รูปหน้าปก ผสานที่สุดของความลงตัว The Private Residence Rajdamri บนทำเลศักยภาพใกล้สวนลุมฯ เพื่อคุณโดยเฉพาะ

[Review] ผสานที่สุดของความลงตัว The Private Residence Rajdamri บนทำเลศักยภาพใกล้สวนลุมฯ เพื่อคุณโดยเฉพาะ

ซอยสารสิน 2 ถนนสารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

Grand Unity Development Co.,Ltd.

HIGHLIGHTS


  • พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เริ่มต้นที่ 1 Bedroom 1 Bathroom 70 - 88 ตารางเมตร
  • โครงการตั้งอยู่ในทำเล Prime Area ใกล้สวนลุมพินี 150 ม. มีสถานเอกอัครราชทูต และสถานที่สำคัญมากมาย อย่าง รพ.จุฬาลงกรณ์, รพ.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์, รร.มาแตร์เดอี,เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ และเกษรวิลเลจ เป็นต้น
  • บรรยากาศภายในซอยสารสิน 2 ที่มีความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวสูง จึงเหมาะแก่การพักอาศัย ‘ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน’
  • อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ราชดำริ และสถานีอินเตอร์เชนจ์ระหว่าง BTS ศาลาแดง กับ MRT สีลม ที่ให้ความสะดวกสบายด้านการเดินทางเป็นอย่างมาก
  • เป็นโครงการ Freehold Residence Condominium ที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุน มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13 ล้านบาท



Project Review

ความต้องการสูงสุดของคุณคืออะไร?


บางคนอาจต้องการงานที่มั่นคง บ้างก็ฝันถึงครอบครัวที่อบอุ่น หรือสำหรับบางคน อาจกำลังตามหาสิ่งหนึ่งมาการันตีความสำเร็จในชีวิต ซึ่งอาจไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ที่สวยงาม ถูกใจ แต่ยังรวมไปถึง 'คุณค่าทางจิตใจ' ที่จะทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ขึ้น


และคอนโดมิเนียมก็เป็นหนึ่งในคำตอบที่หลายคนตามหา และไขว่คว้าอยากมีไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะคอนโด Freehold บนทำเล Prime Area ที่เป็นเหมือนแรร์ไอเทมชิ้นสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ค่อนข้างน้อย เช่นเดียวกับ The Private Residence Rajdamri (เดอะ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ราชดำริ) คอนโด Luxury ที่ตั้งอยู่ในทำเลมูลค่าสูงอย่าง “ราชดำริ – วิทยุ – หลังสวน”  ซึ่งวันนี้ Estopolis ก็กำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันนั่นเอง


รายละเอียดโครงการ The Private Residence Rajdamri

ชื่อโครงการ : The Private Residence Rajdamri (เดอะ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ราชดำริ)

เจ้าของโครงการ : Grand Unity (แกรนด์ ยูนิตี้)

ที่ตั้งโครงการ : ซอยสารสิน 2 ถนนสารสิน

พื้นที่โครงการ : 1-0-4 ไร่

ลักษณะโครงการ : คอนโด Low rise สูง 8 ชั้น

จำนวนยูนิต : 54 ยูนิต (For Sale 25 ยูนิตสุดท้าย)

รูปแบบห้อง :

  • 1 Bedroom 1 Bathroom Type A : 70 - 82 ตร.ม
  • 1 Bedroom 1 Bathroom Type B : 88.00 ตร.ม
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms Type C : 126.00 ตร.ม
  • 2 Bedrooms Plus 2 Bathrooms Type D : 142 - 155 ตร.ม
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms (Type Combine A) : 163 ตร.ม
  • 4 Bedrooms 5 Bathrooms (Type Combine C) : 245 ตร.ม


ที่จอดรถ : ประมาณ 100 % (พร้อมโฉนด)

ราคาเริ่มต้น : 13 ล้านบาท





พื้นที่ส่วนกลางโครงการ The Private Residence Rajdamri

ความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อจิตใจของผู้อยู่ ซึ่งโครงการ The Private Residence Rajdamri เองก็ได้สรรค์สร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยภายในโครงการให้แตกต่างไปจากเดิม ด้วย Facilities และการตกแต่งที่ดูอบอุ่น แฝงไปด้วยรสนิยม


First Impression with
The Private Residence Rajdamri



เมื่อเข้ามายังด้านในโครงการจะเจอประตูทางเข้า Lobby อยู่ทางขวามือ เสมือนเป็นจุดรับรอง คอยดูแล และให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน ด้วยการตกแต่งที่ใช้หินอ่อนสีขาวมาสร้างจุดเด่น ยิ่งสะท้อนล้อกับแสงธรรมชาติจากผนังกระจกใส ยิ่งช่วยให้บริเวณนี้โปร่งโล่ง สบายตา


ก่อนจะเข้าไปยังด้านในอาคาร บริเวณรอบนอกก็มีที่นั่งแบบ Outdoor ให้เลือกนั่งด้วย เหมาะจะลงมานั่งพูดคุย, อ่านหนังสือ หรือปลดปล่อยอารมณ์ไปกับบรรยากาศธรรมชาติ มีต้นไม้ และสนามหญ้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังนั่งเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้านเลย


และเมื่อเข้ามายังส่วนของ ‘Lobby Area’ ก็จะเป็นบรรยากาศอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ให้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกนิด พร้อมจัดสรรแบ่งพื้นที่เป็นมุมต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ แล้วจึงตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ดู Cozy นิด ๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดโซฟาผ้าสีเอิร์ธโทน หรือโต๊ะกระจกสุดโมเดิร์น เราจึงรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ลงมา


นั่งพักให้หายเหนื่อยด้วยมุมโซฟาคู่ที่ให้เราใช้นั่งรอ หรือนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันได้อย่างเป็นกันเอง


อีกทั้งบริเวณด้านข้างล็อบบี้ยังมีมุมนั่งประชุม คุยงาน ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบไว้อย่างดีด้วยการติดกระจกใสแบบเต็มบาน ยาวตลอดแนวที่นั่ง ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีเสียงน้ำไหลช่วยผ่อนคลายความเครียด และสร้างบรรยากาศร่มรื่นให้แก่การพักผ่อนในทุก ๆ วัน


ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะเมื่อถัดไปด้านในสุดจะเจอชุดโซฟาอีกมุมหนึ่ง ที่เหมาะจะเอาไว้รองรับเพื่อนฝูง หรือนั่งเพลิน ๆ รอเวลา บอกเลยว่า… แต่ละมุมล้วนตกแต่งสวย ไม่ต่างจากล็อบบี้โรงแรมเลยทีเดียว


ข้างกันจะเป็นทางเข้าส่วนที่พักอาศัย ซึ่งทางโครงการ The Private Residence Rajdamri จะให้ความเป็นส่วนตัวด้วยการเข้าออกระบบ Keycard Access แตะบัตรเพื่อผ่านประตูเข้าไปยังโถงลิฟต์โดยสาร ภายในยังมี ‘Mailbox’ อยู่ข้าง ๆ ให้เราเดินมาเช็คจดหมายกันได้ก่อนขึ้นห้องด้วย



