังทางโครงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเอาไว้ให้ 1 เครื่อง จากแบรนด์ TRANE ซึ่งจะให้ความเย็นไปทั่วบริเวณทั้งในส่วนครัวและห้องนั่งเล่น


สำหรับพื้นที่จัดเก็บก็ให้มาอย่างครบครัน ทั้งบานตู้ขนาดใหญ่ใต้ซิงก์ล้างจาน, ลิ้นชัก 2 ชั้น และตู้เก็บของแบบแบ่งชั้น ทำให้เราสามารถจัดเก็บอุปกรณ์ทำครัว, ภาชนะ, อาหารแห้ง และเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอและเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ด้านล่างก็ยังเว้นช่องสำหรับวางไมโครเวฟเอาไว้ให้อีกด้วย


มาดูต่อกันที่ส่วนของท็อปเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง วัสดุที่ทางโครงการเลือกใช้จะเป็นหินสังเคราะห์ ที่มีความแข็งแรง ทนทาน แต่ยังคงความสวยงามเหมือนหินตามธรรมชาติ พร้อมกรุกระเบื้อง Backsplash เอาไว้ให้อีกด้วย ไม่ว่างานครัวจะหนักแค่ไหน ก็เช็ดทำความได้ง่ายดาย


ส่วนชุดครัวที่ทางโครงการให้ จะประกอบไปด้วยเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อม Hood และซิงก์ล้างจานจากแบรนด์ Hafele แบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่ทุกคนให้ความไว้วางใจ


ทางด้านของห้องน้ำ ภายในจะตกแต่งให้ครบสวยงาม ตามแบบในห้องตัวอย่างทุกประการ พื้นห้องน้ำเป็นวัสดุกระเบื้องโทนสีเทา ตัดกันอย่างลงตัวกับผนังห้องที่กรุด้วยกระเบื้องลายอิฐสีขาวสะอาดตา บริเวณซ้ายมือติดทางเข้าจะเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ถัดไปติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ซึ่งด้านตรงข้ามจะมีราวแขวนผ้าขนหนูมาให้ ด้านในสุดเป็นส่วนเปียก Shower Box ซึ่งกั้นแยกออกจากพื้นที่ใช้งานส่วนแห้งด้วย Partition


รายละเอียดในพื้นที่ส่วนแห้งนั้น ในส่วนของอ่างล้างหน้าจะติดตั้งเป็นกระจกทรงกลมขอบดำดีไซน์เก๋มาให้ ชุดอ่างล้างหน้ามาในโทนสีขาวด้านใต้เป็นพื้นที่วางของลายไม้สีอ่อนจากแบรนด์ Lavenz โถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระและที่ใส่ทิชชู่ก็ยังคงใช้แบรนด์ชั้นนำอย่าง Hafele อีกเช่นเคย


บอกเลยว่าพื้นที่อ่างล้างหน้าทั้งส่วนขอบอ่างและช่องเก็บของด้านใต้ ให้มาเพียงพอสำหรับวางอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโฟมล้างหน้า, ครีมบำรุงผิว, ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน ก็จัดวางได้เป็นระเบียบ ใต้อ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ว่างยกลอยสูงเหนือพื้น สามารถทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย


พื้นที่วางของอีกหนึ่งจุดจะอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ โดยบริเวณผนังด้านข้างทางโครงการจะ Drop Wall เอาไว้ให้ ซึ่งเราสามารถเพิ่มชั้นวางของ เติมต้นไม้สีเขียวสร้างบรรยากาศ หรือเพิ่มเทียนหอมกลิ่นอโรม่าผ่อนคลายความเครียดไว้ที่บริเวณนี้ก็ได้


ส่วน Partition ของโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ก็จะมีความแตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ในเรื่องของดีไซน์ เป็นกระจกใสตัดขอบดำ ล้อไปกับกระจกเงากลมบริเวณอ่างล้างหน้าได้เป็นอย่างดี บานกระจกที่ให้มาเป็นแบบบานสไลด์ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดใช้งานได้กว้างกว่าแบบบานเปิด


ด้านในส่วน Shower Box ทางโครงการให้เป็น Hand Shower จากแบรนด์ Hafele ภายในมีพื้นที่สำหรับยืนได้แบบสบาย ๆ มาพร้อมระบบระบายอากาศภายในห้อง คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์


