รูปหน้าปก บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) บ้านหรู LANAI Series แรงบันดาลใจจาก Autumn in Paris ใจกลางรามอินทรา โอบล้อมด้วยความใส่ใจเพื่อการอยู่อาศัยเหนือระดับ

[Review] บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) บ้านหรู LANAI Series แรงบันดาลใจจาก Autumn in Paris ใจกลางรามอินทรา โอบล้อมด้วยความใส่ใจเพื่อการอยู่อาศัยเหนือระดับ

ซอย พระยาสุเรนทร์ 30 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

SC ASSET

HIGHLIGHTS


  • บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านรามอินทรา อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย - มีนบุรี) สถานีบางชันเพียง 2.4 กิโลเมตร พร้อมเชื่อมต่อถนนหลักได้หลายเส้นทาง
  • เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ LANAI SERIES เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิต 87 หลัง ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติกตามคอนเซปต์ "Autumn in Paris"
  • ทุกพื้นที่ในโครงการออกแบบมาให้ตอบรับกับความต้องการของทุก Gen มีส่วนกลางขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย
  • อุ่นใจด้วยระบบ Triple Security System ที่เน้นรักษาความปลอดภัยให้ตั้งแต่ทางเข้าโครงการไปจนถึงตัวบ้าน
  • พื้นที่บ้านออกแบบมาให้เน้นฟังก์ชัน Semi-Outdoor ให้ทุกคนได้อยู่อาศัยแบบใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเน้นออกแบบให้บ้านมีหน้ากว้าง มีฝ้า-เพดานสูงโปร่ง และจัดสรรส่วนต่างๆ ให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว
  • โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) ราคาเริ่มต้น 10 - 23 ล้านบาท* ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ* https://m.scasset.com/Azfc


Project Review



โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) เป็นโครงการบ้านซีรีส์ใหม่ที่มีชื่อว่า “LANAI” (ลา-ไน) จาก SC ASSET โดยแนวคิดของแบบบ้าน LANAI SERIES นั้นเกิดจากคำ 3 คำ คือ Space-Space-Space


  • Space คำแรก หมายถึง พื้นที่ Indoor หรือพื้นที่ภายในบ้าน
  • Space คำที่สอง หมายถึง พื้นที่แบบ Semi-Outdoor
  • Space คำสุดท้าย หมายถึง พื้นที่ Outdoor หรือพื้นที่ภายนอกบ้าน


จึงทำให้แบบบ้านของโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) มีความพิเศษเพราะได้ทั้งพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้านที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ภายนอกบ้านได้แบบไร้รอยต่อ ทำให้การใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่หลายคนต้องการพื้นที่ภายในบ้านสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ที่มากกว่าการอยู่อาศัย เช่น การทำงานแบบ Work From Home ได้ใช้ชีวิตที่เป็นสัดส่วนและบริหารพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัวมากขึ้น


สำหรับคอนเซปต์ของโครงการจะเน้นความอบอุ่นและอบอวลด้วยความโรแมนติกในสไตล์ AUTUMN IN PARIS ผ่านการใช้สีแบบฤดูใบไม้ร่วงที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองปารีสตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าที่ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยความกว้างถึง 61 เมตร ดูโอ่อ่า แต่ก็ดูเข้าถึงง่ายด้วยโทนสีน้ำตาล และดีไซน์ที่คล้ายระแนงไม้ที่เข้ากับบรรยากาศโดยรอบโครงการ


พร้อมด้วยระบบ Main Gate เข้า-ออกด้วย Easy Pass และติดตั้งกล้อง CCTV รอบ โครงการตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้ลูกบ้านรู้สึกปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้น


เข้ามาภายในโครงการ จุดที่โดดเด่นที่สุดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้อย่างครบครัน สามารถเข้าใช้งานได้จากทุกโซนของโครงการรองรับการทำกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ประกอบด้วย Clubhouse ที่ได้รับแรงบันดาลใจในด้านการดีไซน์มาจาก Eiffel Tower ในปารีส โดยออกแบบให้สามารถใช้งาน และ Take view ได้ถึงสามด้านด้วยกัน


เพิ่มบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยดีไซน์ facade ที่เป็นระแนงไม้ดูกลมกลืนกับพื้นที่สีเขียวโดยรอบ และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาให้สอดรับกับดีไซน์ของตัวอาคาร Clubhouse ได้เป็นอย่างดี

ส่วนภายในอาคาร Clubhouse จะมีพื้นที่ต้อนรับ ซึ่งเป็น Sale Gallery ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่งและรับแสงธรรมชาติจากกระจกขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ผู้ใช้งานพื้นที่ส่วนนี้มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน


ส่วนภายในอาคาร Clubhouse จะมีพื้นที่ต้อนรับ ซึ่งเป็น Sale Gallery ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่งและรับแสงธรรมชาติจากกระจกขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ผู้ใช้งานพื้นที่ส่วนนี้มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน


ส่วนด้านบนชั้น 2 ของ Clubhouse จะแบ่งเป็น Co-Working Space ที่จัดสรรปันส่วนมาเป็นอย่างดี โดยแบ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนด้านนอก จัดเป็นโซนแยกออกจากกันเป็นจุดๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน


ส่วนเด็ก ๆ เองก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นโซน Kid Room ที่ผู้ปกครองสามารถพาเด็กๆ มาเล่นสนุกได้ในช่วงเวลาว่าง


นอกจากนี้ ยังมีห้องฟิตเนสที่ออกแบบมาให้ปลอดโปร่ง กว้างขวาง พร้อมเสิร์ฟวิว Panoramic Screen ของสวนสีเขียว ให้ลูกบ้านได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพตลอดการออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ที่ทางโครงการจัดมาให้แบบครบครัน


มาถึงอีกหนึ่งไฮไลต์ของโครงการกับสวนสีเขียวที่ออกแบบมาให้เข้ากับคอนเซปต์ Autumn in Paris ด้วยสีสันแบบฤดูใบไม้ร่วงที่มีทั้งสีเขียวของพืชพรรณ สีน้ำตาล และสีแดงที่สื่อถึงฤดู Autumn และยังมีการใส่ดีไซน์ของลายผ้าเฉพาะลงไปในวงเวียน รวมถึงมีการใส่สัญลักษณ์ของแบรนด์อันหรูหราลงไปบนพื้นที่นั่งต่าง ๆ 


ด้านการออกแบบเครื่องเล่นภายในสวนก็ยังได้แรงบันดาลใจมาจากผลวอลนัทที่สื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ทุก พื้นที่ดูมีสีสันและอบอุ่นไปในตัว


รายละเอียดของโซนต่างๆ ภายในสวนส่วนกลาง

  • Feature Pavement
  • Bicycle Parking
  • Skate Park
  • Flower field sitting area
  • Playground
  • Kids & Parent sitting area
  • Lawn
  • Workout Station
  • Relaxing area




House Tour โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109

สำหรับแบบบ้านของบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) จะมีทั้งหมด 3 แบบ คือ CALM, SHADE และ CAPTIVATE โดยใช้หลักการออกแบบ LANAI ที่ประกอบด้วย ...

  • ออกแบบตัวบ้านให้มี Terrace หน้าบ้านหรือเฉลียงหน้าบ้านให้ใช้งานเพิ่มเติมได้
  • ออกแบบให้มี Private Balcony ในห้องนอน เพื่อพื้นที่ Outdoor ส่วนตัวจากระเบียงขนาดใหญ่ในห้องนอน
  • ออกแบบ Dynamic Facade แผงกันแดดที่สามารถปรับองศาหรือเปิด-ปิดเพื่อรับแสงและลมได้ตามต้องการ

House Tour แบบบ้าน Captivate


สำหรับแบบบ้าน CAPTIVATE จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 365 ตร.ม. ฟังก์ชันตัวบ้านประกอบด้วย … 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องพระ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน และ3 ที่จอดรถ


การออกแบบบ้านในสไตล์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 จะเน้นไปที่การดีไซน์ให้ทุกอณูภายในตัวบ้านสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวได้ลงตัวที่สุด โดยออกแบบมาให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่กิจกรรมที่สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ พร้อมทำระดับเพดานให้สูงถึง 2.8 เมตร จึงทำให้ตัวบ้านรู้สึกโปร่งมากขึ้น แถมการจัดวางฟังก์ชันของโซนต่างๆ ภายในบ้านยังสามารถปรับเปลี่ยนตามต้องการได้หลากหลาย เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง


ส่วนชั้นบนนั้นจะออกแบบมาให้มีระดับฝ้าเพดานสูงเป็นพิเศษถึง 3.4 เมตร ทำให้ดูโอ่อ่าและเหมาะกับการพักผ่อน พร้อมทั้งเสริมความร่มรื่นให้มีมากขึ้นได้ด้วยการออกแบบพื้นที่ Semi Outdoor ให้สามารถออกไปนั่งเล่นดูวิวข้างนอกบริเวณระเบียงยาวจากห้องนอนได้ ส่วนโซนห้องนอนต่างๆ ก็แยกออกจากกันเป็นสัดส่วน พร้อมมีห้องน้ำในตัวให้ทุกห้อง จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงมากยิ่งขึ้น สังเกตได้ว่า แต่ละฟังก์ชันถือว่าออกแบบมาให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย อยู่แล้วไม่อึดอัดเลยสักนิด


บรรยากาศของตัวบ้านนั้นดูแล้วทันสมัยในสไตล์โมเดิร์น แต่ก็ยังดูใกล้ชิดกับความเป็นธรรมชาติจากเส้นสายการดีไซน์ของสีและระแนงไม้กันแดด รวมถึงการออกแบบให้เป็นบ้านที่เปิดรับแสงธรรมชาติจากกระจกบานสูงเต็มผนังจากส่วนต่างๆ ของตัวบ้านได้อย่างเต็มที่แบบไม่ต้องกลัวร้อน เนื่องจากเลือกใช้เป็นกระจกสีเขียวตัดแสงอย่างดี


นอกจากนี้ รอบบ้านยังมีพื้นที่ให้สำหรับทำสวน จะจัดเป็นมุมปลูกต้นไม้น้อยใหญ่หรือจัดเป็นสวนน้ำพุก็ดูสวยงามได้ไม่แพ้กัน