ขยับไปยังชั้น 8 ของโครงการ The Private Residence Rajdamri ที่จะมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Swimming Pool, Fitness และ Outdoor Recreation Area ไว้คอยมอบความสุขให้กับผู้อาศัยทุกคนอยู่ โดยแต่ละมุมจะได้วิวเมืองสวย ๆ แตกต่างกันออกไป



เริ่มต้นผ่อนคลายด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ ท่ามกลางการตกแต่งที่หรูหราและสะอาดตาด้วย ‘Swimming Pool’ สระว่ายน้ำหินอ่อนสะท้อนแสงอาทิตย์ พร้อมมุมนั่งเล่นที่ให้เราขึ้นมารับความสดชื่นกันได้ตลอดเวลา หรือจะแช่น้ำเพลิน ๆ ก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบ


บริเวณปลายสระจะมีที่นั่ง Pool Seat ให้พักเหนื่อย หากใครจะใช้นอนรับลม หรืออาบแดดก็ผ่อนคลายได้ไม่แพ้กัน ยิ่งได้เครื่องดื่มเย็นชื่นใจมาจิบอีกสักแก้ว ยิ่งมีความสุข


ส่วนปลายสระอีกฝั่งก็มีเก้าอี้ให้นั่งชมวิว เหมาะสำหรับวันว่าง ๆ ที่อยากขึ้นมาสูดอากาศให้สมองปลอดโปร่ง ซึ่งวิวเมืองรอบ ๆ โครงการ The Private Residence Rajdamri ก็ดูโล่งกว้างกว่าที่คิด มีอาคารสูงอยู่ถัดออกไปจากบ้านเรือนพักอาศัย ทำให้ไม่อึดอัดสายตา


ว่ายน้ำเสร็จแล้วก็เข้ามาอาบน้ำล้างตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้ที่ ‘ห้องน้ำส่วนกลาง’ ที่แยกชาย-หญิงไว้ให้เรียบร้อย พร้อมแบ่งสัดส่วนการใช้งานไว้ให้ครบ ส่วนคนที่ชอบผ่อนคลายด้วยการอบไอน้ำ ทางโครงการก็มี ‘ห้องสตรีม’ ให้ชวนกันไปนั่งผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แถมยังช่วยคลายเครียด พร้อมกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดให้ร่างกายเปร่งปรั่ง และนอนหลับสบายขึ้นด้วย


เอาใจสายสุขภาพกันต่อด้วย ‘ห้อง Fitness’ สุดปลอดโปร่งที่ออกแบบมาให้เราสามารถมองเห็นวิวเมือง และบรรยากาศของสวนพักผ่อนได้ชัดเจนผ่านกระจกบานใส ช่วยให้การออกกำลังกายเพลิดเพลินและผ่อนคลายขึ้น พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับใช้เรียกเหงื่อ พร้อมบริหารกล้ามเนื้อให้ฟิตแอนด์เฟิร์มเสมอ


จูงมือกันออกมารับกลิ่นอายความบริสุทธิ์ใต้ร่มไม้ของ ‘Outdoor Recreation Area’ สวนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่โอบอุ้มเราไว้ด้วยต้นไม้สูง และพุ่มไม้ประดับที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว พร้อมจัดวางเก้าอี้นั่งไว้ให้ผู้พักอาศัยได้ขึ้นมาสัมผัสกับความร่มรื่น เย็นสบายนี้ได้ทุกมุม หรืออยากจะจัดปาร์ตี้ ปิ้ง BBQ แบบ Open Air กับเพื่อนๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน


หากขึ้นมาในช่วงเย็น เราก็จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ที่ค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้าลงไปท่ามกลางตึกสูง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมุมความสุขที่สามารถหาได้ที่ The Private Residence Rajdamri นี่เอง


นอกจากนี้ที่ชั้น Rooftop ยังมี ‘Rooftop Organic Garden’ สวนผักออร์แกนิกเล็ก น่ารัก ไว้ให้เราขึ้นมาหาพืชผักสวนครัวอย่าง ขิง, ข่า, ตะไคร้, ใบกะเพรา, โรสแมรี่กลับไปปรุงอาหารได้ หรือจะขึ้นมาชมบรรยากาศใจกลางเมืองแบบ 360 องศาก็สวยงามไม่แพ้กัน




Floor Plan โครงการ The Private Residence Rajdamri


The Private Residence Rajdamri คอนโดมิเนียมเคียงข้างสวนลุมพินี ที่พร้อมให้ความสงบ ร่มรื่น ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นคล้ายบ้าน มีต้นไม้รอบล้อมที่พักอาศัย ช่วยให้การใช้ชีวิตในเมืองดูดีกว่าที่เคย อีกทั้งซอยหน้าโครงการยังเป็นการเดินรถแบบทางเดียว จึงทำให้จังหวะชีวิตของเราสงบตั้งแต่ภายนอกสู่ภายใน
ตามหาความเป็นส่วนตัวที่
The Private Residence Rajdamri



สำหรับที่จอดรถโครงการ The Private Residence Rajdamri จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะอยู่บริเวณใต้อาคาร เมื่อเลี้ยวเข้าประตูผ่านระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงมาจะเจอลานจอดรถให้เราสามารถเข้าจอดได้ทันที พร้อมมีพื้นที่สำหรับจอดรถจักรยานให้เฉพาะ


ส่วนอีกจุดจะเป็นลานจอดรถชั้นใต้ดิน ที่มีทางลงอยู่ด้านใน พร้อมทางเข้าโถงลิฟต์โดยสารที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าออก เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย หากรวมที่จอดรถทั้งหมดแล้วก็จะรองรับได้ถึง 100% เลยทีเดียว


ถัดขึ้นไปตั้งแต่ชั้น 2 จนถึงชั้น 7 จะเป็นพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยตลอดทั้งชั้น โดยแต่ละชั้นจะมีแบบห้องคละกันออกไปให้เราเลือกอยู่กันได้ตามต้องการ และด้วยจำนวนยูนิตทั้งหมดที่มีอยู่เพียง 54 ยูนิต จึงทำให้ทุกชั้นของโครงการ The Private Residence Rajdamri มีห้องชุดพักอาศัยเพียง 7-9 ยูนิตเท่านั้น นับว่าได้เปรียบเรื่องความเป็นส่วนตัว และขนาดพื้นที่ที่กว้างขวางเป็นพิเศษ เพราะแค่ห้อง 1 Bedroom ก็มีขนาดเริ่มต้นที่ 70 ตารางเมตรแล้ว ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรือเป็นคู่ก็ตอบโจทย์


ส่วนใครที่ชอบความเงียบสงบ ห้องบริเวณมุมอาคารทั้งสองฝั่งก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี อยู่ห่างจากโถงลิฟต์ออกมาเล็กน้อย อีกทั้งยังเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบครอบครัว เนื่องจากมีขนาดห้องที่ใหญ่ และห่างไกลจากเสียงรบกวน


โถงทางเดินสูงโปร่งและดูดี คล้ายกำลังเดินอยู่ในโถงโรงแรมห้าดาว นอกจากนี้ประตูของแต่ละห้องยังอยู่ค่อนข้างห่างกันพอสมควร จึงหมดกังวลเรื่องเสียงเปิด-ปิดประตู แถมเมื่อเปิดออกไปยังไม่ต้องเจอกับห้องฝั่งตรงข้ามอีกด้วย



