รูปหน้าปก  ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สัมผัสความสงบ ในทำเลใหม่ย่านบางแค

[Review] ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สัมผัสความสงบ ในทำเลใหม่ย่านบางแค

ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

Review info

Prime Location ใหม่ของฝั่งธนบุรี

ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) จาก บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท คอนโด High Rise บน Prime Location ใหม่ของฝั่งธนบุรี เชื่อมต่อรถไฟฟ้าจาก MRT ใหม่สายสีน้ำเงินสถานีหลักสอง ถึง BTS สายสีเขียวสถานีบางหว้า เดินทางด้วยรถยนต์ง่ายเพราะอยู่ใกล้กับถนนเส้นหลักหลายสาย พร้อมทั้งรายล้อมด้วยแหล่งชอป ชิม ชิล ทั้งแบบทันสมัยไปจนถึงตลาดแบบดั้งเดิม…เหมาะสำหรับคนรักความสงบ หลงใหลความเรียบง่าย และอยากได้คอนโดราคาเบาๆ ในย่านบางแค


ข้อมูลโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

ราคาเมื่อวันที่ 4/10/2017

Studio พื้นที่ใช้สอย 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท

1 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท

1 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท


ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

ชื่อโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

ที่ตั้งโครงการ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160

ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท

Insight

เจาะลึกโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

คอนโดเน้นบรรยากาศสงบ พบความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ห่างไกลความสะดวกสบายที่รายล้อมอยู่โดยรอบ

แผนที่จากโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160 โครงการตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนเพชรเกษมและถนนพุทธมณฑลสาย 2 ทำให้เชื่อมต่อถึงถนนหลักในย่านฝั่งธนบุรีได้หลากหลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานพยาบาล และสถานศึกษาอีกมากมาย เรียกว่า สะดวกสายทั้งด้านการเดินทาง และการใช้ชีวิตเลยทีเดียว

โครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) คอนโด High rise สูง 24 ชั้น บนพื้นที่ 5-2-80.6 ไร่ มีจำนวน 1 อาคาร จำนวน 815 ยูนิต โดยแบ่งออกเป็นจำนวนห้องพัก 811 ยูนิต และร้านค้าอีก 4 ยูนิต จาก ค่าย พฤกษา เรียลเอสเตท หนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ที่เราคุ้นชื่อกันดีในเรื่องของที่อยู่อาศัย

Fuse Sense บางแค เป็นคอนโดใหม่บนทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีพุทธมณฑลสาย 2) กับแนวคิดการออกแบบแบบ Modern SENSE’ Style ที่จะเปิดมุมมองใหม่ที่กว้างกว่าทุกโสตสัมผัสกับรูปแบบโครงการ Sense Of Living ที่เปิดกว้างรับประสบการณ์ใหม่ของการใช้ชีวิต


ทิศที่ตั้งของอาคาร

พื้นที่ของอาคารหันยูนิตไปในแนวเหนือ-ใต้เป็นส่วนใหญ่ ในทางทิศตะวันตกจะติดกับถนนใหญ่ ด้านหลังโครงการทางทิศตะวันออกจะติดกับพื้นที่อาศัยแนวราบ ส่วนในทางทิศเหนือจะอยู่ติดกับอาคาร  CAT TELECOM ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนกังวลว่า จะอันตรายหรือเปล่า เพราะอยู่ใกล้กับเสาสัญญาณโทรศัพท์เหลือเกิน แต่ทางโครงการแจ้งแล้วว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ สบายใจหายห่วงได้เลย ในทางทิศใต้จะเป็นที่ตั้งของโครงการ พลัมคอนโด บางแค สูงประมาณ 8 ชั้นถ้าเป็นห้องในชั้นล่างๆ จะโดนบล็อกวิวบางส่วน แนะนำให้เลือกซื้อห้องชั้นสูงๆ ที่พ้นจากระยะการมองเห็นอาคารข้างเคียง


 ผังอาคารของ โครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)


ผังอาคารในชั้น Ground floor แสดงพื้นที่ชั้นล่างของโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว เคียงข้างไปกับถนนเดินรถภายในโครงการ ด้านหน้าโครงการติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 2 แต่ร่นระยะอาคารเข้ามาเล็กน้อย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น ด้านหน้าอาคารจะมียูนิตร้านค้า 4 ยูนิต เข้ามาด้านในอีกหน่อยจะเจอกับทางเข้าล็อบบี้ มี Mail box และโถงลิฟต์แบบล็อกชั้นเปิดให้บริการอยู่ 2 ตัว อีก 1 ตัวจะเป็นลิฟต์ขนของ ส่วนลานจอดรถจะมีทั้งจอดภายในอาคาร (ชัั้น1-2) และรอบอาคาร 

ในชั้น 3 จะเป็นจุดรวมของพื้นที่ส่วนกลางหลักอย่างสวนลอยฟ้า ห้องอเนกประสงค์ และสระว่ายน้ำ รวมถึงมีห้องพักปรากฏให้เห็น แต่ไม่ต้องกังวลว่า ผู้อยู่อาศัยในชั้นนี้จะต้องเผชิญหน้ากับความพลุกพล่านจากการใช้ส่วนกลาง เพราะทางโครงการทำประตูกระจกกั้นแยกส่วนของห้องพักและส่วนกลางไว้ให้เรียบร้อย 

ชั้น 4 จะเป็นพื้นที่ของห้องพักเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้บริการอยู่ด้วย นั่นก็คือห้องฟิตเนส ซึ่งสามารถเดินขึ้น-ลงบันได เชื่อมไปยังพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 3 แทนการใช้ลิฟต์ได้

ในชั้น 5 เป็นต้นไป ทั้งหมดจะเป็นส่วนของที่พักอาศัย เฉลี่ยจำนวนยูนิตสูงสุดในแต่ละชั้นจะอยู่ที่ประมาณ 37 ยูนิต/ชั้น จัดวางบันไดหนีไฟไว้ให้ในตำแหน่งที่เหมาะสมคือ ท้ายอาคารทั้งสองฝั่ง และช่วงกลางอาคารอีกหนึ่งจุด ส่วนลิฟต์จะตั้งอยู่บริเวณกลางอาคารพอดีไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันมากในเรื่องของการเดินมาใช้บริการลิฟต์ของอาคาร

ด้านวิว ห้องทางฝั่งทิศใต้บางส่วนจะได้วิวสระ ส่วนทางทิศเหนือจะได้วิวสวนในส่วนครึ่งหลังของอาคาร วิวในชั้นสูงๆ จะเป็นวิวเมืองของย่านบางแค แต่ในทางทิศใต้ชั้นล่างๆ จะโดนบล็อกวิวมุมกว้างจากพลัมคอนโด แต่ก็มีข้อดีคือ ช่วยบังแดดซึ่งกันและกันได้ 

การออกแบบตัวอาคารมีรูปทรงเป็นตัว S แบ่งออกเป็นปีกฝั่งทิศตะวันตก (ติดถนนหน้าโครงการ) และปีกฝั่งทิศตะวันออก ห้องส่วนใหญ่จะวางตัวหันหน้าไปในทางทิศเหนือและใต้ ทำให้ไม่โดนแดดโดยตรง แต่จะมีห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก และทิศตะวันออกที่จะโดนแดดมากกว่าห้องอื่น 


แบบจำลองอาคารโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) คอนโด High rise สูง 24 ชั้น 1 อาคาร รูปแบบอาคารออกแบบมาคล้ายรูปตัว S หรือ Z ตามรูปแบบของที่ดิน ส่วนโทนสีการตกแต่งเน้นโทนสีเทา แซมด้วยสีน้ำตาลเป็นหลัก