ใต้ตัวบ้านบริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถ โดยจะจอดรถได้ 3 คัน และยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยโดยการทำประตูสำหรับเข้า-ออกเอาไว้ในบริเวณนี้ให้ด้วย ใครที่เป็นสายชอบซื้อของเข้าบ้านก็สามารถจัดการยกของจากรถเข้าสู่ตัวบ้านได้จากทางนี้เลย


เนื่องจากตัวบ้านจะออกแบบมาให้รองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 3 Generations ทั้งพ่อ แม่ ลูก คุณปู่คุณย่า ทำให้มีพื้นที่สำหรับดูแลผู้สูงอายุอยู่หลายจุด อย่างเช่น บริเวณทางเชื่อมจากลานจอดรถสู่ Terrace หรือเฉลียงหน้าบ้านก็ทำออกมาให้เป็นบริเวณทางลาดที่สามารถเข็นรถ Wheel Chair ขึ้นลงได้อย่างสะดวก


ในด้านความปลอดภัยระบบประตูก็จะมีการใช้ Digital Door Lock นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังเสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้านรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นด้วยระบบสัญญาณกันขโมยภายในบ้านด้วย Magnetic System และ Shock Sensor ที่จะแจ้งเตือนผ่านมือถือและศูนย์รักษาความปลอดภัยทั้งในชั้น 1 และชั้น 2 อีกด้วย


Facade ของตัวบ้านก็มีความพิเศษโดยดีไซน์มาให้เป็นแผงกันแดดริมทางเดินที่สามารถปรับองศาได้ อีกทั้งยังช่วยในการพรางสายตาจากคนภายนอกที่มองเข้ามาภายในตัวบ้านได้อีกด้วย ซึ่งตัว Facade นี้จะติดตั้งให้ด้วยกันหลายจุดทั้งบริเวณทางเดินหน้าบ้าน บริเวณข้างบ้านฝั่ง Balcony และยังมีบริเวณชั้น 2 หน้าห้องนอนรอง (จุดนี้มีให้เฉพาะบ้านแบบ CAPTIVATE เท่านั้น)


ขยายอาณาเขตความสุขการใช้ชีวิตจากภายในบ้านให้ออกมาสู่นอกตัวบ้าน ด้วยการออกแบบ Terrace หรือเฉลียงลาไน ให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Semi-Outdoor สามารถปรับใช้เป็นมุมออกกำลังกาย มุมพักผ่อน หรือมุมสังสรรค์ก็ทำได้อย่างลงตัว


สำหรับพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านก็จะทำการปูกระเบื้องลายหินขนาด 80x80 เซนติเมตรให้ จึงทำให้ดูสวยงามแถมยังดูแลได้ง่ายด้วยการยกพื้นที่ส่วนนี้ให้สูงขึ้นมาจากพื้นดินให้เสมอกับพื้นที่ตัวบ้าน ทำให้รู้สึกถึงการเชื่อมต่อที่ราบเรียบแบบ Semi-Outdoor ไม่มีการลดระดับพื้นให้รู้สึกขัดตา


บรรยากาศภายในตัวบ้านก็ดูโปร่งและสว่าง จากการที่รอบบ้านมีช่องแสงขนาดใหญ่หลายจุด เริ่มจากตัวประตูบานเลื่อนที่ติดกับโซนห้องรับแขก ก็ออกแบบมาให้สูงจรดเพดาน แถมด้านข้างก็ยังมีหน้าต่างช่วยเพิ่มความสว่างให้กับตัวบ้านมากขึ้น ทำให้ห้องรับแขกสามารถ Take View ด้านนอกได้อย่างเต็มตา


ในแง่ของกิจกรรมที่ต้องทำหลายอย่างมากขึ้นภายในบ้านจากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบ New Normal พื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านจึงถูกยกความสำคัญขึ้นมา โดยทำให้พื้นที่ต่างๆ แยกออกจากกันแบบเป็นสัดส่วนมากขึ้น เพราะถึงแม้บริเวณห้องรับแขกจะเชื่อมต่อถึงพื้นที่รับประทานอาหาร แต่ก็ยังมี Space ที่เหลือเว้นระยะไว้ให้ ทำให้ห้องรับแขกสามารถใช้เป็นมุมพักผ่อนหรือนั่งทำงานได้ด้วย


สำหรับบริเวณโซนรับประทานอาหารตัวบ้านจริงจะเป็นห้องนอนอีก 1 ห้องแยกส่วนออกมา เพื่อรองรับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกหลายคน แต่สำหรับบ้านตัวอย่างได้ทำการออกแบบฟังก์ชันเพิ่มเติมเพื่อเป็นไอเดีย เผื่อสำหรับใครที่ต้องการเน้นพื้นที่ทำกิจกรรมมากขึ้นก็สามารถทุบห้องส่วนนี้ออกแล้วเปลี่ยนเป็น Dining Area ขนาดใหญ่ได้เลย


บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 ให้ความสำคัญกับการสร้างที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคนในครอบครัว จึงมีพื้นที่ห้องนอนด้านล่างไว้สำหรับทำเป็นห้องของผู้สูงอายุที่ออกแบบฟังก์ชันในห้องให้ตอบโจทย์กับสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี


พื้นที่ห้องนอนบริเวณชั้น 1 นี้จะเชื่อมต่อกับส่วนที่เป็น Terrace หรือเฉลียงหน้าบ้าน สามารถเปิดประตูออกไปรับลมหรือนั่งเล่นได้ แถมพื้นก็ยังออกแบบมาให้เดินออกไปได้สะดวก เหมาะกับการเป็นห้องของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง


เพิ่มฟังก์ชันพิเศษด้วยห้องน้ำในตัวมาพร้อมกับสุขภัณฑ์ครบชุดทั้งอ่างล้างหน้า กระจกบานใหญ่เต็มความยาวของผนัง มีโถสุขภัณฑ์ ฝักบัว พร้อมออกแบบส่วนที่เป็น Universal Design ซึ่งใส่ใจการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ (Elderly Care) เช่น ราวจับด้านข้างโถสุขภัณฑ์


โซนเปียกก็กว้างขวางพอให้สามารถตั้งรถเข็นได้ จึงสะดวกสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยในห้องน้ำที่ค่อนข้างกว้าง 

  • รวมถึงบริเวณของพื้นห้องน้ำก็ออกแบบมาให้พื้นเสมอกับด้านนอก ไม่มีทางต่างระดับ หากต้องใช้ Wheel Chair ก็สามารถเข้า-ออกได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องทำการยกรถเข็นแต่อย่างใด



ครัวที่ได้จะเป็นครัวไทยแบบปิดสามารถประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่ เพราะพื้นที่กว้างขวาง ทางโครงการเดินระบบมาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังเปิดประตูออกไปบริเวณซักล้างด้านนอก ซึ่งจะเชื่อมไปสู่ห้องแม่บ้านได้ด้วย


ห้องแม่บ้านก็อยู่ได้สบายไม่อึดอัด พร้อมมีห้องน้ำในตัวแยกให้ต่างหากด้วย


สำหรับบันไดตัวบ้านก็แข็งแรงด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยบันไดจะอยู่ระหว่างประตูทางเข้าฝั่งที่จอดรถ และห้องเก็บของใต้บันได หากเดินเข้ามาจากที่จอดรถก็สามารถเดินขึ้นชั้นสองได้ในทันที


ขึ้นมาบนพื้นที่ชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ที่เชื่อมพื้นที่ต่างๆ ของบริเวณชั้น 2 เข้าไว้ด้วยกัน สามารถจัดตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่น มุมทำงาน มุมอ่านหนังสือได้


โดยโซนนี้จะมองเห็นโซนห้องนอนที่อยู่บริเวณชั้น 2 ทุกห้อง โดยทางฝั่งขวามือจะเป็น Master bedroom ซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 ส่วนบริเวณที่ติดกับบันไดจะเป็นห้องนอน 2 นอกจากนี้ ยังเห็นบริเวณชั้นลอยที่ทำแยกขึ้นไปให้ด้วย


ชั้นลอยสามารถจัดเป็นโซนโชว์ของสะสม หรือทำเป็นห้องพระประจำบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับคนในครอบครัวได้


ห้องนอน 3

เข้ามาดูห้องนอน 3 กันก่อน ตัวห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน เน้นออกแบบมาให้สามารถใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า และเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในบ้านมากที่สุด ทั้งการจัดวางมุมของเตียงนอนที่จัดวางได้ตั้งแต่เตียงขนาดใหญ่ไปจนถึงเตียงที่มีดีไซน์เฉพาะตัว แถมด้านข้างยังเหลือพื้นที่ทางเดินอีกมาก จึงไม่ต้องกังวลว่า หากแต่งห้องเยอะแล้วจะทำให้รู้สึกอึดอัด


บริเวณปลายเตียงสามารถจัดวางโซฟาตัวเล็ก พร้อมทำชั้น Built-in เพื่อทำเป็นชั้นวางทีวีเพิ่มเติมหรือปล่อยให้พื้นที่โล่งแล้วจัดเป็นตู้โชว์แบบห้องตัวอย่างก็ได้ ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียงยังมีพื้นที่ว่างพอให้จัดวางโต๊ะทำงานขนาดพอเหมาะได้อีกด้วย


แม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่ยังสามารถจัดมุมทำโซนแต่งตัวได้ทั้งวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ขนาดใหญ่ได้พอดี


ใส่ใจความเป็นส่วนตัวด้วยการทำห้องน้ำในตัวให้พร้อมสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ครบชุด


เข้ามาดูห้องนอน 2 ซึ่งเป็นห้องนอนที่อยู่ในตำแหน่งที่ติดกับบริเวณบันไดที่เดินขึ้นไปยังชั้นลอยพอดีกันต่อ


ห้องนอน 2


สุขสบายได้ทุกที่ แม้อยู่ในห้องนอนเล็กของบ้าน เพราะตัวห้องออกแบบมาให้กว้างพอสำหรับจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการได้ครบ ทำให้มีมุมใช้สอยในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องแสงขนาดใหญ่เป็นประตูระเบียงที่สามารถเปิดรับแดด รับลม และยังออกไปสู่โซนระเบียงด้านนอกได้ด้วย


พื้นที่ระเบียงออกแบบมาให้กว้างพอจัดวางชุดเก้าอี้ จึงประยุกต์ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือทำกิจกรรมส่วนตัวได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องของแสงแดดที่จะสาดเข้ามาเพราะสามารถปรับองศาของ Facade ได้ หรือดึงเปิด-ปิดเองได้เต็มที่ตามความสะดวกเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้มีมากขึ้นก็ได้เช่นกัน