Room Review 1 Bedroom 70-82 SQ.M

แม้การออกแบบ ตกแต่งโดยรวมของโครงการ The Private Residence Rajdamri จะให้ความ Luxury มากเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ ก็คือ “ความสุขสบายยามอยู่อาศัย” ซึ่งเราก็สามารถสัมผัสได้จากภายในโครงการ โดยเฉพาะห้องชุดพักอาศัยที่ให้พื้นที่ใช้สอย, ฟังก์ชัน และรายละเอียดต่าง ๆ มาเป็นอย่างดี ตกแต่งแบบ Fully Fitted


สุขใดเล่า จะสุขเท่าการได้อยู่ในพื้นที่สวย ๆ
อบอวลด้วยกระแสความอบอุ่น
เสมือนบ้านพักใจกลางเมือง


คงปฎิเสธได้ยากว่า ‘พื้นที่ปลอดโปร่งเป็นอิสระ’ ย่อมส่งผลดีต่อจิตใจ และการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน ไม่ต่างจากห้อง 1 Bedroom ของโครงการที่จัดเต็มมาถึง 70-82 ตารางเมตร เพื่อให้เราสามารถบริหาร จัดการส่วนต่าง ๆ ได้เองอย่างที่ใจปรารถนา


โดยด้านหน้าสุดจะเป็นครัวเปิด ที่มีส่วนของ Pantry Bar เข้ามาช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ก่อนจะเชื่อมต่อไปยัง Living Room, Dinning Zone และระเบียงตามลำดับ ทำให้ทุกพื้นที่ไหลลื่นเชื่อมต่อถึงกันหมด ช่วยให้ห้องดูปลอดโปร่งขึ้น ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สุดไพรเวทอย่าง ห้องนอน และห้องน้ำที่ให้เราใช้งานสะดวกด้วยประตูทางเข้าแบบ 2 ทาง



รักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการเข้า-ออกระบบ Digital Door Lock ได้มาตรฐานจาก Yale ที่สามารถทำงานได้สองฟังก์ชัน ทั้ง Keycard Access และ Password โดยตัวประตูจะเป็นบานไม้สวยหรู ด้านในมีช่องตาแมวให้ส่องดู เพื่อความมั่นใจก่อนเปิดต้อนรับแขกที่มาเยือน


“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” ให้การกลับบ้านทุกครั้ง อบอุ่นใจเสมอ ด้วยบรรยากาศชวนมองของพื้นที่พักอาศัยที่กว้างขวาง สามารถทอดสายตาออกไปเห็นระเบียงด้านนอกได้ชัดเจน

  • ระยะฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร พื้นปู Engineering wood เทียบเท่าไม้จริง ที่ให้ทั้งความสวยงามและคงทน ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนใครที่อยากเพิ่มความหรูหรา ก็สามารถตกแต่งด้วยกระจกติดผนัง หรือรูปภาพศิลปะได้ตามต้องการ


ส่งต่อความสุขถึงกันง่าย ๆ ด้วย ‘ห้องครัวสไตล์ Pantry’ ที่อยู่ซ้ายมือ เมื่อกลับเข้าห้องมาก็สามารถวางข้าวของได้ทันที แถมยังมีพื้นที่ให้ยืนทำอาหารได้สะดวก กว้างขวาง พื้นปูด้วยกระเบิ้องแผ่นใหญ่สีดำ ดูโมเดิร์นตัดกับชุดครัวสีขาวที่ทางโครงการ The Private Residence Rajdamri บิลต์อินมาให้สวยงาม ทันสมัย


ชุดครัวขนาดใหญ่ให้เราชวนเพื่อน ชวนคนในครอบครัวมาร่วมสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ร่วมกันได้สบาย ๆ พร้อมครบครันด้วยฟังก์ชันทั้งเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน, ซิงก์ล้างจาน และพื้นที่เก็บของ เหมาะสำหรับคนรักงานครัวเป็นพิเศษ

  • สำหรับใครที่เข้าครัวเป็นประจำ ก็สามารถติด Backsplash ไว้ด้านหลังเช่นเดียวกับห้องตัวอย่างได้ จะช่วยให้เราเช็ดล้าง ทำความสะอาดง่ายขึ้น


      คราวนี้มาดูฟังก์ชันที่ทางโครงการจัดมาให้บ้าง เอาใจคนชอบทำอาหารด้วย Top ครัวหินเทียม ที่ติดตั้งเตาไฟฟ้าขนาด 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควันระบบปล่อยนอกอาคารจากแบรนด์ Teka มาเป็นตัวช่วยให้เราทำอาหารมื้อใหญ่ได้สะดวกขึ้น


      เมื่อขยับไปตรงกลางจะเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร สามารถวางจานชาม, เครื่องปรุง, วัตถุได้หลากหลาย หรือหากใครต้องการใช้เครื่องปิ้งขนมปัง กาน้ำร้อน สำหรับ Breakfast ง่าย ๆ ก็จัดการได้ทันที เพราะมีปลั๊กไฟให้ใช้งานอยู่ 1 จุด


      ทำอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็ลองเปลี่ยนมาอบขนมแทนบ้างด้วยช่องอบ Oven ที่อยู่ทางด้านล่าง ให้เราหยิบจับได้สะดวก ส่วนริมสุดจะเป็นซิงก์ล้างจานแบบหลุมลึก ตัวซิงก์ฝังไปกับเคาน์เตอร์ดูสวยงาม แถมยังเหลือเนื้อที่ให้ตั้งชั้นวาง หรือของใช้อื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย


      ต้องบอกว่าชุดครัวของโครงการ The Private Residence Rajdamri ค่อนข้างสมบูรณ์แบบในตัวเองอยู่แล้ว บริเวณตู้เก็บของด้านบน กับเคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีการแบ่งฟังก์ชันไว้หลากหลาย

        • บานเคลือบเมลามีน เปิด-ปิดแบบ Soft Close ช่วยลดแรงกระแทก และถนอมอายุการใช้งาน


        เคาน์เตอร์ด้านล่างครบทั้งช่องเก็บของเล็ก-ใหญ่, ลิ้นชักใส่เครื่องครัว, ถาดวางช้อนส้อน, ช่องใส่ภาชนะ และตู้ใต้ซิงก์ที่มีถังขยะซ่อนอยู่ด้านในด้วย


        และเมื่อหันไปมองฝั่งตรงข้ามจะเจอประตูที่เปิดออกไปเป็น ‘ส่วนของงานซักล้าง’ โดยภายนอกจะติดตั้งระบบท่อน้ำและปลั๊กไฟให้เรียบร้อย เราจึงสามารถใช้งานเครื่องซักผ้าได้ทั้งแบบฝาบนและฝาหน้า บริเวณพื้นปูด้วยกระเบื้องสีขาว พร้อมแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้ง 2 ตัว หันหน้าออกนอกอาคาร ช่วยให้การทำความสะอาดต่าง ๆ ดูเป็นเรื่องง่าย


        ดูดีมีสไตล์ด้วย ‘Pantry Bar สไตล์ตะวันตก’ ที่ให้เรายกอาหารมื้อพิเศษมานั่งทานกันเพลิน ๆ เหมาะสำหรับมื้อเช้าที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก

        • และไม่ต้องกังวลว่าจะตั้งตู้เย็นไว้ไหนดี เพราะด้านในเคาน์เตอร์นี้ เขามีไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เป็นตู้เย็นไซส์กะทัดรัดเหมาะกับพื้นที่ แถมยังใช้งานสะดวกแค่ก้มลงไปเปิดเท่านั้น 


        นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟให้นั่งทำงาน, ชาร์ตแบตมือถือ หรือใครจะครีเอทเป็นเคาน์เตอร์บาร์ เครื่องดื่มชากาแฟก็ตอบโจทย์มากทีเดียว ทั้งยังทำหน้าที่ช่วยกั้นส่วนต่าง ๆ ทำให้ห้องของเราดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วย


        จากห้องครัวก็ขยับไปที่ห้องที่อยู่ข้างกันอย่าง ‘ห้องน้ำดีไซน์หรู’ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดกว้างขวางกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถเข้าออกได้ 2 ทางทั้งฝั่งห้องครัวและห้องนอน พื้นและผนังปูกระเบื้อง พร้อมติดตั้งเครื่องระบายอากาศไว้ด้านบน


        หากเปิดมาจากห้องครัว จะเจออ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง และมีราวแขวนผ้าขนหนูซ้ายมือให้เราหยิบใช้ได้สะดวก โดยอ่างล้างหน้าจะมาจากแบรนด์ TOTO เกรดคุณภาพ วางอยู่บนเคาน์เตอร์ชั้นเก็บของ พร้อมด้วยกระจกเงาบานใหญ่ ให้เราส่องความมั่นใจได้เต็มที่


        พื้นที่อ่างล้างหน้ากว้างขวาง บิลต์อินอยู่ติดกับผนังด้านในสุด เราจึงมีเนื้อที่ให้วางเจลล้างมือ, สบู่เหลว, เครื่องหอม หรือขวดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดูแลตัวเองทุกคน


        ภายในแบ่งสัดส่วนการใช้งานต่าง ๆ ไว้ชัดเจนเป็นอย่างดี โดยมีอ่างอาบน้ำอยู่ตรงกลาง คั่นระหว่างห้องอาบน้ำกับห้องโถสุขภัณฑ์ ที่มีประตูกระจกเปิด-ปิดมิดชิด และหากใครต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัว ให้ใช้งานพร้อมกันได้ ก็สามารถติดฟิล์มขุ่น หรือมู่ลี่เพิ่มเติมได้เลย


        เหนื่อยไหม? งั้นไปรีแลกซ์ร่างกายกันด้วยอ่างอาบน้ำส่วนตัว ที่ช่วยให้เราผ่อนคลายไปกับสายน้ำเย็น ๆ หรือจะปรับอุณหภูมิเป็นน้ำอุ่นก็ช่วยคลายกล้ามเนื้อให้รู้สึกสดชื่นได้ไม่น้อยเลย และเมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในห้องโถสุขภัณฑ์ก็มีพื้นที่ให้นั่งทำธุระได้สะดวก ไม่อึดอัด พร้อมด้วยสายฉีดชำระ และแท่นใส่กระดาษทิชชู่ครบชุดจากแบรนด์ TOTO


        ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องอาบน้ำ ที่ทางโครงการ The Private Residence Rajdamri ได้ติดตั้งชุดฝักบัวให้ครบทั้ง Rain Shower และ Hand Shower นอกจากนี้ทางโครงการเองก็ได้ติดตั้งระบบเครื่องน้ำร้อน-น้ำเย็นให้เรียบร้อย พร้อมตกแต่งผนังทำเป็น Drop wall ให้เราใช้วางของอย่าง แปรงสีฟัน, ยาสีฟัน หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าได้สะดวก ใกล้มือ


        หมดกังวลว่าพื้นจะเปียกออกมาข้างนอก เพราะนอกจากจะกั้นปิดด้วยประตูกระจกที่สูงเกือบติดเพดานแล้ว บริเวณพื้นห้องอาบน้ำยังเล่นระดับ ช่วยป้องกันน้ำไหลออกมายังด้านนอกด้วย


        เชื่อมต่อทุกกิจกรรม ความสุข และไลฟ์สไตล์ที่ชอบได้ด้วย Free Space ที่เป็นอิสระ ช่วยเปิดโอกาสให้เราได้สรรค์สร้างพื้นที่ของตัวเองได้เต็มที่ ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ซึ่งแม้จะวางชุดโซฟาตัวใหญ่ไปแล้ว ก็ยังมีมุมให้ตั้งโต๊ะทานอาหารคู่กันได้สบาย ๆ


        พื้นห้องปูด้วย Engineering Wood ที่ให้ความสวยงามเทียบเท่าไม้จริง ทั้งยังดูลงตัวกับห้องทุกสไตล์ รับกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดได้เป็นอย่างดีจนแทบไม่มีที่ติ


        เปลี่ยนวันธรรมดาให้กลายเป็นวันดี ๆ สำหรับทุกคน ด้วยการตกแต่งห้องนั่งเล่นให้ปลอดโปร่ง โล่งกว้าง โดยบริเวณนี้จะมีระยะหน้าโซฟากว้างกว่า 2 เมตร ไม่ว่าจะตกแต่งเป็น Living Zone, มุมปาร์ตี้ หรือมุมดูหนัง Entertainment ก็ล้วนตอบโจทย์เป็นอย่างดี พร้อมมีแอร์แบบฝังฝ้าคอยให้ความเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน

         

        ขยายพื้นที่ความสุขให้กระจายทั่วทุกมุมห้อง ซึ่งทางโครงการ The Private Residence Rajdamri ก็ได้ตกแต่งพื้นที่เป็นที่นั่งรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง หรือใครอยากปรับเป็นมุมหนังสือ, มุมพักผ่อนชิลล์ ๆ ก็แค่จัดอาร์มแชร์ คู่กับโต๊ะกาแฟสักตัวก็เพอร์เฟคแล้ว


        “อาหารจะอร่อยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับบรรยากาศและผู้ร่วมโต๊ะด้วยเช่นกัน” ซึ่งห้อง Type นี้ก็สามารถให้คำตอบคุณได้ ด้วยแปลนห้องที่เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูสว่าง และกว้างขวางขึ้น เนื่องจากได้แสงธรรมชาติส่องผ่านประตูกระจกแบบ Full Height Window เข้ามา โดยประตูระเบียงจะเป็นแบบบานเลื่อนกระจกตัดแสง สามารถออกยื่นรับลมได้ตลอดเวลา


        ให้เราปลดปล่อยความเหนื่อยล้าไปกับพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ ด้วยความกว้างที่สามารถตกแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมุมจิบกาแฟ หรือแต่งเป็นสวนหย่อมขนาดย่อม ไว้คอยให้ความสดชื่นยามกลับมาถึงห้อง ส่วนบริเวณพื้นจะปูกระเบื้อง เพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา และมีราวกันตกสูงประมาณ 1 เมตร