มาที่อีกหนึ่งพื้นที่สำคัญของห้อง ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี อย่างห้องนั่งเล่นกันบ้าง พื้นที่ส่วนนี้นอกจากจะเป็นพื้นที่พักผ่อนของเราแล้ว ก็ยังเป็นส่วนที่ใช้ต้อนรับแขกที่มาเยือนห้องของเราอีกด้วย พื้นที่ส่วนนี้ทางโครงการให้มาแบบพอดี ๆ ไม่เล็กและไม่กว้างจนกินพื้นที่ส่วนอื่นจนเกินไป สามารถจัดวางชั้นทีวีและโซฟาได้แบบมีระยะห่างที่เหมาะสมกับการรับชม


  • ฝั่งด้านที่อยู่ติดกันกับเคาน์เตอร์ครัว เราสามารถเลือกวางชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง พร้อมแทรกโต๊ะทานข้าวไปอีก 1 ตัว หากคุณอยู่คนเดียว สบาย ๆ การเมเนจพื้นที่ด้วยรูปแบบจากห้องตัวอย่างก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
  • ส่วนใครที่ชอบสังสรรค์ หรืออยากขยายโซฟาให้กว้างขึ้นอีกสักหน่อย อาจใช้งานส่วนนี้แบบอเนกประสงค์ ให้เป็นได้ทั้งห้องนั่งเล่นและมุมทานข้าวไปในตัว โดยเราอาจจะเพิ่มในส่วนของโต๊ะกลางที่มีฟังก์ชั้นปรับยกสูงเพื่อให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวในยามที่ต้องการได้ และเลือกวางโซฟาให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกสักหน่อย เท่านี้ก็สะดวกสบาย ใช้งานพื้นที่ทุกส่วนได้อย่างคุ้มค่าแล้ว
  • นอกจากนี้พื้นที่ตรงนี้ก็มีขนาดพอสำหรับจัดวางมุมส่วนตัวให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราอีกด้วยนะ


และสำหรับใครที่ซื้อในรอบวัน Pre-Sale ของทางโครงการ ก็รับไปเลยกับระบบ Home Automation พร้อมกล้องวงจร 2 ตัว ซึ่งสามารถใช้งานโดยเปิดสปีกเกอร์โฟนคุยกับสัตว์เลี้ยงของเราได้ 1 ตัว และอีกตัวใช้งานแบบกล้องวงจรปกติ ตัวกล่องควบคุมก็สามารถใช้งานเปิดปิดไฟ, แอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน ส่วนใครที่พลาดรอบ Pre-Sale ทางโครงการก็ยังเตรียมสาย Neutral เพื่อรองรับการติดตั้งระบบ Home Automation เอาไว้ให้สำหรับติดตั้งเองได้ด้วย


ต่อกันที่ระเบียงของห้อง บานประตูกระจกสไลด์ส่วนนี้ จะเป็นลักษณะแบบ 2 หน้าบานที่สามารถเลือกเปิดได้จากทั้ง 2 ฝั่งซ้ายและขวา


ด้านนอกระเบียงเป็นพื้นกระเบื้องสีเทา ให้พื้นที่มากว้างขวางสำหรับตากผ้าได้แบบสบาย ๆ ขวามือติดตั้งระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าทั้งฝาหน้าและฝาบนเอาไว้ให้พร้อมท่อระบายน้ำ และส่วนของแอร์คอมเพรสเซอร์จะแขวนลอยอยู่เหนือส่วนนี้ด้วยเช่นกัน


ราวระเบียงของห้องฝั่งที่อยู่ติดกับเครื่องซักผ้า ทางโครงการจะกั้นเป็นแบบเต็มความสูงถึงเพดานเอาไว้ให้ ซึ่งก็ค่อนข้างปลอดภัยในการใช้งาน ช่วยป้องกันเสื้อผ้าหรือสิ่งของของเราร่วงตกลงไปได้อีกทางหนึ่ง และยังเพิ่มดีไซน์ให้ดูมีความสวยงามมากขึ้น


ปิดท้ายกันที่ส่วนพักผ่อนส่วนตัว บอกเลยว่าพื้นที่ของห้องนอนของสำหรับโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ให้มากว้างมาก เราสามารถเลือกจัดวางฟังก์ชันภายในห้องให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ตามต้องการ