นอกจากมุมเตียงและมุมนั่งเล่นแล้วยังมีพื้นที่ให้จัดวางตู้เสื้อผ้า Built-in และโต๊ะเครื่องแป้งให้อยู่ติดกับบริเวณทางเข้าห้องน้ำส่วนตัว


พื้นที่ห้องน้ำจะแยกโซนเปียกและโซนแห้งออกจากกัน พร้อมให้สุขภัณฑ์ต่างๆ ครบชุด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันกับสมาชิกคนอื่นๆ ภายในบ้าน แถมยังสะดวกสบายต่อการแต่งตัวอีกด้วย


Master Bedroom


Master Bedroom ห้องนอนขนาดใหญ่ที่แบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน โดยจัดแบ่งออกได้เป็น 3 ฟังก์ชันหลักที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต คือ มุมเตียงนอน มุมพักผ่อน ที่เชื่อมต่อกับมุม Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว


ถึงแม้ว่าจะมีมุมทำกิจกรรมและมุมนั่งเล่นหลายจุดภายในบ้านอยู่แล้ว แต่ภายในห้องนอนเองก็สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนเล็ก ๆ แบบส่วนตัวเอาไว้บริเวณปลายเตียงเพิ่มเติมได้ พร้อมกับ Take View จากมุมชั้น 2 ของบ้าน ผ่านช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเปิดออกไปจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ที่รองรับกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ต่างๆ อย่างลงตัว


เติมเต็มชีวิตให้มีความสุขมากขึ้นด้วยพื้นที่ Semi-Outdoor อีกหนึ่งจุด จัดเป็น Balcony ส่วนตัวที่มานั่งตากลม ชมธรรมชาติ ระเบียงนั้นกว้างพอให้ทำการตกแต่งด้วยชุดโซฟาแบบ Outdoor นั่งสบาย และยังเหลือพื้นที่ให้จัดมุมต้นไม้ที่ชื่นชอบเอาไว้ ซึ่งช่วยให้สมาชิกภายในบ้านได้ใช้ชีวิตได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นด้วย


ถัดจากโซนพักผ่อนจะเชื่อมต่อกับโซน Walk-in Closet ขนาดใหญ่ที่จัดสรรให้เป็นมุมสนุกสำหรับคนชอบแฟชั่นได้แบบเต็มที่ เพราะสามารถจัดทำเป็นห้องแยกออกไปเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนได้เลย


ติดกับโซน Walk-in Closet จะเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน จัดเต็มด้วยสุขภัณฑ์แบบครบชุด ทั้งอ่างล้างหน้าที่มีเคาน์เตอร์ยาวใช้สำหรับวางของได้ มีโถสุขภัณฑ์ ส่วนจุดที่เป็นโซนเปียกจะแยกออกไปเป็นโซน Hand Shower และ Rain Shower นอกจากนี้ ยังเสริมความพิเศษให้กับการอาบน้ำด้วยอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่จะมีให้เฉพาะห้องขนาด Master Bedroom เท่านั้น



House Tour แบบบ้าน Shade


สำหรับแบบบ้าน SHADE จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ฟังก์ชันตัวบ้านประกอบด้วย 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 2 ที่จอดรถ


ฟังก์ชันภายในบ้านแบบ SHADE จะแบ่งเป็นพื้นที่ชั้นล่างที่ประกอบด้วยห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารได้ มีพื้นที่ให้ทำ Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหาร มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ ถัดไปเป็นห้องครัวแบบปิดและพื้นที่ซักล้าง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ห้องนอนด้านล่าง ห้องน้ำ บริเวณด้านนอกที่เป็นลานจอดรถ และพื้นที่นั่งเล่นด้านนอกสำหรับทุกคนในครอบครัว


  • ส่วนด้านบนจะเป็นโซนพักผ่อน มีพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเป็นโซนนั่งเล่น โดยพื้นที่นี้จะเชื่อมไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้องได้ ซึ่งแต่ละห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัวแยกให้เป็นสัดส่วนอีกด้วย



เริ่มต้นสำรวจบริเวณรอบบ้านแบบ SHADE กันด้วยสวนข้างบ้านที่สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้


โดยจุดที่สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับชมสวนที่เหมาะที่สุดจะเป็น Terrace บริเวณชั้น 1 ที่สามารถจัดฟังก์ชันใช้งานเป็นมุมนั่งรับลม จิบกาแฟเพลินๆ ยามเช้า หรือจะจัดเป็นมุมปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างคนในครอบครัวก็ได้เช่นกัน


จากมุม Terrace สามารถเดินเชื่อมไปยังลานจอดรถด้วยทางลาดที่อำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกภายในบ้านที่ต้องใช้ Wheel Chair ทำให้เข้า-ออกบ้านได้สะดวกสบายมากขึ้น


พื้นที่จอดรถจะเป็นการจอดใต้ตัวบ้าน สามารถจอดรถได้ 2 คัน และยังออกแบบให้มีประตูทางเข้าบริเวณลานจอดรถไว้สำหรับขนของเข้าบ้านได้ง่ายๆ อีกด้วย