ทางเข้าของอาคารจะอยู่ติดกับถนนพุทธมณฑลสาย 2 โครงการอยู่ใกล้กับจุดตัดระหว่างถนนเพชรเกษมและพุทธมณฑลสาย 2 ทำให้เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ด้านทางเดินรถเป็นแบบวนรอบอาคาร เพื่อความสะดวกในการใช้พื้นที่ถนนในโครงการ

ส่วนกลางทางฝั่งทิศเหนือจะเป็นสวนลอยฟ้า

ใต้ส่วนกลางชั้น 3 จะเป็นลานจอดรถของอาคาร มีจำนวนทั้งหมด 306 คัน ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน จะคิดเป็น 37.55%  และแบบรวมการจอดซ้อนคันจะคิดเป็น 45%

ในฝั่งทิศใต้พื้นที่ส่วนกลางในชั้น 3 จะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของทางโครงการ 

ชมพื้นที่จริงของโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

Modern SENSE’ Style เปิดมุมมองใหม่ให้กว้างกว่า ทุกโสตสัมผัส

โครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) เป็นโครงการ High rise ออกแบบพื้นที่เกือบ 6 ไร่ให้มีความเป็นส่วนตัว ดูเงียบสงบ และครบเครื่องด้วยพื้นที่ส่วนกลาง ในส่วนด้านล่างหน้าทางเข้า จะเชื่อมกับถนนพุทธมณฑลสาย 2 เดินรถเข้ามาด้านในจะเจอกับซุ้มป้อมยามที่คอยตรวจตราเรื่องความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนบริเวณโครงการเป็นจุดตัดของถนนพุทธมณฑลสาย 2 กับถนนเพชรเกษม รอบๆ โครงการยังเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบโดยเฉพาะอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ โดยใต้อาคารมักจะเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหารเล็กๆ รวมถึงร้านสะดวกซื้อก็มีให้บริการ

อาคารข้างเคียงทางฝั่งทิศใต้ (ฝั่งขวามือของภาพ) จะเป็นโครงการ พลัม คอนโด บางแค จากเครือพฤกษาเช่นเดียวกัน ในชั้นล่างๆ อาจจะโดนบล็อกวิวไปบ้าง ถ้าใครอยากได้ห้องวิวสวยก็แนะนำให้เลือกซื้อในชั้นบนๆ เข้าไว้จะดีกว่า

เติมเต็มการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้นด้วยยูนิตร้านค้าด้านหน้าที่เปิดให้บริการเป็นสำนักงานขาย ร้านซักรีด รวมถึงร้านสะดวกซื้อกึ่งร้านนั่งเล่นเล็กๆ ใครที่ไม่อยากออกไปไหนก็แวะลงมาทานขนม หรือซื้อของได้

สูดอากาศบริสุทธิ์กับพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีของโครงการในย่านชานเมือง เพราะมีเนื้อที่มากพอสำหรับการสร้างพื้นที่สีเขียว ชวนให้ลงมาเดินเล่นและออกกำลังกายยามว่าง โดย ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ก็จัดเต็มกับส่วนนี้ด้วยการมอบพื้นที่กว่า 2 ไร่ ให้กับสวนหย่อม และวางเครื่องออกกำลังกายแบบเอาท์ดอร์ไว้ให้สำหรับลูกบ้านตาามจุดต่างๆ ด้วย

พื้นที่ลานจอดรถจะมีให้ตั้งแต่ชั้น 1-2 แยกส่วนการจอดรถจักรยานยนต์และรถยนต์ออกจากกันเป็นสัดส่วน โดยสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 306 คันคิดเป็น 37.55% แบบไม่รวมการจอดซ้อนคัน แต่ถ้ารวมการแบบจอดซ้อนคัน จะคิดเป็น 45% นอกจากนี้ด้านหลังยังมีลานจอดรถกลางแจ้งสำรองให้ในกรณีที่ลานจอดรถในร่มเต็มหรือในกรณีที่อยากจะจอดแค่ชั่วคราว  

สำหรับการเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Key card เพื่อความปลอดภัย แม้กระทั่งประตูทางเข้าล็อบบี้เองก็ต้องแสกน Key card ในการเข้า-ออกเช่นเดียวกัน

บรรยากาศภาายในล็อบบี้ ออกแบบและตกแต่งผนังด้วยไม้ กระจกบานใหญ่ และชุดโซฟาสีฟ้าสดใส นอกจากนี้ยังเพิ่มความหรูหราด้วยโคมระย้า ดูแล้วโอ่โถงสวยงามดี

ติดกับล็อบบี้จะเป็น Mail box แยกจดหมายและพัสดุให้ตามหมายเลขห้องพัก

นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำส่วนกลางให้ใช้บริการที่บริเวณล็อบบี้นี้ด้วย

ด้านโถงลิฟต์จะอยู่สุดทางเดินมีให้ใช้ 2 ตัว เป็นแบบล็อกชั้น และมีลิฟต์ขนของให้อีก 1 ตัว  

บนชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางโครงการออกแบบวางผังแยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากโซนห้องพัก เพื่อลดเสียงจอแจ และเพิ่มความเป็นส่วนตัว จุดแรกที่จะพาไปชมคือ อเนกประสงค์ ซึ่งจะเปิดให้บริการช่วงเวลา 6.00-22.00 น. โดยพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 3 นี้จะสามารถใช้ Wi-fi ได้ฟรี จะมานั่งพักผ่อน หรือทำงานในช่วงวันหยุดก็ได้

ส่วนกลางในทางทิศเหนือจะเป็นส่วนของสวนลอยฟ้า พื้นปูด้วยหญ้าเทียม นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้นั่งเล่นวางไว้รองรับเป็นระยะ เปิดให้บริการตั้งเวลา 6.00-21.00 น.

ขนาดของสวนอยู่ที่ 15×50 เมตร มีลักษณะยาวขนานไปกับตัวอาคาร ยูนิตที่หันหน้ามาทาฝั่งทิศเหนือบางส่วน เมื่อมองลงมาด้านล่างจึงจะได้วิวของสวน และเปิดรับกับแสงอาทิตย์ในยามเช้าได้อีกด้วย

เดินมาทางฝั่งทิศใต้จะเป็นทิศของสระว่ายน้ำ ซึ่งพิเศษตรงที่เป็นสระขนาดเท่า Olympls size ที่มีความยาวถึง 50 เมตร มีระบบ Pool Bubbles Feature เพิ่มลูกเล่นใต้น้ำ ให้แหวกว่ายได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังเป็นสระแบบ Infinity Edge Pool ไร้ขอบสระ เพื่อความกลมกลืนกับบธรรมชาติโดยรอบ

โครงการได้จัดการแยกระเด็กและสระผู้ใหญ่ออกจากกัน เพื่อความลอดภัย โดยสระจะเปิดให้บริการในช่วง 6.00-22.00 น.

ในชั้น 3 มีห้องน้ำส่วนกลางเปิดให้บริการแยก ชาย-หญิง

ด้านในสามารถเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างตัว แต่งตัวได้ พร้อมกับมีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ ซึ่งสามารถขอกุญแจได้จากพนักงานนิติบุคคล

ขึ้นมาบนชั้น 4 จะเป็นห้องออกกำลังกาย เปิดให้บริการเวลา 6.00-23.00 น.