  • หากอยู่คนเดียว จะเลือกใช้เป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต แล้วเพิ่มโต๊ะทำงานติดริมหน้าต่างก็ดูดีไปอีกแบบ
  • ส่วนใครที่อยู่กันเป็นคู่ ห้องนี้ก็กว้างพอสำหรับวางเตียงขนาด 6 ฟุต แบบยังเหลือพื้นที่ใช้สอยที่สามารถเดินได้แบบสบายไม่อึดอัด


ด้านซ้ายมือจากทางเข้าห้อง ส่วนนี้จะ Drop เว้นช่องเอาไว้สำหรับบิลต์อินเพิ่มเติมเป็นตู้เสื้อผ้า เราสามารถดีไซน์พื้นที่ส่วนนี้ได้อย่างอิสระ อยากจะเพิ่มเป็นชั้นวางหนังสือแบบในห้องตัวอย่าง หรือจัดเต็มสำหรับเก็บเสื้อผ้าล้วน ๆ ก็เลือกได้ตามความชอบอีกเช่นกัน


พื้นที่ข้างเตียงทั้งสองด้าน บอกเลยว่าเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้แบบเหลือ ๆ จะเพิ่มเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ใช้นั่งทำงานและแต่งหน้าในตัวแบบห้องตัวอย่างก็น่าสนใจไม่น้อย


กระจกของห้องนอนจะเป็นแบบบานกระทุ้ง สามารถเปิดเพื่อรับลมในวันที่อากาศดี หรือเปิดเพื่อระบายอากาศภายในห้องได้ ส่วนปลายเตียงติดตั้งเครื่องปรับอากาศมาให้อีกหนึ่งเครื่องจากแบรนด์ TRANE พร้อมวางระบบสำหรับติดตั้งทีวีเอาไว้ให้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนตากแอร์เย็นช่ำบนเตียงนุ่ม ๆ ไปพร้อมกับการรับชมภาพยนต์เรื่องโปรด


สำหรับห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.60 ตร.ม. จะตกแต่งแบบ Fully Fitted โดยทางโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai จะให้ชุดครัวบิลต์อินครบชุด ที่มาพร้อมเตาไฟฟ้าเซรามิก 2 หัว, เครื่องดูดควัน และซิงก์ล้างจานจากแบรนด์ Hafele ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะมาจากแบรนด์ Hafele และ Lavenz ภายในติดตั้งเครื่องปรับอากาศ TRANE ให้จำนวน 2 ตัว อยู่บริเวณโถงห้องนั่งเล่นและห้องนอน มาพร้อมกลอนประตูดิจิทัลได้มาตรฐานจาก Hafele




Location & Lifestyle


โครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ตั้งอยู่บนถนน “พัฒนาการ” ซึ่งเป็นหนึ่งในโลเคชันใหม่ในกรุงเทพฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดกับแยกคลองตัน ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยังถนน 3 สายสำคัญของกรุงเทพได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น

  • ถนนเพชรบุรี : เชื่อมต่อไปยังย่าน CBD อย่างอโศก และ New CBD อย่างพระราม 9 ได้สะดวกสบาย
  • ถนนสุขุมวิท 71 : เข้าถึงย่านปรีดีพนมยงค์ แหล่งรวมร้านอร่อยคลาสสิก ไปจนถึงย่านสีสันอย่างเอกมัยทองหล่อได้ง่าย ๆ
  • ถนนรามคำแหง : ย่านเก่าแก่ดั้งเดิมที่รวมร้านอร่อยไว้มากมาย รวมถึงเป็นแหล่งสถานศึกษาชั้นนำอีกด้วย


แถมทำเลพัฒนาการนี้ยังเป็นย่านที่ด้รับความสนใจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ในการพัฒนาโครงการรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Hyper Market, Community Mall และ Office Building เป็นต้น


ไม่เพียงแค่ถนน 3 สายหลักที่เชื่อมต่อเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบายเท่านั้น แต่โครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ก็ยังมีทางด่วนพิเศษ 2 เส้นทาง รวมไปถึงมีสถานีรถไฟใกล้กับตัวโครงการอีกด้วย