สำหรับพื้นที่เข้าบ้านอีกจุดจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน ซึ่งเป็นช่องแสงธรรมชาติที่ทำให้ตัวบ้านดูสว่าง และปลอดโปร่งมากขึ้นด้วยความสูงของฝ้าเพดานภายในตัวบ้าน 2.8 เมตร ด้านฟังก์ชันในตัวบ้านสามารถจัดวางเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมทั้งห้องรับแขกที่เชื่อมต่อสู่พื้นที่ห้องรับประทานอาหารได้เลย


การทำพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันเช่นนี้ทำให้ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างเต็มที่ แถมยังช่วยทำให้บ้านดูโปร่งจากการไร้กำแพงปิดกันพื้นที่โซนต่างๆ ภายในบ้าน


และบริเวณที่ติดอยู่กับโซนรับประทานอาหารยังเหลือพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถกั้นแยกเป็นโซนทำงาน โซนนั่งเล่น หรือจะจัดเป็นโชว์รูมตั้งของสะสมที่ชื่นชอบก็ได้


ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยเป็นพื้นที่เดินขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2, ห้องนอนชั้นล่าง ห้องครัว รวมไปถึงห้องน้ำได้


สำหรับห้องนอนด้านล่างจะจัดเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุหรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้อง Kid Zone สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กก็ได้ เพื่อให้สมาชิกในบ้านมีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้น


โซนครัวจะออกแบบมาให้เป็นครัวไทยที่แยกพื้นที่ออกมา ทำให้สามารถประกอบอาหารหนักได้ อีกทั้งยังมีประตูและหน้าต่างเปิดออกไปเพื่อระบายอากาศได้อย่างสะดวก


ด้านล่างจะมีห้องน้ำรับแขกแยกให้ใช้งานได้อย่างสะดวก รวมถึงเป็นห้องน้ำที่สามารถใช้อาบน้ำได้ เพราะมีแยกเป็นโซนเปียก-แห้งให้อย่างชัดเจน


เมื่อเดินขึ้นมาบนชั้น 2 จะพบกับบริเวณอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นโซน Family Area พื้นที่พักผ่อนที่ให้ทุกคนในบ้านได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น สามารถแต่งเป็นมุมนั่งเล่น มุมอ่านหนังสือให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน ก่อนแยกย้ายเข้าห้องนอนได้อย่างลงตัว


Master Bedroom

ขยายพื้นที่พักผ่อนให้กว้างขึ้นด้วยห้อง Master Bedroom ที่รับแสงจากธรรมชาติอย่างเต็มที่ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่กว้างขวางให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตามต้องการได้อย่างเต็มที่และเป็นสัดส่วนมากขึ้น


ทั้งบริเวณเตียงนอนที่สามารถจัดวางเตียงแบบ King Size ได้พร้อมกับเหลือทางเท้าและพื้นที่ให้จัดวางชั้นวางทีวีได้สบายๆ นอกจากนี้ ทางโครงการก็ได้ดีไซน์สเปซให้มีมุมส่วนตัวที่แยกโซนจากบริเวณเตียงออกไป ทำให้การนอนหลับพักผ่อนทำได้เต็มที่มากขึ้น


โดยโซนที่แยกออกมาจะเป็นโซน Walk-in Closet และโซนนั่งพักผ่อนที่เชื่อมต่อสู่ระเบียงลาไน ในห้องนอนผ่านประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ได้


สำหรับระเบียงลาไนหน้าห้องของห้อง Master Bedroom จะมีขนาดที่กว้างมากพอให้จัดเป็นพื้นที่ส่วนตัวตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เช่น ทำเป็นฟิตเนสส่วนตัว ทำเป็นพื้นที่อ่านหนังสือ จิบกาแฟ หรือจะทำเป็นสวนริมระเบียงก็ดูสดชื่นไปอีกแบบ


ภายในห้อง Master Bedroom มาพร้อมห้องน้ำในตัวโดยจะมีฟังก์ชันและสุขภัณฑ์ครบครัน ตามมาตรฐานโครงการ และเสริมความผ่อนคลายและความเพลิดเพลินให้กับการอาบน้ำด้วยอ่างอาบน้ำที่มีแยกให้เฉพาะห้อง Master Bedroom เท่านั้น


ห้องนอน 2


ถัดมาจะเป็นห้องนอน 2 ที่เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องของสมาชิกภายในบ้าน โดยมีพื้นที่กว้างขวางให้จัดวางฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการเช่นกัน


สำหรับตัวห้องในบ้านตัวอย่างจะเป็นห้องที่เป็นแนวยาว ทำให้มุมหนึ่งจัดเป็นโซนเตียงนอนที่วางติดกับช่องแสงขนาดใหญ่ แต่มีโซนที่สามารถทำ Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งแยกออกไปได้อย่างพอดิบพอดี


นอกจากนี้ พื้นที่ Walk-in Closet ยังเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ห้องน้ำ ซึ่งสะดวกสบายในการเข้าใช้งาน แถมเป็นมุมอับสายตาทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการเข้า-ออกห้องน้ำมากขึ้นอีกด้วย