        กลับเข้ามาพักผ่อนในห้องกันต่อ โดยฝั่งตรงข้ามติดกับห้องนั่งเล่นและระเบียง จะเป็นพื้นที่ของ ‘ห้องนอน’ ที่ซ่อนหลังบานประตูพาร์ติชัน ให้ทั้งความเป็นส่วนตัว และดูกลมกลืน สวยงาม หากวันไหนมีเพื่อนมาเยี่ยมห้องก็สามารถเลื่อนปิดได้เลย


        ย้ายเข้ามาใน ‘ห้องนอน’ ซึ่งเป็นเหมือนแหล่งพลังงานบวก ที่เอาไว้ให้เราพักชาร์ตแบตให้ตัวเอง ภายในกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย ๆ แถมยังเหลือพื้นที่ให้ตกแต่งใส่ความเป็นตัวเองได้อีกเยอะด้วย


        ริมสุดของห้องจะมีช่องรับแสงบานใหญ่ กว้างเต็มผนังห้อง เหมาะจะบิลต์อินทำเป็นมุมพักผ่อนส่วนตัว เพราะแค่เราเลื่อนม่านออก ก็จะได้แสงจากธรรมชาติมาช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ห้องน่าอยู่ขึ้น


        ไม่ว่าใครก็ตอบโจทย์ทุกมิติชีวิตได้ง่าย ๆ ด้วยการบิลต์อินโต๊ะทำงาน คู่กับมุมพักผ่อนชิลล์ ๆ ไว้ให้เราใช้เอนกายมองวิว ดูท้องฟ้า ยามเหนื่อยล้า หรืออยากพักสายตาจากการทำงานที่เคร่งเครียด


        ขยับไปอีกฝั่งเตียงก็จะมีพื้นที่ให้จัดวางโต๊ะเล็ก สำหรับตั้งโคมไฟ หรือวางของใช้จำเป็น อย่าง แว่นตา, โทรศัพท์มือถือได้สะดวกด้วย


        ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ห้องนอนเท่านั้นที่น่าสนใจ แต่บรรยากาศภายในยังดูอบอุ่น สงบ ด้วยแสงไฟ warm light ที่เหมาะแก่การพักผ่อน พร้อมมีฟังก์ชัน Walk-in closet ซ่อนอยู่ด้านใน ให้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตแต่ละวัน


        ก่อนจะเข้าไปดูส่วนของ Walk-in closet แบบเต็ม ๆ เราจะเห็นแอร์แบบฝังฝ้าถูกติดตั้งอยู่ด้านบนทางเข้า ช่วยกระจายความเย็นให้ทั่วถึง และสำหรับใครที่อยากได้มุมแต่งตัวแบบมิดชิดขึ้นมาอีกนิด ก็สามารถแขวนม่าน หรือพาร์ติชันบานเลื่อนไว้ตรงจุดนี้ได้เลย ส่วนด้านในสุดจะมีประตูบานเลื่อนอีกบาน เพื่อให้เราเข้าใช้งานห้องน้ำสะดวก


        เอาใจเหล่าแฟชันนิสต้าด้วย Walk-in closet ที่ทางโครงการ The Private Residence Rajdamri ได้บิลต์อินมาให้เป็นอย่างดี โดยส่วนแรกจะเป็นมุมแต่งตัว ที่ให้เรายืนเลือกชุด พร้อมสวมใส่เสื้อผ้ากันอย่างสบายใจ ภายในมีทั้งราวแขวน และช่องเก็บของครบครัน


        เมื่อได้ชุดที่ถูกใจแล้ว ก็มาเสริมบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจกันต่อที่มุมโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งทางโครงการก็ได้บิลต์อินโต๊ะ, ชั้นวาง และติดกระจกเงามาให้เรียบร้อย เหลือแค่หาเก้าอี้สตูลเก๋ ๆ สักตัวมาตั้งไว้ เท่านี้ก็พร้อมโลดแล่นแล้ว


        • สำหรับห้อง 1 Bedroom จะได้ชุดครัวบิลต์อิน, สุขภัณฑ์ห้องน้ำจากแบรนด์คุณภาพ TOTO, เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้า สไตล์โรมแรม และ Walk-in closet พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินด้านใน ซึ่งจะค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่อยู่คนเดียว ถึงสองคน ทั้งยังเป็น Type ห้องที่ตอบโจทย์คนทำงานในเมือง สามารถลงทุนปล่อยเช่า หรือขายต่อได้



        Room Review 2 Bedrooms 126 SQ.M



        แค่ดูจากแปลนห้องก็นึกว่าได้บ้านอีกหนึ่งหลัง ที่มีความครบครันอยู่ในพื้นที่ 126 ตารางเมตร พร้อมจัดวาง และแบ่งสัดส่วนห้องต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริง โดยห้อง 2 Bedrooms 2 Bathrooms นี้จะให้ทั้งความอิสระและความเป็นส่วนตัวควบคู่กันไป เริ่มจากพื้นที่ ห้องครัว ที่อยู่ใกล้กับมุมนั่งเล่นขนาดใหญ่ ให้ความสะดวกสบายยามใช้งาน แล้วค่อยเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงด้านนอก ส่วนพื้นที่ส่วนตัวอย่าง ห้องน้ำ, ห้องนอน และห้อง Master Bedroom จะอยู่ถัดเข้าไปด้านในทางฝั่งซ้ายมือ เพื่อให้ความสงบในการพักอาศัย


        เปิดประตูเข้าหาความสบายทั้งกายและใจ ที่ไม่ว่าใครก็อยากมี ด้วยห้องพักอาศัยสไตล์ Homey ที่ตกแต่งโมเดิร์นหรูหราไม่ต่างจากโรงแรม โดยห้อง Type นี้จะตกแต่งแบบ Fully Fitted เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom บริเวณพื้นปู Engineering wood งดงามเทียบเท่าไม้จริง ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าให้ 3 ตัว


        มาถึงแล้วก็ได้เวลาโชว์ฝีมือ อวดเสน่ห์ปลายจวักกันที่ ‘ห้องครัว’ ขนาดกว้างขวาง ให้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น เหมาะสำหรับครอบครัวที่โปรดปรานการทำอาหารเป็นพิเศษ พื้นปูกระเบื้องแผ่นใหญ่สีดำ ทำความสะอาดง่าย 


        ส่วนผนังจะฉาบเรียบให้เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถติด Backsplash เพิ่มเติมเพื่อช่วยป้องกันคราบสกปรกได้ อีกทั้งบริเวณริมห้องยังเหลือพื้นที่ให้เราตั้งตู้เย็นขนาดใหญ่ได้สบาย ๆ


        ขยับออกมายัง ‘Living Zone’ พื้นที่ที่ให้เราแชร์ความสุขร่วมกัน ภายในให้ความรู้สึกสว่าง กว้างขวาง สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะตกแต่งเป็นมุมดูหนัง, มุมนั่งชิลล์ หรือมุมทานข้าวก็ครบจบในพื้นที่เดียว


        โดยจุดเด่นของห้องนี้จะอยู่ที่ความโปร่งโล่งของตัวห้อง ที่ได้หน้าต่างบานใหญ่มาช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ตลอดทั้งวัน