  • สถานีรถไฟสุขุมวิท 71 : เชื่อมถึงชลบุรีพัทยาได้เลยทันที รวมไปถึงจังหวัดอื่น ๆ อย่างฉะเชิงเทรา, สระแก้ว


และเพียง 100 เมตรจากโครงการ ก็จะเจอกับจุดขึ้น-ลงทางด่วน หรือทางพิเศษฉลองรัช ที่สามารถเชื่อมต่อได้กับฝั่งในเมืองอย่างย่าน CBD หรือนอกเมืองไปทางชลบุรีก็ไม่มีติดขัด สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัว ทำเลนี้ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกมาก ๆ เลยทีเดียว


  • ทางด่วนพัฒนาการ 1 : เชื่อมถึงบางนา, ดาวคะนอง, ดินแดง, แจ้งวัฒนะ


  • ทางด่วนพัฒนาการ 2 : เชื่อมถึงถนนพระราม 9, รามอินทรา, เกษตรนวมินทร์


ส่วนคนที่เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า Airport Rail Link รามคำแหง เพียง 5 นาทีเท่านั้น สามารถเปลี่ยนสายเป็นรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ได้ที่สถานีพญาไท หรือเปลี่ยนสายเป็น MRT สายสีน้ำเงิน ก็ลงที่สถานีมักกะสันได้เลย บอกเลยว่าหมดกังวลเรื่องการเดินทาง สามารถเข้าถึงทุกที่ในกรุงเทพมหานครได้ภายในเวลาอันรวดเร็วอย่างแน่นอน


สำหรับการเดินทางในทำเลย่านพัฒนาการก็ยังไม่จบลงเพียงแค่นี้ เพราะในอนาคตก็กำลังจะมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) แบบไร้รอยต่อ รวมระยะทางกว่า 220 กม.


เปิดใจมอง ‘พัฒนาการ’ ในมุมใหม่ อีกหนึ่งทำเล
ที่ให้คุณได้ทั้งความสงบและสีสันของไลฟ์สไตล์ไม่รู้จบ



เข้าถึง ‘The Nine’ ได้ภายใน 10 นาที


ศูนย์การค้า THE NINE พระราม 9 Community Mall แห่งแรกบนถนนพระราม 9 ที่พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ ประกอบด้วยไปด้วยร้านค้าชั้นนำหลากหลายกว่า 100 ร้านค้า เป็นให้คุณได้ทั้งจุดนัดพบแฮงก์เอาต์และ One-Stop Service ด้วยแนวคิด “CREATIVE NEIGHBOR” เราคือเพื่อนบ้านที่ดี ที่มีสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ ที่นี่จะเน้นความเป็นธรรมชาติ สวนสวยแนวตั้งจากพันธุ์ไม้จริง ที่ตกแต่งสร้างบรรยากาศความรู้สึกเหมือนการเดินพักผ่อนในสวนร่มรื่น


นอกจากนี้ภายในก็ยังมีตลาดเสรีมาร์เก็ต “ตลาดสะอาด อาหารปลอดภัย” ที่รวมของอร่อยและวัตถุดิบมากมายให้คุณได้เลือกชอป รวมไปถึงมีแหล่งอาหาร Food Court อย่าง อิ่มท้อง ที่มีร้านอาหารพร้อมทานแบบไทย ๆ ครบทุกประเภท ทั้งแกงใต้, อาหารเหนือ, กับข้าวรสเด็ด, ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ บอกเลยว่าแวะมาที่นี่ที่เดียว อิ่มท้องอิ่มใจกันไปทั้งวัน


ส่วนใครเป็นสายคลีนที่รักสุขภาพเป็นพิเศษ ที่นี่ก็ยังมี Lemon Farm ซูเปอร์มาร์เก็ตออร์แกนิก เอาใจสายเฮลท์ตี้ สามารถเลือกซื้อผักสด ๆ หรือสินค้าจากโครงการหลวงได้ภายในที่นี่ที่เดียว นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติให้เลือกชอปกันอีกด้วย