บรรยากาศภายในห้องออกกำลังกายมีเครื่องเล่นให้ครบครันถึง 14 เครื่อง พร้อมทั้งเปิดวิวด้วยบานกระจกสูง เผยให้เห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ในชั้น 3

บรรยากาศของโถงทางเดินในอาคาร สว่างด้วยช่องแสงท้ายอาคาร ทำให้โถงทางเดินไม่ทึบจนเกินไป ส่วนจุดที่ตั้งของบันไดหนีไฟมีให้ถึง 3 จุด ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก

นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันอัคคีภัย และสายดับเพลิงติดตั้งไว้ให้ใช้ยามฉุกเฉิน


สำหรับห้องตัวอย่างที่ทาง ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) จัดเตรียมไว้ให้ชมกันจะมีทั้งหมด 3 Type ได้แก่ Studio พื้นที่ใช้สอยขนาด 26 ตารางเมตร, 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยขนาด 30 ตารางเมตร และ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอยขนาด 45 ตารางเมตร


Studio 26 SQ.M


Studio พื้นที่ใช้สอย 26 ตร.ม.

ห้องแบบ Studio ขนาด 26 ตารางเมตรของ  ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ขายแบบ Fully Furnished ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว จาก Index พร้อมชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ ส่วนสุขภัณฑ์ห้องน้ำจะเป็นแบบมาตรฐานของคอนโดทั่วไปจาก American standard 

ด้านเลย์เอาท์ของห้อง จะเน้นฟังก์ชันการใช้งานที่เชื่อมต่อถึงกันทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น แต่ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถกั้นพาร์ทิชันแยกส่วนห้องนอนออกไปก็ได้ ด้านครัวจะได้มาเป็นระบบเปิด อยู่ติดกับระเบียงซักล้าง และห้องน้ำ ตรงนี้อาจจะช่วยระบายกลิ่นและควันจากการทำอาหารได้บ้าง แต่ก็มีโอกาสที่กลิ่นจะฟุ้งกระจายลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องอยู่ แนะนำให้ติดเครื่องดูดควันเพิ่ม หรือเลี่ยงการทำอาหารประเภทผัดหรือทอดภายในห้อง


เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก ระยะห่างของโซฟาไปจนถึงชั้นวางทีวีจะอยู่ที่ 1.5 เมตร ขนาดทีวีที่เหมาะสมจะเป็น 40 นิ้ว ส่วนของประตูที่เห็นจะเป็นประตูไม้ HFD บานลูกฟัก ทาสีขาว ติดตาแมวมาให้เรียบร้อย  

มือจับประตูโครเมียมแบบก้านโยก พร้อมตัวล็อกแบบ 2 ชั้น

ด้านหลังประตูทุกห้องจะติดตั้ง Door stopper กันประตูกระแทกเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ หรือผนังให้เรียบร้อย

พื้นห้องจะเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อน

สวิตซ์ไฟและปลั๊กไฟจะเป็นสีขาวของ bticino

โคมไฟภายในห้องจะเป็นโคมซาลาเปา สี Warm white ติดตั้งตัวป้องกันอัคคีภัยอย่างสปริงเกอร์ และตัวตรวจจับควันไฟมาให้ด้วย

สำหรับเครื่องปรับอากาศภายในห้องจะเป็นยี่ห้อ Daikin ขนาด 9000 BTU มีให้ 1 เครื่อง

โซฟาที่ได้จะเป็นแบบ 2 ที่นั่ง แต่สำหรับคนตัวใหญ่อาจจะนั่งได้ลำบาก แนะนำให้ลองเปลี่ยนเป็นโซฟาแบบ Day bed จะนั่งได้สบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ Coffee table ตัวเล็กๆ น่ารักมาด้วยอีก 1 ตัว

ตรงข้ามกับโซฟาจะเป็ชั้นวางทีวี และชั้น Built-in กว้าง 1 เมตร

ภาพเฟอร์นิเจอร์จากห้องจริง

ระยะห่างระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน กว้างพอให้ติดตั้งพาร์ทิชันกระจกเพิ่มได้ หรืออาจจะใช้พื้นที่นี้เป็นมุมทำงานเล็กๆ เหมือนในห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกัน

ภาพเฟอร์นิเจอร์จากห้องจริง

เตียงที่ได้จะเป็นเตียง Queen Size ขนาด 5 ฟุต นอนสองคนแล้วใกล้ชิดกันดี เตียงจะวางไว้ใกล้กับหน้าต่าง สำหรับใครที่อยากให้ห้องนอนมืดสลัว เหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้น แนะนำให้ติดผ้าม่านสองชั้นเพิ่ม เวลาเช้าก็เปิดออกรับแสงแดด ช่วยในเรื่องประหยัดไฟ ส่วนเวลากลางคืนก็ปิดม่านไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว และสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับการนอนหลับ 

ภาพเฟอร์นิเจอร์จากห้องจริง

ด้านข้างเตียงทางโครงการจะให้โต๊ะสำหรับวางของเพิ่มอีก 1 ตัว 

ปลายเตียงเหลือทางเดินให้เดินผ่านได้ สุดผนังจะเป็นที่ตั้งของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in

อีกฝั่งของเตียงจะอยู่ห่างจากหน้าต่างมาประมาณ 50 ซม. บริเวณหัวเตียงในห้องจริงจะเป็นผนังโล่งๆ สามารถทำชั้น Built-in เพื่อใช้วางของเพิ่มเติมได้

หน้าต่างห้องกว้างเต็มผนัง เป็นบานฟิกซ์ผสมบานผลัก แต่ขนาดหน้าต่างค่อนข้างเล็กไปสักหน่อย สำหรับใช้เพื่อระบายอากาศ

ด้ามจับของหน้าต่างจะเป็นก้านโยก

ห้องนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ วิวที่ได้จึงเห็นเป็นโครงการ พลัม บางแค แต่ในชั้นสูงๆ จะมองเห็นวิวเมืองเเทน

ตรงข้ามกับห้องนอนจะเป็นห้องครัว แต่น่าเสียดายที่ผนังห้องน้ำทำออกมาแบบปาดมุม ทำให้ติดพาร์ทิชันห้องครัวเพิ่มเติมไม่ได้

สำหรับห้องครัวทางโครงการจัดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built-in มาให้แบ่งออกเป็นชั้นลอย และเคาน์เตอร์ครัวสำหรับประกอบอาหาร

ภาพเฟอร์นิเจอร์จากห้องจริง

ตรงข้ามชุดครัวจะเป็นเก้าอี้รับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง จัดชิดไว้มุมห้อง

ภาพเฟอร์นิเจอร์จากห้องจริง

ชั้นด้านบนเป็นตู้บานเปิดคู่ Built-in มาให้ใช้สำหรับเก็บของใช้ หรือวัตถุดิบต่างๆ

ท็อปของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ด้านล่างมีช่องวางไมโครเวฟ ลิ้นชักเก็บช้อน-ส้อม พร้อมตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน ซึ่งใช้สำหรังานซ่อมบำรุงอ่างด้วย

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดี่ยวของ Franke พร้อมก๊อกน้ำที่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้ เพื่อให้ง่ายต่อการล้างจาน

พื้นที่จัดเตรียมอาหารมีไว้ให้ค่อนข้างกว้าง เพราะไม่ได้แถมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ บริเวณมุมเคาน์เตอร์ทำจุดปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ให้ด้วย

ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวแและประตูระเบียงจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ขนาดตู้เย็นในห้องตัวอย่างจะเป็นขนาด 7.4 คิวบิกฟุต ซึ่งก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่บ้าง ถ้าใครอยากได้ตู้ที่ใหญ่กว่านี้ แนะนำให้วัดพื้นที่ไไปก่อนที่จะเลือกซื้อจะดีกว่า

พื้นที่ระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30x30 ซม. ยกธรณีประตูให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำฝนจากด้านนอกไหลย้อนเข้ามาภายในห้อง 

ด้านนอกระเบียงมีพื้นที่กว้างพอให้วางเครื่องซักผ้าได้ทั้งแบบฝาบนและฝาหน้า มีการติดตั้งระบบท่อระบายน้ำ รวมถึงก๊อกน้ำ และปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย

เหนือเครื่องซักผ้าเป็นคอมเพรสเซอร์แอร์แบบแขวน หันหน้าออกด้านนอกระเบียง

ระเบียงของห้องสูง 1 เมตร ด้านข้างทำกริลบังสายตาไว้ให้

ตรงข้ามประตูระเบียงจะเป็นห้องน้ำ ประตูห้องน้ำเป็น UPVC สีขาว มีบานเกร็ดด้านล่างเพื่อระบายกลิ่น ทางโครงการแยกโซนเปียกกับโซนแห้งมาให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

พื้นห้องน้ำมีการยกธรณีขึ้นมาเล็กน้อย วัสดุทำธรณีเป็นหินเทียม ใช้กันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 60x60 ซม. แยกโซนเปียกและโซนแห้งมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้าอยู่ชิดผนัง ติดตั้งมาแบบแขวนพร้อมกระจกเงา ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็นของ American Standard

ใต้อ่างเป็นตู้บานเปิดคู่ ใช้สำหรับใส่ของและใช้ซ่อนระบบท่อน้ำของอ่าง เพื่อความสวยงาม

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece พร้อมสายฉีดชำระสีขาวและที่ใส่กระดาษทิชชู่

ระบบวาล์วน้ำของสายฉีดชำระและโถสุขภัณฑ์ใช้วาล์วเดียวกัน อาจจะลำบากตอนซ่อมแซมสักหน่อย เพราะถ้าอุปกรณ์ใดพังไป อีกอันก็จะใช้ไม่ได้ไปด้วย

สำหรับโซนเปียกจะไม่ได้ทำการกั้นพาร์ทิชันมาให้ แต่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ ด้านในติดตั้งฝักบัว พร้อมทำระบบสายดินติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว พื้นที่ส่วนอาบน้ำขนาด 80 x 90 ซม. ถือว่า เป็นสัดส่วนที่พอดียืนอาบน้ำได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด

ฝักบัวเป็นแบ hand shower ขนาดพอดีมือ ของ American Standard  

1 BR 30 SQ.M


1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 30 Sq.m.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยขนาด 30 ตารางเมตร ทางโครงการขายแบบ Fully Furnished แถมเฟอร์นิเจอร์จาก Index พร้อมทั้งชุดเคาน์เตอร์ครัว เครื่องปรับอากาศ และชุดสุขภัณฑ์จาก American Standard เพดานยิปซั่มฉาบเรียบสีขาว ไฟซาลาเปา และไฟดาวน์ไลท์ในห้องน้ำ

ด้านการจัดวางฟังก์ชันของห้องดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นอีกนิด ด้วยการกั้นห้องนอนแยก ส่วนพื้นที่ครัวยังคงเป็นครัวแบบเปิด เวลาทำอาหารอาจจะเน้นไปที่การอุ่นอาหารจากไมโครเวฟ แทนการทำอาหารที่มีควันและกลิ่นฉุน เพราะพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นด้านหน้า ควันและกลิ่นอาหารจะลอยมาติดกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องได้ง่าย ส่วนห้องน้ำเข้าใช้งานได้สะดวก เพราะตำแหน่งจะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นและทางเข้าห้องนอน

พื้นของห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้สีอ่อน ทำธรณีประตูจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากโถงทางเดิน ปลิวเข้ามาภายในห้องพัก

ด้ามจับประตูของห้องเป็นมือจับประตูโครเมียมแบบก้านโยก พร้อมตัวล็อกแบบ 2 ชั้น แต่ถ้าใครต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น แนะนำให้ติด Digital door lock ไปเลยจะดีกว่า

เมื่อเข้ามาภายในห้อง ส่วนแรกที่พบจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเชื่อมต่อถึงพื้นที่ครัวด้านข้าง ภายในห้องนั่งเล่นทางโครงการให้โซฟาแบบ 2 ที่นั่ง พร้อม Coffee table มาให้ ด้านการตกแต่งพื้นที่ผนังด้านหลังจะเหลือว่าง อาจจะเพิ่มชั้น Built-in เข้ามา ทำให้มีพื้นที่สำหรับวางของเพิ่มมากขึ้น

ตรงข้ามโซฟาจะเป็นชั้นวางทีวี และชั้น Built-in ของจริงจะเป็นชั้นสีขาว กว้าง 1 เมตร ด้านระยะห่างระหว่างโซฟาไปจนถึงชั้นทีวีอยู่ที่ 1.5 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 40 นิ้วได้สบายๆ ดูแล้วไม่ปวดตา แต่เวลาเปิด-ปิดประตูเข้ามาในห้องอาจจะทำให้คนที่กำลังชมภาพยนตร์เสียอารมณ์เล็กน้อย เพราะประตูบังทีวีไปเกือบมิดเลยทีเดียว

ด้านหลังประตูติด Door Stopper มาให้ ป้องกันประตูกระแทกโดนเฟอร์นิเจอร์ทางด้านหลัง

ด้านข้างโซฟาจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งทางโครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) แถมมาให้

ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ครัว รูปแบบห้องจะทำออกมาให้ลึกกว่าห้องแบบ Studio เคาน์เตอร์ครัวจะจัดวางขนานกับแนวผนัง Built-in มาให้เรียบร้อย ท็อปของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่มีรูพรุน และไม่ซึมน้ำ ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนต อาจจะไม่เหมาะเท่าไรสำหรับการทำเป็นพื้นครัว เพราะบวมน้ำได้ง่าย

เคาน์เตอร์ครัวชื้นล่างเป็นพื้นที่ประกอบอาหาร มีตู้สำหรับงานซ่อมบำรุงของอ่างล้างจาน สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ๆ ได้ ด้านข้างเป็นตู้เก็บภาชนะ ช้อน-ส้อน และมีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟมาให้

ด้านบนเป็นตู้ลอย Built-in แบบบานเปิดเดี่ยว แบ่งเป็นช่องสำหรับเก็บของดูสวยงาม

พื้นที่ประกอบอาหาร แบ่งเป็นอ่างล้างจาน และมีเตาไฟฟ้า พร้อมเครื่องดูดควันของ Franke มาให้

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดี่ยว ไม่มีที่พักจาน เป็นของ Franke ขนาดของหลุมกว้างและลึกพอสมควร เวลาล้างจานก็ไม่ต้องกังวลว่า น้ำจะกระเด็นออกมาเลอะด้านนอกอ่าง

ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็น ขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมประมาณ 7.4 คิวบิกฟุต ส่วนการตั้งตู้เย็นไว้ติดกับระเบียงแบบนี้อาจจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไป แนะนำให้ย้ายไปในมุมที่ไม่โดนความร้อนโดยตรงจะดีกว่า

พื้นที่ครัวเชื่อมต่อถึงระเบียงซักล้าง กั้นด้วยประตูบานสไลด์สองตอน กระจกเป็นกระจกตัดแสงสีเขียว ทำให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไป

เครื่องปรับอากาศที่ได้เป็นของ Daikin ขนาด 9000 BTU มีให้ 2 ตัว

ธรณีประตูระเบียงยกสูงขึ้นมาจากพื้นเพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลย้อนเข้ามาภายในห้อง ส่วนพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่น ขนาด 30x30 ซม.

โครงการจัดทำระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ ด้านหลังติดตั้งก๊อกน้ำ และปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย คอมเพรสเซอร์แอร์จะเป็นแบบแขวน หันหน้าออกจากระเบียง ทำให้ระเบียงไม่ร้อน ส่วนราวระบียงจะสูงประมาณ 1 เมตร เป็นเหล็กทาสีเทา ด้านข้างติดเป็นกริลบังสายตามาให้เรียบร้อย

ห้องตัวอย่างวางอยู่ในทางทิศเหนือ วิวด้านนอกมองออกไปเป็นเสาสัญญาณโทรศัพท์พอดี อาจจะดูเกะกะสายตาเล็กน้อย

ทางโครงการ Fuse Sense บางแค จึงจัดการพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนลอยฟ้าไว้ให้เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งจุด

สำหรับห้องน้ำจะตั้งอยู่ใกล้กับห้องนั่งเล่นและห้องนอน ประตูห้องน้ำเป็นประตู UPVC สีขาว มีบานเกร็ดด้านล่างเพื่อระบายกลิ่น ทางโครงการแยกโซนเปียกกับโซนแห้งมาให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

ห้องน้ำจะยกธรณีขึ้นสูงเพื่อป้องกันน้ำด้านในไหลย้อนออกมา ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ ขนาด 60x60 ซม. ซึ่งเช็ดล้างและทำความสะอาดได้ง่ายกว่ากระเบื้องแผ่นเล็กที่มีร่องยวแนวเยอะ ซึ่งทำให้เกิดคราบสะสม

อ่างล้างหน้าจะเป็นอ่างแบบแขวนผนัง ด้านล่างมีพื้นที่สำหรับวางของเล็กน้อย และมาพร้อมกับกระจกเงา ซึ่งมีชั้นวางของเพิ่มให้อีก 1 จุด

โถสุขภัณฑ์จะวางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า เป็นของ American Standard ติดตั้งสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่มาให้ ส่วนด้านหลังจะเป็น Low wall เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเยอะๆ สามารถใช้วางของเพิ่มเติมได้

ถัดจากโซนแห้งจะเป็นโซนเปียก แต่ทางโครงการไม่ได้กั้นกระจกแยกมาให้ แนะนำให้ติดตั้งกระจกเทมเปอร์เพิ่มเอง เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก จะได้ดูแลทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower ด้านข้างวางระบบติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว สามารถเดินสายติดตั้งได้เลย

ต่อไปจะเป็นส่วนของห้องนอนอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ กั้นแยกออกมาเป็นสัดส่วน พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตเช่นเดียวกัน ตัวห้องจะกั้นด้วยประตูไม้สีขาว ติดลูกบิดแบบมาตรฐาน

ในห้องจริงจะได้เฟอร์นิเจอร์เป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ได้เฉพาะฐานเตียง มีโต๊ะข้างหัวเตียงให้ 1 ตัว ตู้เสื้อผ้า และเครื่องปรับอากาศ ส่วนพื้นที่รอบเตียงก็เหลือกว้างพอให้เดินผ่านได้สบายๆ ไม่อึดอัด

ตู้เสื้อผ้าที่ได้จะเป็นแบบ Built-in จัดชิดไว้มุมห้อง เป็นแบบบานสไลด์ สะดวกสบายสำหรับการใช้งาน แบ่งช่องเก็บของไว้ด้านบน ซึ่งก็อยู่สูงไปหน่อย ส่วนด้านล่างจะเป็นราวแขวนเสื้อผ้า ด้านหน้าตู้เหลือพื้นที่กว้างพอให้เดินไปมาได้สะดวก

อีกฝั่งของเตียงจะจัดชิดกับหน้าต่าง เหลือพื้นที่ให้ดนประมาณ 50 ซม. ซึ่งถ้าใครไม่ชอบนอนใกล้กับหน้าต่างมากนัก ก็สามารถขยับเตียงถอยออกอีกได้

ส่วนปลายเตียง ในห้องจริงจะมาแบบโล่งๆ ยกเว้นเครื่องปรับอากาศที่จะมีมาให้ตามนี้ เราสามารถตกแต่งให้กลายเป็นชั้นหนังสือ Built-in ชั้นวางของ หรือจะติดตั้งทีวีวแบบแขวนผนังก็ได้ เพราะมีการเดินสายไฟไว้ให้เรีบร้อยแล้ว

2 BR 45 SQ.M

2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 45 ตร.ม.

สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตารางเมตร ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง โครงการทำหน้าต่างบานใหญ่ทั้งในห้องนอนและระเบียง ทำให้ห้องดูสว่าง ช่วยในการประหยัดไฟได้ดี

ด้านการจัดเลย์เอาท์ ก็จัดพื้นที่มาได้เป็นสัดส่วน โดยแบ่งการใช้งานออกเป็นส่วนทำกิจกรรม (ตรงกลาง) และส่วนพักผ่อน (พักผ่อน) ครัวของห้องนี้จะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียง ดูแล้วแยกส่วนออกไปชัดเจน แต่ก็ยังเป็นระบบเปิด จึงไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ ส่วนห้องน้ำจะมีให้ในห้องนอนใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กจะใช้ร่วมกันกับห้องน้ำรับแขกที่อยู่ด้านนอก

พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนต แตกต่างจากพื้นโถงทางเดิน ธรณีประตูยกสูงขึ้นจากบริเวณพื้นหน้าห้อง ป้องกันฝุ่นละออกปลิวเข้ามาภายในห้อง

หลังประตูมี Door Stoper ไว้สำหรับรองรับแรงประตู ป้องกันประตูกระแทกเฟอร์นิเจอร์ด้านหลัง หรือกระแทกผนังจนเกิดเสียงดัง

เข้ามาในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่น โซฟาขนาดนั้งได้สองคน อยู่ห่างจากชั้นวางทีวี 2.5 เมตร สามารถชมทีวีขนาด 42 นิ้วได้กำลังดี

ประตูเป็นแบบก้านโยกโครเมียมมาตรฐาน พร้อมตัวล็อกแบบ 2 ชั้น

โซฟาขนาดนั่งสองคนถูกจัดวางไว้ที่บริเวณด้านหน้าติดกับประตูทางเข้า พร้อมกับ Coffee table อีกหนึ่งตัว ส่วนด้านหลังจะเป็นทางเข้าไปยังห้องนอนใหญ่

ด้านตรงข้ามโซฟา จัดให้เป็นชั้นวางทีวี ระยะห่างจากทีวีถึงโซฟา 2.5 เมตร สามารถวางทีขนาด 42 นิ้วได้พอดีไม่ปวดตาเกินไป ชั้นวางทีวีติดกับริมประตู เวลาเปิดประตูบานประตูจะบังทีวีเต็มๆ อาจจะลำบาก เวลานั่งชมทีวี ส่วนบริเวณด้านหลังจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำรับแขก

ห้องน้ำจะถูกยกพื้นธรณีให้สูงขึ้นกว่าพื้นห้องปกติ ป้องการน้ำไหลออก วัสดุธรณีเป็นหินเทียมดูแข็งแรงดี ส่วนด้านในห้องน้ำจะเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 60x60 ซม. กันลื่นได้ดี

กระจกในห้องน้ำจะเป็นบานเดี่ยวมีชั้นวางของเล็กๆ สำหรับเก็บเครื่องใช้ส่วนตัวในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าจะเป็นอ่างแบบแบบแขวนผนัง พร้อมกับมีชั้นเก็บของอยู่ด้านล่างแบบประตูบานเปิดคู่ สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำได้

สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard แบบมาตรฐานมาพร้อมกับสายฉีดชำระ วาวล์ต่อน้ำใช้ท่อเดียวกัน เวลาซ่อมแซมจะลำบากหน่อย เพราะไม่สามารถใช้สุขภัณฑ์ชิ้นใดใช้ได้เลย

มุมอาบน้ำมีการยกธรณีกั้นแยกเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมายังบริเวณโซนแห้ง แต่ทางที่ดีกั้นพาร์ทิชันกระจกไปเลยจะทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower สามารถปรับระดับความสูงได้ ด้านบนมีจุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ออกมาจากห้องน้ำด้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก ซึ่งอยู่ติดกับบริเวณครัว พื้นห้องทั้งหมดปูด้วยลามิเนตสีอ่อนตามภาพ

