[Review] เปิดรับความสุขส่วนตัวที่ ‘PHYLL Phahol 34’ สัมผัสชีวิตสมดุล ใกล้ชิดธรรมชาติ ลงตัวทุกไลฟ์สไตล์

• ฟีล พหล 34 มาในบรรยากาศรีสอร์ตหรู ที่ร่มรื่น สงบ สวยงาม และให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยการออกแบบพื้นที่โครงการอย่างเป็นสัดส่วน แบ่งออกเป็น 4 อาคารชัดเจน พร้อมมีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาตั้งแต่ประตูทางเข้า, ตัวอาคาร และลานจอดรถ
• ‘ห้องชุดพักอาศัยตกแต่งพร้อมอยู่ Fully Furnished’ ครบครันด้วยฟังก์ชันและเฟอร์เจอร์นิเจอร์คุณภาพดี พร้อมให้ดีเทลรายละเอียดต่าง ๆ รองรับไลฟ์สไตล์คนเมือง ตอบโจทย์การใช้งานจริง
• ‘พื้นที่ส่วนกลางมีความหลากหลาย’ ตกแต่งสไตล์รีสอร์ต สบายตาด้วยพื้นที่สีเขียว น่าพักผ่อน โดยอาคารคลับเฮาส์จะถูกจัดวางแยกสัดส่วนอยู่ตรงกลาง ทำให้การใช้งานมีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย
• ฟีล พหล 34 อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS เสนานิคม และถนนสายหลัก ‘พหลโยธิน’ จึงเดินทางสะดวกทั้งผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าและรถยนต์ส่วนตัว ทั้งยังจัดเป็นทำเลคุณภาพของฝั่งกรุงเทพตอนเหนือที่มีความเจริญสูง ใกล้สถานที่สำคัญมากมาย
• ฟีล พหล 34 นับเป็นหนึ่งโครงการที่คุ้มค่าเหมาะทั้งการซื้อ ‘เพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า’  อีกทั้งยังเป็นโครงการในเครือเซ็นทรัลพัฒนา ที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก, สถานที่ทำงานและสถานศึกษา ในราคาเฉลี่ย 120,000 บาท/ตร.ม. 

ลงทะเบียนสอบถามข้อมูล
https://bit.ly/3abeqHT

รายละเอียดโครงการ PHYLL Phahol 34

ชื่อโครงการ : PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34)

เจ้าของโครงการ : บริษัท ซีพีเอ็น เรซซิเด้นส์ จำกัด

ที่ตั้งโครงการ : ซอยพหลโยธิน 34 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 พื้นที่โครงการ : 3-4-7.4 ไร่

ลักษณะโครงการ : Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร

จำนวนห้อง : 358 ยูนิต

รูปแบบห้อง :

• Type A : 1 Bedroom ขนาด 25 Sq.m.
• Type B : 1 Bedroom ขนาด 28 Sq.m.
• Type C : 2 Bedrooms ขนาด 35 Sq.m.

ที่จอดรถ : 32% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

ราคาเริ่มต้น : 2.89 - 5 ล้านบาท*

Floor Plan และพื้นที่ส่วนกลาง โครงการ PHYLL Phahol 34

สำหรับโครงการฟีล พหล 34 (PHYLL Phahol 34) จะประกอบอาคารชุดพักอาศัย Low Rise จำนวน 4 อาคาร รวมห้องพักอาศัยทั้งหมดอยู่ที่ 358 ยูนิต และบริเวณตรงกลางจะมีอาคารคลับเฮาส์ตั้งอยู่ ซึ่งแต่ละอาคารจะมีพื้นที่จอดรถกับโถงลิฟต์เป็นของตัวเอง ให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่วุ่นวายซึ่งกันและกัน อีกทั้งผู้พักอาศัยยังสามารถเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก โดยไม่รบกวนพื้นที่ส่วนตัว

• บริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมด เมื่อรวมกับที่จอดรถชั้นใต้ดินแล้ว จะสามารถรองรับการจอดได้ประมาณ 32% โดยแต่ละอาคารจะใช้ระบบ Keycard Access ในการผ่านเข้า-ออกโถงลิฟต์ เพื่อขึ้นไปยังห้องพักอาศัย และมีลิฟต์ให้บริการอาคารละ 2 ตัว
• ตั้งแต่ชั้น 2 - 8 จะเป็นพื้นที่ Residential สำหรับการพักอาศัยโดยเฉพาะ มีจำนวนห้องพักอาศัยสูงสุด 14 ยูนิตต่อชั้น โดยตำแหน่งห้องด้านในจะเป็นห้อง Type C ที่หันระเบียงเข้าหาพื้นที่ส่วนกลางนั่นเอง
  

    และในส่วนของแขกหรือบุคคลทั่วไปจะมีระบบ VMS Security ที่เจ้าของบ้านสามารถส่ง QR Code ให้ผู้มาเยือน เพื่อใช้ยื่นเวลาผ่านเข้า-ออกประตู เพื่อความสะดวก ปลอดภัย พร้อมมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

• ทางเข้าอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า ‘เสนานิคม’ โดยทางโครงการจะมีการร่นระยะเข้ามา เพื่อช่วยลดความวุ่นวายบริเวณหน้าโครงการ

  
  

เมื่อเข้ามาด้านใน... เราจะเห็นต้นไม้และพื้นที่สีเขียวตกแต่งอยู่ตามมุมต่าง ๆ คอยให้ความสดชื่นทั่วบริเวณ โดยการสัญจรภายในโครงการจะเป็นการเดินรถแบบ One Way วนรอบโครงการ และมีจุด Drop off อยู่ทางด้านหน้า สามารถวนรถออกได้ทันที

ส่วนผู้พักอาศัยที่ต้องการนำรถเข้าจอดใต้อาคาร ก็สามารถใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้า-ออกระบบ Easy Pass เหมือนเป็น Double Security ที่ให้ความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยทางเข้านั้นจะอยู่ใต้อาคาร B ก่อนจะวนกลับมาเพื่อออกจากโครงการที่ใต้อาคาร A นั่นเอง

พื้นที่จอดรถสามารถเลือกจอดได้ทั้งสองฝั่ง ทั้งยังมีทางลงลานจอดรถชั้นใต้ดิน และที่จอดรถใต้อาคารคลับเฮาส์เพิ่มเติมด้วย

เพียงเข้ามายัง ‘โถง Lobby หรือ Well-Being Club’ ก็สัมผัสได้ถึงความปลอดโปร่ง ตัวโถงสว่าง สดใส รับกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการตกแต่งกระจกบานสูงแบบ Floor to Ceiling ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ ทั้งยังเปิดรับบรรยากาศภายนอกให้ความผ่อนคลาย น่าใช้งาน พร้อมมีมุมที่นั่งหลากหลาย ทั้งมุมโซฟาและเก้าอี้รับรอง เหมาะจะใช้นั่งพบปะพูดคุย หรือนั่งเล่นรอเวลาก็เพลินไปกับบรรยากาศสบาย ๆ

ภายในมีโซนที่นั่งให้เลือกหลายมุม ทั้งโซฟาพักผ่อน, โต๊ะประชุม และบาร์นั่งเดี่ยว พร้อมด้วย Wifi และปลั๊กไฟสำหรับการทำงาน หรือถ้าใครรู้สึกเหนื่อยล้าก็มีมุมพักสายตาให้ผ่อนคลายความเครียด มองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียว กำแพงต้นไม้ ช่วยเพิ่มความสดชื่นตลอดทั้งวัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเวทเทรนนิ่ง หรือคาร์ดิโอก็สามารถสนุกไปกับการออกกำลังกายได้ไม่ต่างกัน ด้วยเครื่องเล่นที่หลากหลาย พร้อมจัดวางเว้นระยะเพื่อให้พื้นที่ดูโปร่ง ไม่อึดอัด ตอบโจทย์ New Normal