ปิดท้ายด้วย Supermarket ชื่อดังอย่าง Max Valu ที่รวบรวมสินค้าอุปโภคบริโภค รวมไปถึงวัตถุดิบสด ๆ ส่งตรงจากต่างประเทศ ใครที่อยากจะหาวัตถุดิบดี ๆ ไปปรุงอาหารทานเองกันที่ห้อง บอกเลยว่าต้องไม่พลาด แวะมาชอปติดไม้ติดมือกลับไป นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารปรุงสำเร็จสไตล์ญี่ปุ่นน่าทานมากมายให้ได้ลองลิ้มรสกันอีกด้วย


เข้าถึง ‘HomePro’ ได้ภายใน 5 นาที


ไม่ไกลจาก The Nine ยังมี HomePro เอาใจคนรักการแต่งห้อง หรือสำหรับใครที่ต้องการเลือกซื้อสินค้าไว้ใช้ภายในห้อง อย่างอุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ เกี่ยวกับงานบ้าน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถมาเลือกชอปได้ที่นี่เลย นอกจากนี้ HomePro สาขา พระราม 9 ก็ยังมีโซนพิเศษเอาใจสายปั่นอย่าง BIKE CLUB เปิดให้บริการตลอดทุกวันอีกด้วย


เข้าถึง ‘London Street’ ได้ภายใน 5 นาที


ต่อกันด้วยอีกหนึ่งแหล่งชิลล์สไตล์อังกฤษกับ London Street คอมมูนิตีฟู้ดมอลล์ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากหอนาฬิกา Big Ben ภายในรวบรวม 5 ร้านดังมาให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อย ทั้ง MK, Yayoi, Miyazaki, Le Siam และ Le Pitt นอกจากนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารัก สวยงาม เหมาะกับการถ่ายรูปเช็คอินเป็นที่สุด และในบริเวณเดียวกันก็ยังมี Tesco Lotus ห้างสรรพสินค้าครบวงจร ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการซื้อข้าวของเครื่องใช้อีกด้วย


เข้าถึง ‘DON DON DONKI’ ได้ภายใน 5 นาที


เพียงไม่กี่นาทีจากตัวโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai คุณสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ย่านเอกมัยได้อย่างง่ายดาย และแลนด์มาร์กสุดฮิตอย่างแหล่งชอปสไตล์ญี่ปุ่นก็คงหนีไม่พ้น DON DON DONKI ร้านค้าสัญชาติญี่ปุ่นชื่อดังที่เป็นจุดเช็กอินยอดฮิต


ภายในมีสินค้าให้เลือกชอปหลายหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบทำอาหารที่สดใหม่ หรือเครื่องปรุงที่นำเข้าจากญี่ปุ่น และยังมีโซนร้านอาหาร ที่มีเชฟมาปรุงให้ทานกันสด ๆ ในบรรยากาศที่เหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่


เข้าถึง ‘โรงพยาบาลกรุงเทพ’ ได้ภายใน 10 นาที


นอกเหนือจากการเดินทางที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้แหล่งชอปและร้านอาหาร อีกปัจจัยที่สำคัญของการเลือกที่อยู่อาศัยคือต้องอยู่ใกล้สถานพยาบาล เพื่อการใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ หมดห่วงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งโครงการ Metris Pattanakarn-Ekkamai ก็ตั้งอยู่ใกล้กับสถานพยาบาลหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลมาตรฐานสากลที่ครบวงจรที่สุดในย่านนี้


จากศักยภาพของทำเลที่กล่าวมานั้น จะเห็นได้ว่า 'พัฒนาการ' เป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพในทุก ๆ ด้าน และยังสะดวกต่อการเดินทางเข้าออกเมือง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า Airport Rail Link จึงเป็นทำเลใหม่ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อเดินทางไปทำงานในย่าน CBD ในขณะที่มีราคาต่ำกว่าถึง 30%-40% ด้วยเหตุนี้จึงเหมาะสำหรับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นก็มี Capital Gain สูงถึงเฉลี่ยปีละ 4%-6.5% หรือการลงทุนระยะยาวก็มีอัตราผลตอบแทนค่าเช่าค่อนข้างดี สูงสุดมากถึง 6% เลยทีเดียว


พิเศษ! PRE-SALE 16-17 พ.ย. 62
 รับฟรี! ระบบ Home Automation ทุกยูนิต
 และลุ้นโชคต่อที่ 2 รับ iPhone 11 Pro
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด
เพิ่มสูงสุด 300,000 บาท! คลิก



แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