ห้องนอนเล็ก มีเตียงนอนขนาด 3 ฟุตมาให้ การวางเตียงอยู่ชิดริมผนัง ติดกับหน้าต่าง ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะเล็กๆ ไว้ตกแต่งได้ แต่ทางโครงการจะแถมโต๊ะข้างเตียงตัวเล็กๆ มาให้อยู่แล้วด้วย

ข้างประตูห้องจะมีตู้เสื้อผ้าแบบประตูบานเลื่อนแบบสองบานมาให้ ตั้นบนตู้ มีช่องวางของ สามารถเก็บของจำพวกกระเป๋าได้ แต่มีพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะเก็บกระเป๋าเดินทาง ส่วนด้านล่างสามารถบรรจุเสื้อผ้าเพียงพอสำหรับคนเดียว

บริเวณปลายเตียงเว้นทางเดินไว้นิดหน่อย สำหรับเดินผ่าน

ห้องนอนเล็กไม่มีระเบียง มีหน้าต่างแบบบานผลัก หนึ่งบาน ผสมกับบานฟิกซ์กว้างเต็มผนัง ทำให้ห้องในช่วงกลางวันสว่างมาก แทบไม่ต้องเปิดไฟ

ห้องครัวจะมีเคาน์เตอร์ครัวให้พร้อมกับชั้นลอยด้านบน เครื่องปรับอากาศจะถูกติดตั้งบริเวณในครัว อาจจะส่งผลกลิ่นอาหารฟุ้งกระจายเมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศ แถมการติดเครื่องปรับอากาศไว้เหนือระเบียงแบบนั้นยังทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก เพราะโดนความร้อนจากด้านนอกโดยตรง

โต๊ะรับประทานอาหารจัดวางในครัวอย่างเป็นสัดส่วน นั่งแบบสองที่นั่ง

เคาน์เตอร์ครัวจะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และช่องเก็บของมี ประตูปิดไว้เรียบร้อย

มีเตาไฟฟ้าแบบสองหัวมาให้พร้อมเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Franke

อ่างล้างจานจะเป็นอ่างสเตนเลสแบบหนึ่งหลุมมาตรฐาน ยี่ห้อ Franke

ชั้นลอยด้านบนจะมีชั้นเก็บของแบบมีประตูเปิด-ปิด ด้านในจะมีชั้นเล็กๆ ไว้เก็บของกระจุกกระจิก

ด้านข้างเคาน์เตอร์เว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็น แต่การวางตู้เย็นติดกับระเบียงจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก แนะนำให้ย้ายที่วางไว้ด้านในจะดีกว่า

ประตูระเบียงครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบมาตรฐาน มือจับเป็นแบบเซาะร่องพร้อมตัวล็อก

พื้นธรณีถูกยกขึ้นให้สูงกว่าปกติ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและน้ำฝนที่สาดเข้ามายังในห้อง

ด้านนอกระเบียงจะมีเครื่องซักผ้าพร้อมกับปลั๊กไฟและก๊อกน้ำ ติดตั้งไว้ใต้คอมเพลสเซอร์แอร์ ไว้รองรับสำหรับการซักผ้า

วิวด้านล่างของห้องสองห้องนอนจะเจอสระว่ายน้ำอยู่ด้านล่าง

ทางเข้าห้องนอนใหญ่จะอยู่ติดกับมุมนั่งเล่น และห้องครัว กั้นแยกออกไปเป็นสัดส่วนดี

เข้ามาในห้องนอนใหญ่จะเจอเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ตั้งอยู่ในห้อง ทางโครงการจะให้เฉพาะฐานเตียงไม่รวมฟูก รอบๆ หัวเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะด้านข้างหัวเตียง

บริเวณปลายเตียงนอน สามารถติดทีวีแบบแขวนได้ เพราะทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟและช่องรัับสัญญาณทีวีมาให้แล้ว  

เครื่องปรับอากาศหังหน้าเข้าทางเตียงพอดี ทำให้เวลานอนสามารถรับลมได้อย่างเต็มที่

ห้องนอนใหญ่ไม่มีระเบียงเหมือนกันมีเพียงแค่หน้าต่างที่เป็นบานฟิกซ์ผสมบานเปิด

หัวเตียงในห้องจริงจะเป็นแบบโล่งๆ สามารถทำชั้น Built-in เพิ่มเติมได้

ด้านข้างประตูมีตู้เสื้อผ้าประตูสองบานเหมือนกับห้องนอนเล็ก

ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำส่วนตัวข้างในห้อง โดยจะยกพื้นธรณีให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำไหลออกมายังนอกห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนังเช่นเดียวกับกระจกที่เป็นบานเดี่ยวเหมือนกับห้องน้ำด้านนอก

สุขภัณฑ์และสายฉีดชำระเป็นแบบมาตรฐานและยังใช้วาล์วน้ำท่อเดียวกันเหมือนกับห้องน้ำด้านนอก

ส่วนเปียกไม่ได้กั้นพาร์ทิชันมาให้ แต่สามารถกั้นแยกเอาเองได้ ฝักบัวที่แถมมาให้จะเป็นแบบ Hand shower ของ American standard พร้อมติดตั้งระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย  

Location

การเดินทางไปยัง ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

ด้านการเดินทางไปยัง ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ในปัจจุบันผู้คนมักเลือกการสัญจรด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เนื่องจากตัวโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีบางหว้าค่อนข้างมาก แต่ในอนาคตช่วงปี 2562 จะมีสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเปิดให้บริการ จะทำให้มีทางเลือกสำหรับการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น


การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว

คอนโด ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ใช้ถนนหลักคือ ถนนเพชรเกษม และถนนพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งเชื่อมต่อได้ทั้งจากฝั่งขาเข้าเมือง และฝั่งออกนอกเมือง

ฝั่งขาเข้าเมือง 

- ถนนเพชรเกษม เชื่อมต่อถึงถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาเข้า จะผ่านทั้งรัชดา-ท่าพระ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ตากสิน-บางหว้า) จวบจนถึงสะพานตากสิน มุ่งสู่สาทร-สีลม ซึ่งเป็นบริเวณใจกลางเมือง หรือจะเลือกใช้เส้นทางจากเส้นถนนกาญจนาภิเษกต่อเข้าถึงถนนกัลปพฤกษ์ เพื่อตรงเข้าสู่สาทรก็ได้เช่นเดียวกัน 

- ถนนพุทธมณฑลสาย 2 เชื่อมต่อกับถนนบรมราชชนนี ขับเข้าเมืองมุ่งหน้าผ่านสะพานซังฮี้ไปยังถนนราชวิถี เพื่อเข้าสู่อนุสาวรีย์ และตัดผ่านไปยังถนนเส้นต่างๆ ได้อีกหลากหลายเส้นทาง หรือจะเลือกวิ่งเส้นบรมราชชนนีตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ เพื่อมุ่งสู่ย่านสาทรแทนก็ได้เช่นกัน

ฝั่งขาออกเมือง 

- ถนนเพชรเกษม สามารถใช้วิ่งตรงยาวผ่านไปยังอ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร หรือจะเลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 3 และ 4 เพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม บริเวณมหาวิทยาลัยมหิดดลก็ได้ ส่วนใครที่มีธุระแถวบางใหญ่ก็สามารถใช้เส้นทางจากถนนราชพฤกษ์วิ่งตรงไปถึงถนนรัตนาธิเบศร์ และยังเลยไปถึงจังหวัดสุพรรณบุรีได้อีกด้วย

- ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ใช้ถนนบรมราชชนนีเพื่อมุ่งสู่งจังหวัดนครปฐม หรือตัดเข้าสู่บางใหญ่ได้ในระยะเวลาไม่นาน 


การเดินทางด้วยรถสาธารณะ

เนื่องจากคอนโด ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) อยู่ใกล้กับถนนใหญ่ ทำให้เรียกใช้บริการรถโดยสารได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ รถสองแถวสาย 2-บางแค รถประจำทาง ทั้งสาย 81 ก. และสาย 123 รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ก็มีให้บริการอยู่ไม่ไกลจากคอนโด แต่ในช่วงเวลากลางคืนอาจจะดูเงียบเหงาไปบ้าง สาวๆ ที่ต้องเดินทางกลับคอนโดดึกๆ อาจจะต้องระวังๆ กันไว้บ้าง


การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ในปัจจุบันอาจจะยังอยู่ไกลจากตัวโครงการไปพอสมควร (ระยะทางประมาณ 9 กม.)  แต่เมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค ที่กำลังก่อสร้างมาจนถึงสถานีหลักสอง ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด (ระยะทางประมาณ 1 กม.) โดยรถไฟฟ้าสายนี้จะแล้วเสร็จในปี 2562 รับรองว่า การเดินทางจากโครงการจะเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วแน่นอน แต่ในช่วงนี้ก็คงต้องอดทนเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้ากันที่สถานีบางหว้ากันก่อน ก็อย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางกันไว้ด้วย

Environment

สภาพแวดล้อมโครงการฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

หนึ่งในทำเลเดินทางง่ายและหลากหลายรูปแบบ

‘ฝั่งธนบุรี’ พูดชื่อนี้ฟังดูคุ้นหู แต่อาจจะยังดูแล้วไม่คุ้นเคย เพราะอยู่อีกฝั่งฟากของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในอดีตอาจจะเดินทางไปเยือนฝั่งนี้อาจจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากรูปแบบการเดินทางที่มีจำกัด เพียงแค่รถโดยสารประจำทางและเรือ แต่ในปัจจุบันนี้ความเจริญเริ่มหลั่งไหลเข้ามามาก การปรับรูปแบบการเดินทางส่งผลให้การใช้ชีวิต หรือการท่องเที่ยวในย่านเก่านี้เป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งการโดยสารรถประจำทาง รถสองแถว และรถตู้ รวมถึงการสร้างถนนให้เชื่อมต่อถึงกันมากมายไม่ว่าจะเป็น ถนนเพชรเกษม ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก และถนนบรมราชชนนี ทำให้การเดินทางในย่านนี้สะดวกสบาย ดูแล้วก็ไม่ได้ต่างจากฝั่งพระนครมากนัก

รถไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเดินทางที่ยกระดับเหนือพื้นดินขึ้นมาอยู่บนฟ้า ซึ่งตอนนี้สร้างส่วนต่อขยายจากรถไฟฟ้า BTS บางหว้า มาจนถึงบริเวณห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ บางแค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จกันในปี 2562 ที่จะถึงนี้

ด้านสถานีบางหว้า สถานีสุดท้ายที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้ เป็นสถานีส่วนต่อขยายจากฝั่งตะวันออกของเจ้าพระยาข้ามมาสู่ฝั่งธนบุรี นอกจากจะเป็นสถานี Interchange ของรถไฟฟ้าถึง 2 สายคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียว กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ยังเป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับเส้นทางการเดินทางสายเก่าแก่ที่เคียงคู่กับคนไทยมาช้านาน นั่นก็คือ การเดินทางด้วยเรือโดยสารผ่านคลองภาษีเจริญ

แนะนำคนชอบเที่ยวที่อยากสัมผัสเสน่ห์แบบไทยๆ หรือคนที่อยากเดินทางแบบรวดเร็ว ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดให้เสียเวลา ต้องลองล่องเรือผ่านคลองภาษีเจริญที่มีการปรับรูปแบบให้ทันสมัยมากขึ้นด้วยการเปิดให้มี WiFi ฟรี ติดตั้งกล้อง CCTV รักษาความปลอดภัย และควบคุมด้วยระบบ GPS เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

อุ่นกาย อุ่นใจ เพราะใกล้สถานพยาบาล

บนถนนเพชรเกษมมีสถานพยาบาลอยู่หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น ...

ที่มาภาพจาก http://bangphaihospital.in.th/

โรงพยาบาลบางไผ่: สถานที่ตั้งถนนเพชรเกษม ปากคลองภาษีเจริญ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร, 10160 เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกของฝั่งธนบุรี เปิดให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วย ทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และผู้ป่วยอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีแพทย์เฉพาะทาง และบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขา มีการพัฒนาระบบคุณภาพตามมาตรฐาน HA และ ISO มาอย่างต่อเนื่อง

ที่มาภาพจาก http://www.phyathai.com/

โรงพยาบาลพญาไท : สถานที่ตั้งเลขที่ 111 ถนนเพชรเกษม 19 แขวงภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ 10160 มีบริการห้องพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้เลือกพักได้ตามความต้องการ โดยเริ่มตั้งแต่ห้องพักราคาประหยัดแบบ 2 เตียง ไปจนถึงห้องพักแบบ VIP ซึ่งทางโรงพยาบาลพญาไทได้ออกแบบเพื่อให้ท่านได้รับความสะดวกและความปลอดภัย

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค : สถานที่ตั้งถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160 อยู่ใกล้กับบริเวณจุดตัดของถนนเพชรเกษมกับถนนพุทธมณฑลสาย 2 ทางโรงพยาบาาลก่อตั้งขึ้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้บริการด้านสุขภาพ ครบครันด้วยห้องพักหลากหลายแบบตามความต้องการของคนไข้

นอกจากจะเป็นสถานพยาบาลแล้วทางโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนและรับประทานอาหารที่หลากหลายอีกด้วย

ชอป ชิม ชิล ง่ายๆ เพราะใกล้ห้างสรรพสินค้า  

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนยุคใหม่ก็คือ แหล่งชอปปิงอย่างห้างสรรพสินค้า ซึ่งบริเวณถนนเพชรเกษมก็มีห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์หลายแหล่งเปิดให้บริการอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น เดอะ มอลล์ บางแค หนึ่งในห้างเก่าแก่ของย่านบางแคที่เปิดมานานกว่าหลายสิบปี หรือจะเป็นห้างซีคอนบางแค ที่อดีตเคยเป็นห้างฟิวเจอร์ พาร์ค บางแคมาก่อนจะทำการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้น สำหรับใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่บริเวณสถานีบางหว้าจะมีจุดรับ-ส่งผู้โดยสารด้วยรถตู้สีส้มสดใสของห้างให้ฟรี โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ช่วง 6.00 น. - 20.00 น.