ห้องนอน 3


ส่วนห้องนอนเล็กจะจัดเป็นห้องนอนสำหรับแขกหรือเป็นห้องนอนสำหรับลูกคนเล็กก็ได้ โดยพื้นที่ภายในห้องก็ยังกว้างขวางพอให้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ได้ครบ ทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้าแบบ Built - in ไปจนถึงโต๊ะข้างหัวเตียงก็ยังสามารถจัดวางเข้าไปได้อย่างลงตัว


และถึงแม้จะเป็นห้องนอนเล็กก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันกับใคร เพราะตัวบ้านออกแบบมาให้มีห้องน้ำส่วนตัวแยกให้เฉพาะเช่นกัน




House Tour แบบบ้าน Calm


สำหรับแบบบ้าน CALM จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชันตัวบ้านประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 2 ที่จอดรถ


แปลนบ้านแบบ CALM ให้พื้นที่กว้างขวาง ปลอดโปร่ง โดยชั้นล่างจะเป็นโซนทำกิจกรรม เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกถึงกันได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านบนจะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่แบ่งสัดส่วนเอาไว้ได้อย่างลงตัว และให้ความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว


มาเริ่มต้นดูกันบริเวณพื้นที่ชั้น 1 รอบๆ ตัวบ้าน โดยพื้นที่จอดรถจะอยู่ใต้ตัวบ้านสามารถจอดรถยนต์ได้ 2 คันแบบสบายๆ และยังสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวบ้านได้ด้วยประตูทางเข้าจากลานจอดรถได้เลย


สำหรับพื้นที่ด้านนอกบ้านสามารถจัดเป็นสวนสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ เนื่องจากจะมี Terrace บริเวณหน้าบ้านมาให้


สำหรับใครที่ครอบครัวมีผู้สูงอายุที่จำเป็นจะต้องใช้รถ Wheel chair ในการเข้า-ออกบริเวณบ้านก็จัดพื้นที่ทางลาดเอาไว้ให้สำหรับใช้เป็นทางขึ้น-ลงรถ Wheel Chair อีกด้วย


เข้าสู่พื้นที่ตัวบ้านจะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งด้วยการออกแบบพื้นที่มาให้สามารถจัดตกแต่งได้ตามใจชอบ ซึ่งพื้นที่บริเวณด้านหน้าประตูบานเลื่อนสามารถจัดเป็นโซนนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารได้เลย


เข้าสู่พื้นที่ตัวบ้านจะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งด้วยการออกแบบพื้นที่มาให้สามารถจัดตกแต่งได้ตามใจชอบ ซึ่งพื้นที่บริเวณด้านหน้าประตูบานเลื่อนสามารถจัดเป็นโซนนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารได้เลย


นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้สามารถจัดวางเป็นตู้โชว์ หรือใครที่อยากจะออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนตัว เช่น ห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงานก็ได้เช่นกัน


จากโซนทำกิจกรรมโดยรวมแล้วจะเป็นโซนทางขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 และโซนห้องครัวที่ทำแยกออกไป เพื่อป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เวลาประกอบอาหาร


สำหรับห้องครัวจะมีการวางระบบต่างๆ ที่จำเป็นมาให้ ซึ่งสามารถทำการตกแต่งและออกแบบครัวเองได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประตูครัวเปิดออกไปยังบริเวณซักล้างด้านนอกได้อีกด้วย


สำหรับบันไดจะอยู่ระหว่างประตูทางเข้าฝั่งลานจอดรถและห้องเก็บของใต้บันได


โถงทางเดินขึ้นบันไดจะให้ความรู้สึกโอ่โถง สูงโปร่ง สามารถจัดตกแต่งเพิ่มเติมได้ และเมื่อมองขึ้นไปยังชั้น 2 จะเชื่อมต่อสู่พื้นที่อเนกประสงค์ของตัวบ้านอีกหนึ่งจุด


เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน จะพบกับพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นโซนนั่งเล่น นั่งดูหนังแบบส่วนตัวของทุกคนในครอบครัว หรือใครจะจัดเป็นมุมทำงานเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้เป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงสว่างธรรมชาติอย่างเพียงพอให้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้สายตาได้ดี


Master Bedroom

เข้ามาดูพื้นที่ของห้อง Master Bedroom กันต่อ จะเห็นว่า มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่รอบๆ เตียงสำหรับวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ รวมถึงบริเวณปลายเตียงยังจัดเป็นชั้นวางของและทีวีแบบฝังผนังได้ นอกจากนี้ ยังเป็นห้องที่มีประตูระเบียงที่สามารถเปิดออกรับวิวด้านนอกได้อีกด้วย


นอกจากจะเปิดออกมารับวิวสวยๆ ได้แล้ว พื้นที่ด้านนอกยังเป็น Private Balcony ที่สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย


กลับเข้าสู่ตัวห้องอีกครั้ง จะเห็นว่านอกจากจะจัดวางพื้นที่เตียงนอนขนาดใหญ่ได้แล้ว ยังสามารถทำเป็นพื้นที่แต่งตัวขนาดใหญ่ได้อีกด้วย


โดยสามารถทำเป็นพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งและ Walk-in Closet ที่ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดคู่สูงจรดเพดานได้ถึง 2 หลัง แถมยังเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังโซนห้องน้ำได้เลย ทำให้สะดวกต่อการทำธุระส่วนตัวและการแต่งตัวเป็นอย่างมาก