นอกจากนี้ ด้านในห้องน้ำก็ยังมี “ห้องซาวน่า” ให้เราเข้ามานั่งเรียกเหงื่อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือดอีกด้วย ซึ่งฟังก์ชันทั้งหมดนี้จะได้มาครบทั้งห้องน้ำชาย และห้องน้ำหญิง

ผ่อนคลายท่ามกลางสายน้ำเย็นสบาย อีกหนึ่งความสุขที่สามารถสัมผัสได้ในโครงการ PHYLL Phahol 34 โดยสระว่ายน้ำนี้จะตกแต่งสไตล์รีสอร์ต ล้อมรอบด้วยมุมพักผ่อนสีเขียวสบายตา ให้ความร่มรื่น ซึ่งตัวสระมีขนาด 6.5 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมแบ่งมุมสระเด็ก และจากุชซี่ไว้ให้ด้วย

บริเวณริมสระมีที่นั่งตัวใหญ่ indoor เอาไว้รองรับด้วย เผื่อใครอยากขึ้นมานั่งรับวิว เสพบรรยากาศชิลล์ ๆ ของสระว่ายน้ำในช่วงเวลาว่าง

เมื่อมองลงมาจากระเบียงห้องพักอาศัย เราก็จะได้รับวิวสวย ๆ แบบใกล้ชิด โดยแต่ละอาคารจะมีการเว้นช่องว่างให้ลมสามารถผ่านได้สะดวก ช่วยให้บรรยากาศภายใน PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) นั้นค่อนข้างเย็นสบาย มีลมพัดโชยตลอดเวลา

และก่อนที่เราเข้าไปดูห้องตัวอย่างกัน… บริเวณโถงอาคารของ PHYLL Phahol 34 สูงโปร่ง มีช่องรับแสงอยู่ตรงมุมอาคาร ช่วยให้บรรยากาศด้านในไม่มืดจนเกินไป และมีโคมไฟ, Heat Detector, Smoke Detector, Sprinkle และกล้อง CCTV ติดตั้งมาให้ครบ เป็นมาตราฐานเดียวกับคอนโด High rise

สำหรับลิฟต์โดยสารจะได้อาคารละ 2 ตัว เป็นระบบแบบล็อกชั้น ล็อกอาคารเพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย โดยเฉลี่ยนอัตราส่วนการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 1 : 40 ในอาคาร A กับ B และ 1 : 49 ในอาคาร C กับ D ซึ่งถือว่าเพียงพอ สามารถใช้งานได้สะดวกทุกช่วงเวลา

Type C : 1 Bedroom ขนาด 35 Sq.m.

สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันจะเป็นห้อง 1 Bedroom Type C พื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร ที่ภายในมาพร้อมฟังก์ชัน และเฟอร์นิเจอร์ครบครันแบบ Fully Furnished ลงตัวกับพื้นที่และทุกการใช้งาน สามารถอยู่อาศัย 1-2 คนได้สบาย ๆ

นอกจากนี้ จุดเด่นของโครงการ PHYLL Phahol 34 ยังอยู่ที่ห้องพักอาศัยทุกแบบจะเป็นแปลนแบบหน้ากว้าง โดยห้อง Type C จะมีหน้ากว้างอยู่ที่ 7.60 เมตร ระดับฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตรให้ความรู้สึกเปิดโล่งเสมือนอยู่บ้าน

    พร้อมออกแบบฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างดี มีความเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยบริเวณกลางห้องจะเป็นพื้นที่ของ ‘Common Area’ ที่ทอดยาวตั้งแต่หน้าประตูเชื่อมต่อกับ ‘มุมรับประทานอาหาร’ เข้าไว้ด้วยกัน ส่วนขวามือจะเป็น ‘ห้องครัวกับระเบียงด้านนอก’ ซึ่งจะช่วยในการระบายกลิ่นและอากาศให้ดียิ่งขึ้น และมี ‘ห้องน้ำ’ อยู่ซ้ายมือ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ถัดไปด้านในจึงจะเป็นพื้นที่พักผ่อนหลักอย่าง ‘ห้องนอน’ นั่นเอง