        หากเหนื่อยล้ากับการออกไปเจอโลกภายนอกที่ทั้งร้อนและวุ่นวาย ก็ลองหันมาใช้เวลาว่าง ทำกิจกรรมที่ชอบอยู่ในห้องนี้แทนดู โดยบริเวณ Living นี้จะมีพื้นที่ให้เราสามารถตกแต่งได้หลากหลาย อย่าง มุม Entertainment สำหรับคนชอบดูหนัง ซึ่งทางโครงการก็ได้ติดตั้งปลั๊กไฟ และระบบสายต่อ Cable ต่าง ๆ ไว้ให้เรียบร้อย


        หากวันไหนอากาศดีก็อย่าลืมเปิดม่าน เลื่อนหน้าต่างออกไปรับลมระบายอากาศกัน เหมาะจะวางชุดโซฟาตัวใหญ่สไตล์ Daybed ให้เราใช้นอนดูหนังอย่างมีความสุข หรือจะตั้งโต๊ะทำงานตัวยาวก็เข้าที มีวิวระเบียงให้มองเพลิน ๆ ด้วย


        ย้ายไปทางด้านหลังจะเป็นมุม Dinning ที่ทางโครงการ The Private Residence Rajdamri จะวางโต๊ะอาหารตกแต่งไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เหมาะสำหรับครอบครัวอบอุ่น เพื่อให้ทุกคนกลับมาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุข


        อาหารที่ไหนก็ไม่อิ่มใจเท่าที่บ้าน ยิ่งเราได้รู้ว่ากำลังมีใครรอคุณอยู่ ก็ยิ่งอยากรีบกลับไปใช้เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ร่วมกัน แค่ 30 นาทีบนโต๊ะอาหารก็ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของกันและกันได้แล้ว


        หรือจะดีไซน์เป็นเคาน์เตอร์ บาร์เครื่องดื่ม, โต๊ะอาหารแบบ Built in ก็ดูดีไปอีกแบบ เหมาะสำหรับคน Active ที่อยากมีพื้นที่ห้องกว้าง ๆ ไว้ทำกิจกรรม หรืองานอดิเรกที่ชอบเพิ่มเติม


        เพิ่มความผ่อนคลายด้วย ‘ระเบียงด้านนอก’ ที่เลื่อนประตูกระจกบานเลื่อนออกไป ก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลจากบริเวณชั้น 1 ที่ทางโครงการ The Private Residence Rajdamri ตกแต่งไว้สวยงาม

        • บานกระจกตัดแสง ช่วยป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี มีรางแขวนผ้าม่านแบบ 2 ราง ให้เลือกแขวนได้ทั้งม่านโปร่ง และม่านทึบ



        พื้นที่ระเบียงกว้างยาวตามขนาดห้องนั่งเล่น พื้นปูกระเบื้องง่ายต่อการทำความสะอาด เราจึงสามารถแต่งเป็นมุมกาแฟ หรือสวนริมระเบียงได้สบาย ราวกันตกสูง 1 เมตรพร้อมติดตั้งไฟโคม, ก็อกสนาม และท่อระบายน้ำให้ครบ ส่วนธรณีประตูสูงประมาณ 3-5 นิ้ว เพื่อป้องกันน้ำฝน และสิ่งสกปรกเข้ามาด้านใน


        กลับเข้ามาพักกายให้สบายใจในพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งห้อง Type นี้จะมีทางเดินเชื่อมเข้าไปด้านใน เพื่อให้ความสงบและเป็นส่วนตัว ช่วยตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวมากขึ้น เผื่อวันไหนคนหนึ่งอยากนอนเร็ว ส่วนอีกคนอยากดูทีวีดึก ๆ ก็ไม่รบกวนกัน


        ‘ห้องน้ำรับรอง’ จะเป็นห้องแรกที่เราจะได้เจอ ภายในตกแต่งหรูหรา และครบครันด้วยชุดสุขภัณฑ์จากแบรนด์ TOTO ทั้งอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำ พร้อมแยกโซนเปียกด้วยประตูกระจกเช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom เพียงแต่ห้องนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำมาด้วยเท่านั้น


        อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ให้เราวางของใช้บนหน้าอ่างเพิ่มเติมได้อีกเยอะ ส่วนด้านบนจะติดกระจกเงาแบบกว้างเต็มผนังห้อง พร้อม Built in ชั้นวางของให้ในตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายตัว หรือจะวางขวดน้ำหอมอโรมา, กระถางต้นไม้เล็ก ๆ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ห้องได้เป็นอย่างดี


        ขวามือจะเป็นโถสุขภัณฑ์ที่ให้เรานั่งทำธุระได้สบายตัว มีสายฉีดชำระ และแท่นแขวนกระดาษทิชชู่อยู่ข้าง ๆ ส่วนด้านบนจะเป็นราวสำหรับแขวนผ้าขนหนู


        ตรงข้ามกันเป็นห้องอาบน้ำ Shower Box ที่มีประตูกระจกบานสูงกั้นปิด ภายในติดตั้งชุดฝักบัวให้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower ซึ่งทางโครงการ The Private Residence Rajdamri ก็ได้ติดระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว


        ถัดมาที่ ‘ห้องนอน’ หรือ ‘ห้องอเนกประสงค์’ ไว้ให้เราออกแบบพื้นที่ได้เองตามต้องการ อย่างครอบครัวไหนที่อยากมีห้องส่วนตัวให้ลูก ก็สามารถตกแต่งเป็นห้องนอนพร้อมมีมุมอ่านหนังสืออยู่เคียงข้างกันแบบนี้ได้เลย


        แม้ทางโครงการจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้กลางห้อง ก็ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้บิลท์อินตู้เสื้อผ้า, ตู้เก็บของได้อย่างไม่อึดอัด หรือใครจะขยับเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์เองก็ได้เช่นกัน โดยส่วนริมสุดของห้องจะมีระเบียงยื่นออกไป ช่วยให้ความสว่าง โปร่งโล่งเหมาะแก่การอยู่อาศัย


        ระเบียงส่วนตัวจะมีลักษณะคล้ายระเบียงด้านนอก พื้นปูกระเบื้องพร้อมติดตั้งก็อกน้ำให้เรียบร้อย ส่วนราวกันตกสูง 1 เมตร สามารถแขวนกระถาง จัดเป็นสวนแนวตั้งได้อีกด้วย


        และด้วยพื้นที่ที่กว้างขวาง ไม่ค่อยแตกต่างจากห้องนอนทั่วไปเท่าไรนัก ทำให้คุณสามารถสรรค์สร้างเป็นห้องทำงาน, ห้องแต่งตัว หรือห้องพักแขกได้สบาย ๆ พร้อมด้วยเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าที่ทางโครงการติดตั้งให้อีก 1 ตัว


        มาถึงพระเอกของงานอย่าง ‘ห้อง Master Bedroom’ ภายในจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ Walk-in closet, ห้องนอน และห้องน้ำในตัว ซึ่งจะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างอิสระและสมบูรณ์แบบ สามารถจบทุกกิจวัตรประจำวันได้ในห้องเดียว


        โดยส่วนแรกจะเป็น Walk-in closet ที่ซ่อนอยู่หลังพาร์ติชันบานเลื่อน ทำหน้าที่เป็นเหมือนด่านแรก และด่านสุดท้ายให้เราผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมเช็คความเรียบร้อยก่อนเข้าหรือออกห้อง ซึ่งทางโครงการ The Private Residence Rajdamri ก็จะบิลท์อินใส่ฟังก์ชันให้เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom ครบทั้งราวแขวนเสื้อ-กางเกง, ชั้นวางของ, ลิ้นชัก และช่องใส่เครื่องประดับ