จับจ่ายซื้อของสดกันต่อที่ ตลาดนัดบางแค


แม้กาลเวลาจะผ่านไปหลายปี ความเจริญจะเข้ามาเปลี่ยนหลายๆ พื้นที่ให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้ มอลล์ไปบ้าง แต่บางแคก็ยังคงเสน่ห์ของย่านเก่าไว้ด้วยการคงอยู่ของตลาด แหล่งซื้อขายของสดราคาเบาๆ ของบรรดาแม่บ้านที่ชื่นชอบเข้าครัวเป็นชีวิตจิตใจ สำหรับตลาดสดขึ้นชื่อเลียบถนนเพชรเกษมนี้ จะเป็นตลาดใหญ่ชื่อว่า ตลาดบางแค ที่ในอนาคตจะคึกคักมากขึ้นอีก เพราะเป็นปลายทางของหนึ่งในสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน  

ตลาดบางแค เป็นตลาดที่อยู่คู่กับย่านบางแคมาชช้านาน เกิดขึ้นจากที่บริเวณนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ รวมถึงเป็นเส้นทางสัญจรไปมาของผู้คนโดยเรือผ่านทางคลองภาษีเจริญ และคลองบางแค ทำให้พ่อค้า แม่ขายต่างเข้ามาจับจองพื้นที่และปักหลักขายสินค้ากันจนถึงปัจจุบัน

ตลาดสดบางแคนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงก่อนฟ้าสาง ยาวไปจนถึงช่วงหัวค่ำ ตะวันตกดินไปแล้ว ใครเบื่อเดินห้าง กินของแพงก็ลองมาเดินสัมผัสบรรยากาศสบายๆ พูดคุยกับพ่อค้า แม่ขายดูบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องน่าอิจฉาสำหรับคนในย่านนี้ที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งซื้อ-ขายอาหารทั้งแบบเก่า และแบบใหม่ สามารถเลือกได้ตามความชอบ

หรือจะเดินมาหลบร้อนเดินเล่นในห้างติดแอร์เล็กๆ ใกล้กับตลาดบางแคกับ ห้างสรรพสินค้าวันเดอร์ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ที่แบ่งตััวห้างออกเป็นแผนกต่างๆ เช่น แผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต แผนกอาหารสด เป็นต้น

ผู้ปกครองเบาใจเพราะอยู่ในทำเลใกล้แหล่งสถานศึกษา

สำหรับท่านผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยสยาม หรือสถานศึกษาใกล้เคียง ถือเป็นทำเลที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก โดยมหาวิทยาลัยสยามจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ในระยะเดินถึง ถ้าหากในอนาคตรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแล้วเสร็จการเดินทางมายังสถานศึกษา หรือสถานที่ทำงานบริเวณสถานีบางหว้าาจะเป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Analysis

วิเคราะห์โครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae)

จุดเด่นของโครงการ

- อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง – บางแค สถานีสถานีหลักสอง

- เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกทั้งจากฝั่งเข้าเมือง และออกนอกเมือง

- รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่อชีวิตทั้ง ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถาบันศึกษา


การเดินทาง  

ด้านการเดินทางสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งขาเข้าเมืองและออกเมือง โครงการ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดตัดกันระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 2 กับถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อถึงถนนหลักสายอื่นๆ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไปยังถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปนครปฐม หรือวิ่งเข้าถนนราชวิถีต่อเข้าอนุสาวรีย์ได้, ถนนกาญจนาภิเษก ใช้วิ่งยาวไปถึงบางใหญ่ออกจังหวัดสุพรรณบุรี และถนนราชพฤกษ์ที่สามารถใช้วิ่งเข้าเมืองบริเวณสาทรได้ 

ในเรื่องของการจราจรช่วงนี้ต้องทำใจกันหน่อยในเรื่องของการจราจรติดขัด ช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพราะช่วงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง – บางแค (ตอนนี้คืบหน้ามาถึงสถานีหลักสองบริเวณหน้าเดอะมอลล์ บางแค และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562) ซึ่งเมื่อรถไฟฟ้าสร้างแล้วเสร็จ ทางโครงกการจะมีรถ Shuttle bus รับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ด้วย ในระหว่างรอรถไฟฟ้าก็แนะนำให้ขับรถยนต์ หรือนั่งรถโดยสารอย่าง แท็กซี่ รถสองแถว รถประจำทาง หรือวินมอเตอร์ไซค์ไปพลางๆ ก่อน


สภาพแวดล้อม

ถิ่นเก่าที่ผสมผสานเสน่ห์ของความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว

บางแค ถือเป็นหนึ่งในย่านดั้งเดิมของคนฝั่งธนบุรี บ้านเรือจึงยังคงสภาพของชุมชนแนวราบเอาไว้ แต่ก็เริ่มมีความเจริญหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ลบเสน่ห์ของเมืองเก่าไปเสียหมด เพราะยังคงความเงียบสงบไว้ได้ดี เหมาะสำหรับคนอยากพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ หรืออยากอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่คนไม่พลุกพล่านมากมายนัก

ด้านสภาพแวดล้อมรอบโครงการก็ไม่ได้เงียบเหงา แต่ก็ไม่ได้คึกคักมากจนเกินไป เป็นแหล่งชุมชนที่ค้าขายกันตามบ้าน เปิดร้านอาหาร ร้านค้าใต้ตึกแถว หาของกินได้ง่าย เพราะอยู่ไม่ไกลจากตลาดสาย 2 และ ตลาดบางแค ส่วนใครที่อยากจะชอป ชิม ชิล ดูหนัง เที่ยวแบบคนเมืองหน่อยก็มีห้างสรรพสินค้าอย่างเดะมอลล์ โลตัส และบิ๊กซี ให้เดินเล่นคลายเหงากัน


แบบห้อง

สำหรับแบบห้องของ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) ทางโครงการขายแบบ Fully Furnished ให้แอร์ ชุดครัว ชุดเฟอร์นิเจอร์จาก Index และสุขภัณฑ์ตามมาตรฐานของคอนโดทั่วไป มีให้เลือกทั้งหมด 4 Type ด้วยกัน คือ Studio พื้นที่ใช้สอย 24-24.5 ตร.ม., 1 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 26-27 ตร.ม., 1 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 30-32 ตร.ม. และ 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 45.5-46 ตร.ม. แต่ละห้องจัดแบ่งฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน แต่จะมีรูปแบบคล้ายๆ กัน จะต่างกันแค่ความลึกของห้องเล็กน้อยเท่านั้น ด้านพื้นที่ห้องก็ถือว่าได้ห้องค่อนข้างใหญ่ เชื่อมสเปซถึงกันทำให้ห้องดูกว้าง ครัวที่ได้จะเป็นครัวแบบเปิดอาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารมีควัน และมีกลิ่นเยอะ แต่ก็มีระเบียงที่ช่วยด้านการระบายกลิ่นอยู่ใกล้ๆ แต่ก็อาจจะทำหน้าที่ได้ไม่ดีเท่ากับการทำครัวเป็นระบบปิด


สิ่งอำนวยความสะดวก

ด้านพื้นที่ส่วนกลางมีมาให้ตามมาตรฐานของคอนโดทั่วไป ประกอบด้วยล็อบบี้, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์ สวนลอยฟ้าสวนหย่อม สนามเด็กเล่น และพื้นที่สีเขียวรอบโครงการทำให้สัมผัสถึงธรรมชาติที่หาไม่ได้ในตัวเมือง และมีสระว่ายน้ำที่โดดเด่นด้วยขนาดเทียบเท่า Olympls Size ที่กว้างถึง 50 เมตร พร้อมกับแยกสระเด็กให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัย


ราคา

เริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท เฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 53,750 บาท ส่วนาคาสำหรับปล่อยเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 บาท/เดือน เหมาะสำหรับจะซื้อเพื่ออยู่อาศัย แถมเป็นคอนโดที่ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ครบครัน มีส่วนกลางตามมาตรฐาน พร้อมกับอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่อำนวยความสะดวกให้กับชีวิตได้ดี ก็ถือว่า เป็นเรทราคาที่รับได้สำหรับคอนโดในแถบชานเมือง


ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค (Fuse Sense Bangkae) เป็นคอนโด High Rise เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย อยากได้คอนโดไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายอนาคตมากนัก อยู่ในเรทราคาหยิบจับได้ไม่ยาก และเป็นกลุ่มคนทำงานที่อยู่ในย่านนี้หรืออยู่อาศัยในย่านนี้อยู่แล้ว หรือถ้าใครจะต้องเข้าเมืองบ่อยๆ ก็ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตนเอง 

แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