• ประตูหลัก : บานประตู HDF จากแบรนด์ SCG ขนาด 0.9 x 2.0 ม. พร้อมกลอนล็อก 2 ชั้น และช่องส่องตาแมว

  
  

เพียงเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความสว่างและเปิดโล่งของห้อง เนื่องจากมีแสงจากภายนอกส่องผ่านช่องรับแสงเข้ามาได้เต็มที่ถึง 2 จุด ทั้งใน Common Area และระเบียงฝั่งห้องครัว ทั้งยังเชื่อมโยง Space ส่วนต่าง ๆ เข้าหากันอย่างต่อเนื่อง จึงยิ่งช่วยให้ห้องพักของเราดูกว้างขวางขึ้น

• ระยะฝ้าเพดานสูง 2.50 ม. ส่วนฝั่งห้องครัวปิดจะสูง 2.30 ม. สำหรับการติดตั้งงานระบบ
• พื้นปูไม้ลามิเมตรสำเร็จรูป SCG หนา 8 มม. เดินสบายเท้า ส่วนผนังห้องฉาบเรียบ ทาสีสวยงาม
• บริเวณเพดานติดโคมไฟดาวน์ไลท์ LED โทนอบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อน พร้อมติดตั้งระบบ Smoke Detector และ Sprinkle เพื่อความปลอดภัย 

• มุมห้องติด ‘หน้าต่างกระจกบานใหญ่’ เกือบเต็มผนัง ช่วยให้บรรยากาศของห้องสว่าง กว้างขวาง และสามารถรับวิวได้เต็มสายตา
• พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Daikin Inverter ขนาด 17,000 BTU มาให้เรียบร้อย
• หน้าโซฟากว้างประมาณ 1.6 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะรับชมที่เหมาะสม
  

นอกจากนี้ ยังได้ชั้นวางทีวีแบบหมุนได้ 180 องศา ให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน พร้อมมีชั้นวางของ Built in และจุดต่อโทรทัศน์, ปลั๊กไฟ, สาย LAN มาให้ในตัวด้วย

• สำหรับขนาดโทรทัศน์ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 43 นิ้ว

ถัดมาเป็น “ตู้รองเท้า พร้อมตู้เก็บของบิลต์อิน” ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย หน้าบานปิดผิวสวยงามในโทนไม้สีธรรมชาติ ดูอบอุ่นลงตัวกับการตกแต่งของห้อง โดยตู้ที่ได้ก็มีขนาดใหญ่พอเพียงต่อการใช้งาน สามารถเก็บของต่าง ๆ ได้เยอะ

• ตู้ยกลอยขึ้นมาเหนือพื้น ทำให้เราสามารถกวาด ทำความสะอาดพื้นได้ง่าย

• บานประตูกระจกใสลามิเนต พร้อมมอบ Power Coat สีพิเศษ ดูสวยงาม หรูหรา
  
• ภายในมีระบบ Heat detector และ Sprinkle มาให้เรียบร้อย 

• พื้นห้องครัวปูกระเบื้องแกรนิตตาขนาด 60 x 60 ซม. สีขาวสะอาดตา สามารถเช็ดถู ทำความสะอาดง่าย
• ด้านข้างเว้นที่ว่างให้เราวางตู้เย็นขนาดประมาณ 8.2 คิวบิกได้พอดี หรือใครอยากได้ตู้เย็นหลังใหญ่ขึ้นก็ยังพอเหลือพื้นที่อยู่
  

• ด้านหลังกรุ Back Splash ช่วยป้องกันคราบอาหารและสิ่งสกปรก ทำให้ดูแลรักษาความสะอาดห้องครัวได้ง่ายขึ้น พร้อมปลั๊กไฟ 1 จุดสำหรับใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว อย่าง เครื่องทำกาแฟ, เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น
  

ตู้เก็บของด้านบนมีเนื้อที่ให้จัดวางวัตถุดิบ, เครื่องปรุงต่าง ๆ ได้ค่อนข้างเยอะ เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร และยังแบ่งช่องใส่ไมโครเวฟไว้ให้ในตัว ในตำแหน่งที่ไม่สูงจนเกินไป สามารถหยิบจับถ้วยชามได้สะดวก