        ปิดท้ายด้วยโต๊ะเครื่องแป้งบิลท์อินที่อยู่ทางด้านใน ให้เรานั่งดูแลตัวเองได้สะดวก พร้อมมีกระจกเงา และไฟดาวน์ไลท์ติดให้เรียบร้อย


        แต่งตัวเสร็จแล้วก็ออกมาพักผ่อนกันให้เพลิดเพลิน บนพื้นที่ห้องนอนที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก แม้จะวางเตียงขนาด King Size คู่กับโซฟาก็ยังดูปลอดโปร่ง แถมยังเหลือพื้นที่ให้เดิน และใช้ชีวิตได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด พื้นปู Engineering Wood เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าให้อีก 1 ตัว


        นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ ห้องยังตกแต่งด้วยช่องรับแสงบานใหญ่ ทั้งฝั่งหัวเตียงและริมหน้าต่าง ช่วยให้บรรยากาศดูสว่างสดใสเป็นพิเศษ แถมยังสามารถมองเห็นวิวเมืองได้หลากหลายมุม เหมาะจะตกแต่งทำมุมอ่านหนังสือ หรือเก้าอี้ชมวิวเพิ่มเติม


        สำหรับใครที่ชอบนอนดูทีวีในห้อง บริเวณปลายเตียงก็มีจุดติดตั้งโทรทัศน์ให้เรียบร้อย สามารถหาซื้อโทรทัศน์แบบแขวนผนังมาใช้งานได้ทันที หรือจะบิลท์อินทำเป็นชั้นวางของกับโต๊ะทำงานร่วมด้วย ก็ช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยภายในห้องได้เป็นอย่างดี


        ถ้าบรรยากาศห้องเย็นสบายจนไม่อยากออกไปไหน ก็ตกแต่งทำมุมพักผ่อนเพิ่มเข้าไปเสียเลย


        นอกจากนี้ทางฝั่งขวามือก็ยังเหลือพื้นที่เยอะไม่แพ้กัน หากใครอยากได้มุมพักผ่อนอีกสักจุด ก็อาจหาโซฟาเบด หรือโซฟาแบบเข้ามุมมาวางเพิ่มไว้ให้เราย้ายลงมานอนเล่นอ่านหนังสือ หรือจะตั้งตู้หนังสือไว้ด้านหลังอีกสักบานก็ยังได้ แต่ละคนจะได้มุมส่วนตัวเป็นของตัวเอง มีความสุขกับห้องนี้ไปด้วยกัน


        ขยับไปด้านในสุดจะเป็น ‘ห้องน้ำในตัว’ ที่ปิดด้วยประตูบานเลื่อนคล้ายห้องน้ำรับรองด้านนอก ซึ่งจะให้ทั้งความสวยงาม และช่วยประหยัดพื้นที่ห้องได้เป็นดี


        ภายในออกแบบ ตกแต่งเหมือนกับห้องน้ำของห้อง 1 Bedroom มีอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, ห้องอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำให้ โดยแต่ละส่วนจะกั้นปิดด้วยประตูกระจก เพื่อความสะดวกสบาย และมีขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นตามขนาดห้อง


        อ่างล้างหน้ายังคงความหรูหราของลวดลายหินอ่อนไว้เป็นอย่างดี มีพื้นที่หน้าอ่าง พร้อมเคาน์เตอร์ด้านล่างให้วางของใช้, ผลิตภัณฑ์ทำสะอาดผิว และผ้าขนหนูสำรองได้เยอะ หรือถ้าใครต้องการวางถังขยะเพิ่มก็สามารถนำมาวางไว้ใต้เคาน์เตอร์อ่างได้เลย แถมเวลาทำความสะอาดก็สะดวก ดูแลรักษาง่าย


        เยียวยาความเหนื่อยล้าด้วยการลงมาแช่น้ำในอุณหภูมิพอเหมาะ ซึ่งที่ตัวอ่างที่โครงการเลือกใช้จะเป็นของ Bathroom Design มีขนาดใหญ่พอดีตัว พร้อมด้วยฝักบัวให้เราเลือกปรับอุณหภูมิ และใช้งานได้สะดวกขึ้น ส่วนด้านข้างจะมีหน้าต่างให้นอนมองวิวเพลิน ๆ เวลาต้องการความส่วนตัวก็แค่เลื่อนมู่ลี่ปิดเท่านั้น


        บริเวณฝั่งตรงข้ามจะเป็น ‘ห้องอาบน้ำ’ กับ ‘ห้องโถสุขภัณฑ์’ อยู่ข้างกันแบบนี้ เหมาะสำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ด้วยกันหลายคน และหากใครต้องการความมิดชิด ก็สามารถหาม่าน หรือฟิล์มขุ่นมาติดกระจกเพิ่มเติม เพื่อให้เราสามารถใช้งานทั้งสองห้องพร้อมกันได้ในเวลาเร่งรีบ

         

        สำหรับชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็จะมีหน้าตา และมาตรฐานเดียวกันทั้งโครงการ พร้อมมีพื้นที่กว้างขวางให้ใช้งานทำธุระส่วนตัวได้สะดวก



        Location & Lifestyle


        คงปฏิเสธไม่ได้ว่า... ต่อให้เราอยากอยู่เงียบ ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติมากแค่ไหน แต่ความสะดวกสบายของตัวเมือง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจสำคัญอย่าง CBD ก็เป็นปัจจัยใหญ่ที่ช่วยให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ขึ้น


        ใกล้เมือง ใกล้ธรรมชาติ 2 สิ่งนิยามที่ชีวิตตามหา


        ถ้าเช่นนั้นจะเลือกทำไมในเมื่อโครงการเองก็ตั้งอยู่ในซอยสารสิน 2 ถัดจากถนนสารสินเข้ามาเพียง 100 เมตร ทำให้บรรยากาศของซอยนี้เงียบสงบ อีกทั้งการเดินรถยังเป็นแบบทางเดียว จึงช่วยลดความวุ่นวายลงไปได้มาก ไม่ต่างจากการได้อยู่บนพื้นที่ส่วนบุคคลใจกลางเมืองเลย


        หรือหากวันไหนเกิดอยากสูดกลิ่นอายธรรมชาติให้ชุ่มปอด ก็แค่เดินออกจากโครงการไปเพียง 150 เมตร เราก็จะเจอกับ 'สวนลุมพินี' สวนสาธารณะขนาดใหญ่ 360 ไร่ที่มีความสำคัญต่อคนกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สีเขียวที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ เหมาะจะออกมาวิ่งในช่วงเช้า หรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน


        ภายในเต็มไปด้วยต้นไม้สูง และสนามหญ้าเขียวขจี พร้อมมีประติมากรรมศิลปะตกแต่งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ให้เราเพลิดเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นนี้ได้ทุกวัน ซ้ำยังมีกิจกรรมอีเวนต์คอยหมุนเวียนให้เดินเล่นกันตลอดทั้งปีอีกด้วย