สำหรับพื้นที่ห้องน้ำจะให้สุขภัณฑ์มาแบบครบชุดทั้งอ่างล้างหน้า กระจกบานใหญ่ ที่ใส่กระดาษทิชชู โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว โดยแยกเป็นพื้นที่โซนเปียกและแห้งให้ เพื่อความง่ายต่อการทำความสะอาด


ห้องนอน 2

สำหรับห้องนอน 2 จะมีพื้นที่เล็กลงมา แต่ก็ยังสามารถจัดตกแต่งฟังก์ชันต่างๆ ที่ควรมีภายในห้องนอนได้ครบถ้วน ทั้งเตียงนอน และโต๊ะเคาน์เตอร์ด้านข้างที่สามารถทำเป็นพื้นที่แต่งหน้า อ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานก็ได้ตามความชอบ


ส่วนบริเวณปลายเตียงก็ยังเหลือพื้นที่ทำเป็นทางเดินได้ หรือใครที่อยากจะนำโซฟาเล็กๆ มาตั้งไว้นั่งเล่นก็มีพื้นที่เหลือให้พอจัดวางได้เช่นกัน และถ้ามองเลยถัดไปจะเป็นโซนของตู้เสื้อผ้าที่สามารถออกแบบให้จัดวางเป็นตู้สูงจรดเพดานแบบเข้ามุมได้สบาย ๆ


โดยพื้นที่แต่งตัวบริเวณตู้เสื้อผ้าจะเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ห้องน้ำที่อยู่บริเวณปลายเตียงได้เลย เวลาเดินเข้า-ออกจึงสะดวกสบายเป็นอย่างมาก


สำหรับห้องน้ำก็มีสุขภัณฑ์ต่าง ๆ มาให้ครบถ้วนเช่นกัน ทั้งอ่างล้างหน้า กระจก โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว และทำการแยกโซนเปียกและแห้งมาให้ ซึ่งถ้าใครกลัวว่าน้ำจะกระเด็นเลอะโซนแห้งก็สามารถทำพาร์ทิชันกั้นโซนแยกออกไปให้ชัดเจนเพิ่มเติมได้เลย


ห้องนอน 3 หรือห้องทำงาน

เข้าสู่ส่วนสุดท้ายที่มีขนาดเล็กที่สุดบนชั้น 2 ทำให้สามารถประยุกต์ใช้เป็นห้องนอนสำหรับลูกน้อย หรือจัดตกแต่งเป็นห้องทำงานแยกต่างหากก็ได้


แถมภายในห้องก็มีห้องน้ำส่วนตัวแยกให้ ทำให้ใช้งานได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องออกจากห้องไปใช้งานร่วมกันกับห้องอื่นๆ ทุกพื้นที่ภายในบ้านจึงมีความเป็นส่วนตัวสูงตามแนวคิดการออกแบบที่ต้องการยกระดับความเป็นส่วนตัวให้กับชีวิตคนยุคใหม่ที่ต้องการบ้านหลากหลายฟังก์ชัน ทำให้สามารถทำงาน ทำกิจกรรม และอยู่อาศัยร่วมกันได้ในพื้นที่เดียวอย่างแท้จริง



Location บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109)


โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในย่านรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูเพียง 2.4 กิโล โดยเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักของย่านรามอินทราได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น …


  • ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ห่างจากโครงการไป 3.3 กิโลเมตร
  • ถนนเกษตรนวมินทร์ ห่างจากโครงการไป 13 กิโลเมตร
  • ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ห่างจากโครงการไป 14 กิโลเมตร


ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถผ่านถนนรามอินทราที่สามารถใช้เดินทางเข้าไปในเมืองได้ ส่วนขาออกเมืองสามารถใช้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกขึ้นเหนือไปทางบางปะอิน รังสิต ลำลูกกา หรือลงไปทางอ่อนนุช และบางนา-ตราดก็ได้เช่นกัน


นอกจากนี้ รามอินทรายังเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ สถานีบางชัน ห่างจากโครงการไปประมาณ 2.4 กิโลเมตร ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก โดยสามารถเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าไปยังสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตได้ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุได้อีกด้วย


สถานที่ใกล้เคียงโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109


ที่ตั้งโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 : Google Map

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการก็มีให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น…

ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

  • แฟชั่นไอส์แลนด์ ห่างจากโครงการไป 6.1 กิโลเมตร
  • เดอะพรอมานาด ห่างจากโครงการไป 6.1 กิโลเมตร
  • อมอรินี่ห่างจากโครงการไป 5.9 กิโลเมตร
  • แจส กรีน วิลเลจ ห่างจากโครงการไป 6.5 กิโลเมตร


สถานศึกษา

  • โรงเรียนอนุบาลร่วมฤดี
  • โรงเรียนสาธิตพัฒนา
  • โรงเรียนเลิศหล้า 


สถานพยาบาล

  • โรงพยาบาลเสรีรักษ์
  • โรงพยาบาลนวมินทร์ 9
  • โรงพยาบาลอินทรารักษ์


โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109)


ราคาเริ่มต้น 10 - 23 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ* https://m.scasset.com/Azfc

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