ด้านข้างเชื่อมต่อกับ ‘ระเบียงพักผ่อน’ ซึ่งข้อดีนอกจากจะช่วยเพิ่มความสว่างแล้ว ยังช่วยระบายกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าเบา ๆ หรือมื้อหนักจัดเต็ม เราก็มีความสุขกับห้องครัวนี้ได้ทุกวัน

• ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจก สีเขียวตัดแสง ช่วยกรองอุณหภูมิความร้อนส่องเข้ามายังในห้อง

ระเบียงมีขนาดลงตัวกับห้องพัก ส่วนด้านข้างก็สามารถติดราวตากผ้าแขวนผนังเพื่อใช้งานเพิ่มเติมได้ หรือจะตกแต่งทำเป็นสวนเล็ก ๆ ก็ดูดีไม่น้อย ราวกันตกกรุกระจกลามิเนตหนา 8 มม. สูงประมาณ 1.2 เมตร ที่ให้ทั้งความปลอดภัยและสวยงาม

• ด้านบนแขวนคอมฯ แอร์ในลักษณะหันออกนอกอาคาร พร้อมกั้นปิดด้วยระแนงโครงเหล็ก
• พื้นปูกระเบื้องเซรามิก พร้อมมีโคมไฟ และก็อกน้ำ สำหรับการซักล้างทั่วไปให้ด้วย

‘ห้องน้ำ’ มีการแยกโซนเปียกและแห้งชัดเจนด้วย ‘ชุดฉากกั้นอาบน้ำสำเร็จรูป’ ภายในดูกว้างขวาง สะอาดตาด้วยการปูพื้นกระเบื้องเซรามิก และผนังแกรนิตโตโทนสีขาว

บริเวณผนังมีการตกแต่งทำ Low wall และ Drop wall ให้เราจัดวางของใช้ รวมถึงของตกแต่งห้องน้ำได้อย่างเป็นระเบียบมากขึ้น พร้อมติดกระจกส่องเงาทรงสูง ที่สามารถใช้ส่องดูความเรียบร้อยได้ดี

ถัดไปด้านในสุดจะเป็น ‘ห้องอาบน้ำ’ ที่กั้นด้วยพาร์ติชันบานเลื่อนกระจกเทมเปอร์ สูงประมาณ 2 เมตร พร้อมกั้นพื้นสูงขึ้นมา เพื่อป้องกันน้ำไหลและกระเด็นออกไปยังโซนแห้ง ขณะที่ราวแขวนผ้าก็อยู่ตำแหน่งที่เราสามารถเอื้อมมือหยิบได้ถึงจากด้านในห้องน้ำ

ห้องอาบน้ำค่อนข้างพอดีตัว สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สบาย ๆ พร้อมติดตั้ง Hand Shower และจุดติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย ส่วนด้านหลังจะมี Low wall สำหรับใช้วางสบู่, ขวดยาสระผม หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ

ริมห้องติดหน้าต่างใสบานใหญ่ สามารถมองออกไปเห็นวิวและบรรยากาศภายนอกได้เต็มสายตา ทั้งยังทำหน้าที่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติ ช่วยให้ห้องของเราสว่าง ปลอดโปร่ง และถ้าวันไหนรู้สึกอยากพักผ่อนอยู่แต่ในห้องนอน เราสามารถหมุนชั้นวางทีวีเข้ามาได้ทุกเวลา

• หรือใครจะใช้เป็นโต๊ะทำงานไปด้วยในตัว ก็มีพื้นที่ให้เราใช้งานได้สะดวก สามารถจัดเรียงหนังสือไว้ตรงชั้นวางบิลต์อินได้

สำหรับห้อง Type C ของโครงการ PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) นั้นถือว่าสามารถตอบโจทย์ ‘ความคุ้มค่าและความเป็นส่วนตัว’ ได้เป็นอย่างดี มีการแบ่งสัดส่วนให้น่าใช้งาน อีกทั้งยังเป็นห้องแบบหน้ากว้าง จึงให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง

พร้อมตกแต่งครบแบบ Fully Furnished ที่เราจะได้เฟอร์นิเจอร์ Built in และลอยตัวจากแบรนด์ Index อย่างตู้เก็บรองเท้า, ชุดโซฟา, โต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้นั่ง, ชุดครัว, ฐานเตียง 5 ฟุต, โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้สตูล, ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ และยังได้เครื่องปรับอากาศ Daikin Invertor ขนาด 17,000 กับ 9,000 BTU มาให้ด้วย รวมถึงดีเทลเล็ก ๆ ภายในห้อง ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานจริง

ลงทะเบียนก่อนใคร* https://bit.ly/3abeqHT

โครงการ PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน บนทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และติดรถไฟฟ้าสถานีเสนานิคมเพียง 10 เมตรเท่านั้น จึงให้ความสะดวกสบายทั้งด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงด้านการใช้ชีวิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใกล้แหล่งทำงาน, สถานศึกษา, สถานพยาบาล, ศูนย์การค้า, แหล่งไลฟ์สไตล์ มอลล์ ตลอดจนรายล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย

หากขยับไปทางฝั่งหมอชิต... เราก็จะเจอ ‘โรงพยาบาลเปาโล เกษตร’ อยู่ใกล้ ๆ เพียง 100 เมตร ช่วยสร้างความอุ่นใจยามเจ็บป่วย ไม่สบาย ก็สามารถเดินทางมาเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

ข้างกันเป็น ‘ตลาดบางเขน’ ภายในเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารเจ้าดัง เจ้าอร่อยมากมาย ให้เลือกชิมไม่รู้เบื่อ

หรือใครอยากเดินเล่นชอปปิงชิลล์ ๆ ในรัศมี 2 กิโลเมตรจากโครงการ PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) ก็มีทั้งเมเจอร์ฯ รัชโยธิน (800 ม.), อเวนิว รัชโยธิน (1 กม.), เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และยูเนียน มอลล์ (2 กม.) ให้เดินจับจ่ายซื้อของกันได้ทุกวัน

นอกจากนี้ โครงการ PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) ยังรายล้อมด้วยแลนด์มาร์กต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น SCB Park (1 กม.), ตึกช้าง, โรงเรียนหอวัง (1.8 กม.), ปตท. สำนักงานใหญ่ (3 กม.) และสวนจตุจักร (4 กม.) อีกด้วย

หรือถ้าเราขยับไปทางเกษตร… แน่นอนว่าจะต้องเจอกับ ‘มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์’ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) ประมาณ 400 เมตร ซึ่งบริเวณนี้ก็ล้วนเต็มไปด้วยคาเฟ่, ร้านอาหาร และสถานที่ทำงานของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมากมายไม่แพ้กัน

    และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่รอบด้านนี่เอง ที่ส่งผลให้โครงการ PHYLL Phahol 34 (ฟีล พหล 34) เป็นอีกหนึ่งคอนโดรัชโยธิน-เกษตรที่เหมาะแก่การลงทุน ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เอง หรือปล่อยเช่าให้กับนิสิต, บุคคลากรด้านต่าง ๆ ตลอดจนคนทำงานในเมือง โดยคอนโดฯ ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 110,000 - 120,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถูกกว่าคอนโดฯ สะพานควาย-อารีย์, ราชเทวี, หรืออโศก (ที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 157,000 บาท/ตร.ม.) ขณะที่เราสามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกไม่ต่างกันด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อเดียว บวกกับค่า Rental Yield ของย่านนี้ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 5-8% ต่อปี นับว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับศักยภาพของคอนโดติดรถไฟฟ้า ใกล้มหาวิทยาลัยที่ไม่ว่าจะผ่านแค่ไหน แต่ความต้องการด้านที่พักก็ยังคงอยู่

ลงทะเบียนก่อนใคร* https://bit.ly/3abeqHT