        นอกจากนี้บนถนนสารสินยังมีซอยย่อยอย่าง ซอยหลังสวน และซอยมหาดเล็กหลวง 3 ให้เราลัดเลาะ ออกไปข้างนอกได้สะดวก


        เมื่อออกจากซอยมหาดเล็กหลวงมาจะเจอ 'ถนนราชดำริ' ซึ่งเป็นอีกหนึ่งถนนสายสำคัญที่ตัดผ่านความเจริญของเมืองกรุงเทพฯ ตลอด 2 ฝั่งทางล้วนเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ, โรงแรม และแลนด์มาร์กหลายแห่ง


        เริ่มปักหมุดการเดินทางกันที่ 'BTS ราชดำริ' สถานีรถไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถัดจาก BTS สยาม มาเพียง 1 สถานี อีกทั้งรอบ ๆ สถานียังมีสถานที่สำคัญอย่าง ราชกรีฑาสโมสร (RBSC), Peninsula Plaza, และโรงพยาบาลตำรวจอยู่ไม่ไกล


        แน่นอนว่าถ้าพูดถึงย่านราชดำริ หลายคนจะต้องนึกถึงแยกราชประสงค์ด้วย ซึ่งแยกนี้ก็เป็นแยกสำคัญที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์ และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สามารถตอบโจทย์คนได้ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล เวิลด์, เกษร วิลเวจ, The Market และบิ๊กซี ราชดำริ เป็นต้น

        • ส่วนด้านการเดินทางก็ถือเป็นจุดเชื่อมต่อความเจริญ สามารถไปยังแยกปทุมวัน กับแยกประตูน้ำได้สะดวก



        หรือหากขยับไปทางฝั่งเพลินจิต-ชิดลม ก็จะมีเซ็นทรัล เอ็มบาสซี กับเซ็นทรัล ชิดลม ให้เราเลือกชอปสินค้าแบรนด์ดังจากทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า, เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง หรือร้านค้า ร้านอาหารเลิศรสก็ล้วนหาทานได้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ


        นอกจากนี้ 'เพลินจิต-ชิดลม' ยังขึ้นชื่อเรื่องการเป็นที่ตั้งของโรงแรมดังระดับห้าดาว รวมถึง บริษัทต่างชาติอีกมากมาย จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบมีความเป็นสากล แม้แต่การตกแต่ง หรือสถาปัตยกรรมของอาคารต่าง ๆ ก็ยังมีกลิ่นอายตะวันตกผสมอยู่ และยังเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร กับสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ด้วย


        ส่วนด้านการเดินทาง นอกจากจะมีสถานี BTS เพลินจิตแล้ว บริเวณแยกเพลินจิตก็ยังเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท และสามารถเลี้ยวเข้าถนนวิทยุได้ด้วยเช่นกัน


        ซึ่งเมื่อเราวนกลับเข้ามาทางถนนวิทยุ ก็จะเจอกับบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบกว่าย่านที่ผ่านมาเล็กน้อย ด้วยเอกลักษณ์ของทำเลที่เป็นย่านเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ จึงทำให้ที่ดินบริเวณนี้มีคุณค่า และเกิดการพัฒนาพื้นที่ เป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ก่อนจะมีสถานเอกอัครราชทูตประเทศอื่นตามมาเรื่อย ๆ ทำให้ย่านนี้กลายเป็นย่านพักอาศัยของชนชั้นสูงในอดีตไปโดยปริยาย


        จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่หยุดพัฒนา ถูกยกเป็น ‘ย่านใจกลางเมืองระดับไฮเอนด์’ ที่มีมูลค่าในการซื้อขายสูงกว่าตารางวาละ 2 - 3.5 ล้านบาท (ข้อมูลจาก reic.or.th) ทางฝั่งเน็กซัสเองก็ยังคาดการณ์ว่าโครงการใหม่จะมีราคาเฉลี่ยสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% (ข้อมูลจาก nexus.co.th) ซึ่งคอนโด Freehold ก็เป็นเหมือนแรร์ไอเทม และมีโอกาสสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาต่างจากคอนโดแบบ Leasehold ที่หาได้ทั่วไป จึงนับเป็นตัวเลือกที่ดีที่ช่วยตอบโจทย์การลงทุนได้เป็นอย่างดี


        ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะหากเราออกไปยังทำเลอื่นรอบ ๆ โครงการ The Private Residence Rajdamri ก็เจอ Hub ด้านการเดินทางของคนเมือง มีครบทั้งรถไฟฟ้า BTS รถไฟใต้ดิน MRT และทางด่วน-ทางพิเศษอีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณเดินทางไปสู่จุดหมายได้อย่างราบรื่น


        ขยับจากโครงการ The Private Residence Rajdamri ไปประมาณ 650 เมตร จะเจอโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อยู่ก่อนถึงแยกศาลาแดง โดยแยกนี้จะเป็นที่ตั้งของสถานีอินเตอร์เชนจ์ระหว่าง MRT สีลม กับ BTS ศาลาแดง และเมื่อสังเกตด้านข้างสถานี เราก็จะเห็นการก่อสร้าง Dusit Central Park โครงการ Mixed Use ใจกลางเมืองที่จะมาช่วยเพิ่มศักยภาพทำเลโดยรอบให้มีมูลค่าสูงขึ้นอีกในอนาคต


        นอกจากนี้ยังมีจุดขึ้นลงทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 4 ให้เราใช้บริการยามเร่งด่วน สามารถเชื่อมต่อไปยังจุดหมายต่าง ๆ ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที


        สำหรับสภาพแวดล้อมของสีลม-ศาลาแดง แน่นอนว่าจะต้องคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากเป็นหนึ่งย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ตลอดสองข้างทางล้วนเต็มไปด้วยอาคาร สำนักงานใหญ่ และยังเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าพนักงานออฟฟิศ ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชื่อดัง อาทิ Cp Tower และธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

        • ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์เองก็ครอบคลุมกลุ่มคนทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นสีลม คอมเพล็กซ์, ธนิยะ พลาซ่า, ตลาดละลายทรัพย์ และยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ให้เราแวะเดินเล่นชิลล์ ๆ ก่อนกลับบ้านได้ทุกวัน


        A freehold luxury residence,
        truly ultimate home for city living



        ส่วนใครที่อยากรู้จัก ‘ย่านราชดำริ-เพลินจิต-ชิดลม’ ให้มากขึ้นกว่านี้ ก็สามารถติดตามบทความ Survey Location ของเราได้ หรือถ้าใครรอไม่ไหวก็เดินทางไปเยี่ยมชมโครงการจริงได้ที่ The Private Residence Rajdamri ซอยสารสิน 2

        • ราคาเริ่มต้นที่ 13 ล้านบาท
        • ส่วนลดสูงสุด 800,000 บาท
        • ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ถึง 31 ธันวาคมนี้เท่านั้น

        **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กําหนด**


        ลงทะเบียนเพิ่มรับข้อมูลข่าวสารก่อนใครคลิก theprivateresidencerajdamri.com


        • สอบถามรายละเอียดฝ่ายขายโครงการ Sole Agent : CONNEXTION โทร 098 246 5920 และ 02 643 7629



        แบ่งปันบทความให้เพื่อนๆของคุณ